ผมแปลหนังสือ “เปลี่ยนเลนเป็นเศรษฐี” หรือ The Millionaire Fastlane ครั้งแรก เมื่อ 6 ปีก่อน ชอบในความ real ความดิบ พูดเรื่องเงินแบบของจริง ตรงใจ ไม่เพ้อเจ้อ
.
ถ้า 20 ปีก่อน Rich Dad Poor Dad หรือ “พ่อรวยสอนลูก” (ผมเป็นผู้แปลเช่นเดียวกัน) คือ หนังสือการเงิน ณ ช่วงเวลานั้น ยุคนี้ พ.ศ. นี้ ผมก็อยาก
แนะนำให้ทุกคนได้อ่าน “เปลี่ยนเลนเป็นเศรษฐี” ครับ
.
#โค้ชหนุ่ม #TheMoneyCoachTH
同時也有108部Youtube影片,追蹤數超過131萬的網紅ืNANAKE555,也在其Youtube影片中提到,[Live] #คุยต้องรวย EP.19 (17 มิถุนายน 2564)...
「โค้ชหนุ่ม」的推薦目錄:
- 關於โค้ชหนุ่ม 在 Money Coach Facebook 的精選貼文
- 關於โค้ชหนุ่ม 在 Money Coach Facebook 的精選貼文
- 關於โค้ชหนุ่ม 在 Money Coach Facebook 的最佳貼文
- 關於โค้ชหนุ่ม 在 ืNANAKE555 Youtube 的精選貼文
- 關於โค้ชหนุ่ม 在 ืNANAKE555 Youtube 的最讚貼文
- 關於โค้ชหนุ่ม 在 ืNANAKE555 Youtube 的精選貼文
- 關於โค้ชหนุ่ม 在 Money Coach - หน้าหลัก | Facebook 的評價
- 關於โค้ชหนุ่ม 在 Image Coach - Pinterest 的評價
โค้ชหนุ่ม 在 Money Coach Facebook 的精選貼文
ความเข้าใจผิด เกี่ยวกับ PASSIVE INCOME
.
วันนี้มีเวลานั่งดูรายการในช่อง YouTube จับพลัดจับผลูเปิดไปเจอช่องรายการสอนรวยของกูรูธุรกิจและการลงทุน ตอนแรกว่าจะข้ามไป แต่เห็นเขาพูดถึง PASSIVE INCOME แถมยกหนังสือ Rich Dad Poor Dad (พ่อรวยสอนลูก) ที่ผมเป็นคนเรียบเรียงขึ้นมาอ้าง ก็เลยนั่งฟังดูสักหน่อย
.
เผลอแพร๊บเดียว นั่งดูไปตั้งหลายคนหลายตอน แต่บทสรุปที่ได้รับจากการดู ก็คือ ทุกคนพูดเรื่อง PASSIVE INCOME ดีเกินจริง ดีเกินไป เหมือนมีแล้วไม่ต้องทำอะไร ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่เลย
.
วันนี้ผมเลยอยากหยิบยก 5 ความเข้าใจผิดๆ ที่พูดถึงกันบ่อยๆ เกี่ยวกับ Passive Income มาเล่าให้ฟังกันครับ
.
1) PASSIVE INCOME เป็นเรื่องง่ายๆ
.
ที่จริงประเด็นนี้ก็ใช่ว่าจะผิดไปทั้งหมดหรอกนะครับ เพราะ PI ที่ทำได้ง่าย มันก็มีจริงๆ อย่างเช่น “เงินฝาก” แค่เอาเงินไปฝากธนาคาร เราก็ได้ “ดอกเบี้ย” เป็น Passive Income แล้ว เพียงแต่อาจต้องมีเงินฝากเป็นกอบเป็นกำจริงๆ ดอกเบี้ยถึงจะพอเลี้ยงตัวเราได้
.
แต่ถ้าเป็น Passive Income จากธุรกิจและการลงทุน ในรูป “ค่าเช่า” “เงินปันผล” หรือ “ค่าลิขสิทธิ์” เช่น เป็นเจ้าของกิจการ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า การลงทุนในหุ้น หรือกองทุนรวม รวมไปถึงลิขสิทธิ์ในงานที่เราสร้างขึ้น อันนี้ต้องใช้ทักษะและความรู้เพิ่มขึ้นมาเยอะเลย ถึงจะมีรายได้จากทรัพย์สินได้
.
ทั้งนี้ไอ้ประเภท จ่ายเงินครั้งเดียว กินกำไรกันไปตลอด ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ และน่าจะเป็นการหลอกลวงเสียมากกว่า ยิ่งถ้าโฆษณาการันตีผลตอบแทนสูง ๆ อันนี้ยิ่งต้องระวังครับ
.
2) มี Passive Income แล้วเป็นเสือนอนกิน ไม่ต้องทำอะไร
.
ประเด็นนี้คิดว่าน่าจะเป็น Gimmick เอาไว้หลอกคนขี้เกียจอยากรวย อยู่เฉยๆ แล้วอยากได้เงิน ซึ่งก็ไม่่มีจริงหรอกครับ ผมเองมี Passive Income จากทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ดอกเบี้ย ค่าเช่า เงินปันผล และค่าลิขสิทธิ์ บอกได้เลยว่า ไม่ต้องทำอะไรแล้วจะได้รายได้ เป็นเรื่องไม่จริง
.
การมีทรัพย์สินที่สร้างรายได้ อาจช่วยผ่อนแรงให้คุณไม่ต้องทำงานทุกวัน และเลือกจัดสรรเวลาทำงานได้ แต่ไม่ทำงานเลย อันนี้คงไม่ใช่ ยกตัวอย่างเช่น
.
ถ้าคุณมีธุรกิจ: คุณอาจไม่ได้เข้าออฟฟิศทุกวัน เพราะมีลูกน้องคอยช่วยคุณทำงาน แต่คุณไม่ทำงานเลย ไม่บริหารจัดการ ไม่พบปะลูกค้า ไม่มีปัญหาอะไรให้คุณแก้เลย ก็คงจะไม่ใช่
.
ถ้าคุณมีบ้านเช่า: คุณก็ไม่ต้องทำงานทุกวัน สิ้นเดือนคอยเก็บค่าเช่าก็จริง แต่ระหว่างเดือนมีปัญหามาได้ตลอดนะ ไอ้โน่นเสีย ไอ้นี่พัง ผู้เช่ามีเรื่องทะเลาะกับบ้านข้างๆ วันดีคืนดีผู้เช่าย้ายออก ค่าเช่าหายแว๊บเลยนะ
.
ถ้าคุณมีลิขสิทธิ์: คุณก็ต้องคอยบริหารลิขสิทธิ์และผลประโยชน์ของตัวเอง มีเรื่องสู้กับคนละเมิดลิขสิทธิ์อยู่บ่อยๆ
.
ถ้าคุณมีหุ้น: คงไม่มีหุ้นที่ซื้อไว้ครั้งเดียวแล้วกินปันผลจนตายได้หรอกครับ เวลาเปลี่ยน ธุรกิจมีทั้งเติบโตล้มตาย พอร์ตหุ้นก็ต้องปรับ มีข้อมูลให้ต้องติดตามอยู่ตลอด
.
โดยสรุปการมี Passive Income ไม่ใช่ว่ามีแล้วจะมีไปตลอด มันก็มีเพิ่มมีลดตามความสามารถในการสร้างรายได้ของทรัพย์สินที่เราถือครอง ดังนั้นมันจะขาดการทำงานของเจ้าของทรัพย์สินไปไม่ได้หรอกครับ
.
เพียงแต่ว่าถ้าคุณมีทรัพย์สินที่สร้างกระแสเงินสด มันจะเหมือนคุณมี “เครื่องผ่อนแรง” ให้คุณได้พักจากการทำงานแลกเงิน (Active Income) อยู่บ้าง ช่วยให้คุณจัดสรรเวลาในชีวิต มีอิสระทางเวลาที่มากขึ้นเท่านั้น
.
จะสังเกตผมใช้คำว่า “เครื่องผ่อนแรง” เพราะมันทำงานให้เราได้ มันก็หยุดเสียหยุดซ่อมได้ อะไรที่มีคำว่า “เครื่อง” นำหน้า มีลักษณะแบบนี้เหมือนกันหมดครับ
.
3) Passive Inome จะทำเงินให้เราไปตลอด
.
ประเด็นนี้ก็ไม่จริงนะครับ ไม่มีอะไรเป็นอมตะนิรันดร์กาลขนาดนั้นหรอก จำไว้ว่า ทรัพย์สินใดๆ ในโลกล้วน Dynamic มีขึ้น มีลง มีเติบโต มีตกต่ำ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ด้วยกันทั้งหมดทั้งปวง (สาธุ)
.
ธุรกิจที่เคยทำเงิน วันหนึ่งก็กลายเป็นธุรกิจที่ล่มสลายได้ (ลองนึกธุรกิจที่เราเห็นในตอนเป็นเด็ก แต่วันนี้ไม่อยู่แล้วดู)
บ้านเช่าที่เคยมีคนอยู่อาศัยไม่เคยขาด วันหนึ่งก็อาจร้าง ไม่มีผู้เช่าได้เหมือนกัน (ช่วงโควิดนี่ชัดเลย)
.
ลิขสิทธิ์เพลง หนังสือ ที่เคยได้รับความนิยม วันหนึ่งคนก็ลืม ไม่ซื้อ ไม่โหลด (วันนึงโค้ชหนุ่มหันหลังให้ยุทธจักร ก็คงไม่มีคนซื้อหนังสือโค้ชหนุ่มแล้ว 555)
.
หุ้นที่เคยปันผล วันหนึ่งกิจการไม่ดี ไม่ทำกำไร ก็คงไม่มีปันผล
.
ไม่มีอะไรทำครั้งเดียวแล้วสบายไปตลอดชาติหรอกครับ ทุกอย่างมันมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเสมอ ดังนั้นอย่าเผลอติดกับดักหลอกลวงแบบนี้ การรู้เท่าทันในทรัพย์สินที่เราลงทุน ความรู้ทางการเงินต่างหาก ความพร้อมในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง คือ สิ่งที่จะช่วยให้เรามั่งคั่งและมั่นคงได้จริง
.
4) PASSIVE INCOME ดีกว่า ACTIVE INCOME
.
ได้ยินการพูดถึง Passive Income ที่ไหน ก็มักจะมีการหยิกกัดรายได้จากการทำงาน หรือ Active Income เสียทุกครั้งไป พาลกันไปว่าการเป็นพนักงานประจำนั้นไม่ดี เงินเดือนมีเพดาน ไม่ทำหรือหยุดทำก็ไม่มีรายได้
.
โดยส่วนตัวผมมองว่า รายได้จากการทำงานไม่ใช่สิ่งเลวร้าย และหลายคนก็ใช้มันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างรายได้จากทรัพย์สิน ด้วยการเก็บออม แล้วก็นำเงินไปลงทุนต่อยอด และจากเหตุผลในข้อ 3 ที่ว่า ไม่มีรายได้ช่องทางใดที่เป็นอมตะนิรันดร์กาล Passive Income ที่เรามี อยู่ดีๆ ก็อาจวูบหายไปเลยก็เป็นได้
.
ทางที่ดีผมว่าเราควรมีแหล่งรายได้จากหลายช่องทาง หรือ Multi-Income Stream คือ มีทั้งรายได้จากทรัพย์สินคอยช่วยผ่อนแรง ไม่ให้เราต้องเหนื่อยไปตลอด และมีรายได้จากการทำงาน คอยเติม คอยสะสมต่อยอดความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้น่าจะดีกว่า
.
นอกจากนี้ สิ่งที่ผมอยากจะบอกจากใจของคนที่มี Passive Income พอเลี้ยงตัวแล้วก็คือ ผมเองยังรักและชอบรายได้จากการทำงาน หรือ Active Income อยู่นะ เพราะแม้มันจะต้องทำงานถึงได้เงิน ต้องเหนื่อยอยู่บ้าง แต่ผมรู้สึกว่าการทำงานมันทำให้เรารู้สึกมีคุณค่า และได้รับความรู้สึกดีๆ ที่ได้ทำงาน ยิ่งถ้าได้ทำงานที่รัก ที่เราชอบ และเลือกทำมันด้วยตัวเองแล้วละก็ ยิ่งแจ่มกันไปใหญ่ ส่วน Passive Income ผมชอบที่มันช่วยผ่อนแรง ช่วยลดความกังวลทางการเงิน ทำให้เรามีเวลามากขึ้น และมีทางเลือกที่มากขึ้น
.
สรุปเลยดีกว่าไอ้โค้ช ชอบอะไรมากกว่าระหว่าง Active กับ Passive Income
คำตอบคือ “ทำอะไรที่สนุกแล้วได้ตังค์ กูเอาหมดครับ” 555
.
5) ต้องมี Passive Income ถึงจะมีอิสรภาพการเงิน
.
ถ้ายึดเอาตามนิยามหนังสือพ่อรวยสอนลูก ที่ว่าคนเราจะมีอิสรภาพการเงินได้ ก็ต่อเมื่อมีรายได้จากทรัพย์สินมากกว่ารายจ่ายรวม อิสรภาพทางการเงินแบบนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับ Passive Income แต่ถ้าเรามองว่า อิสรภาพทางการเงินนั้น แก่นของมันคือ อิสระทางเวลา และการเบาบางความกังวลทางการเงิน ก็อาจไม่จำเป็นที่จะต้องมี Passive Income เยอะแยะมากมาย
.
ตัวผมเองตอนเริ่มต้นไม่ได้ตั้งโจทย์ว่าต้องมีรายได้จากทรัพย์สินดูแลตัวเองไปได้ตลอดชีวิต เพราะคิดว่าชีวิตคนเรามันเปลีี่ยนตลอด โจทย์มันถูกปรับตลอดตามเวลาและสถานการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ตอนนั้นเลยคิดโจทย์ง่ายๆ ว่า จะเก็บสะสมเงินให้พอใช้ได้ 5 ปี ให้ได้เร็วที่สุด
.
ลองนึกภาพว่า ถ้า 5 ปีต่อจากนี้ ไม่มีเงินรายได้เลยแม้แต่บาทเดียว เป็นเวลา 1,825 วัน แต่คุณมีเงินพอใช้จ่ายได้ทุกวัน ไม่เดือดร้อน มันทำให้คุณรู้สึก 1) มีอิสระทางเวลาขึ้นนิดนึงหรือเปล่า และ 2) มันเบาบางความกังวลทางการเงินของคุณไปได้บ้างมั้ย
.
ถ้าใช่! ในมุมมองผมนี่ก็เป็น “อิสรภาพทางการเงินเล็กๆ” แล้วเหมือนกันนะครับ ตัวผมเองตอนเก็บเงินพอใช้ 5 ปี มีหยุดพักเที่ยวอยู่ช่วงใหญ่ๆ เลย ประมาณว่าอยากซึมซับอิสระทางเวลาสักหน่อย ตอนแรกกะว่าจะพักผ่อนเต็มๆ 1 ปี สุดท้ายผ่านไปได้ 3 เดือน ก็เหมือนได้พักเต็มที่ คราวนี้กลับมาจัดหนักกว่าเดิม ขยับสู่ความสำเร็จทางการเงินที่เติบโตมากขึ้นได้อีก
.
นี่คือ 5 ประเด็นที่ผมอยากจะเคลียร์และอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับ Passive Income หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับคนกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว และสร้างชีวิตกันทุกคนนะครับ
.
สุดท้ายแล้วการมีรายได้จากทรัพย์สิน ก็ดีกว่าไม่มีแหละครับ แต่การมีความคิดความเข้าใจที่ผิด จะทำให้เราเสียเวลาและไปสู่ความสำเร็จทางการเงินได้ช้า ยังไงก็ลองนำข้อคิดในวันนี้ไปปรับใช้กันดูนะครับ
.
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากมีอิสรภาพการเงินครับ
.
#โค้ชหนุ่ม #TheMoneyCoachTH
โค้ชหนุ่ม 在 Money Coach Facebook 的最佳貼文
คำคม (จมชีวิต)
.
ใครจะรู้ว่า การสนทนาเล็กๆ ในวันธรรมดาวันหนึ่ง จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนคนหนึ่งไปได้ตลอดกาล
.
“เฮ้ยหนุ่ม เอ็งอยากรวยมั้ย” วิศวกรรุ่นพี่หันมาถามรุ่นน้องที่นั่งทำงานโต๊ะติดกัน
.
“อยากสิพี่ … ผมฝันไว้ตั้งแต่ก่อนเรียนจบเลยนะ ว่าวันหนึ่งต้องรวยให้ได้ พ่อแม่และน้องๆ จะได้สบาย” วิศวกรรุ่นน้องตอบด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
.
รุ่นพี่หันมาสบตา แสยะยิ้ม …
“ดี … งั้นเอ็งจำไว้นะ “คนรวยหนะ เขาไม่ทำงานเพื่อเงินกันหรอก”
.
“พี่พูดบ้าอะไรวะ ถ้าคนรวยไม่ทำงานเพื่อเงิน แล้วแม่มทำงานเพื่อแมวน้ำอะไรกัน” นายช่างน้อยเอ่ยปากถามรุ่นพี่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ
.
“คนรวยหนะ เขาทำงานเพื่อเรียนรู้เว้ย” นายช่างใหญ่ยิ้มอย่างผู้มีภูมิ พร้อมส่งหนังสือในตำนานเล่มหนึ่งให้
.
“ไม่เข้าใจหวะพี่ คนรวยไม่ทำงานเพื่อเงิน คนรวยทำงานเพื่อเรียนรู้ แต่แม่มฟังแล้วดูคมดีนะ” ผู้อ่อนอาวุโสทวนคำคมประจำวัน
.
“คำคมหนะ ถ้าแค่จำเอาไว้อวด เอาไว้โชว์ว่ารู้ เอาไว้พูดให้ดูดี มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกนะ มึงต้องเอาไว้คอยเตือนใจและคิดตาม เอาไว้ปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองด้วย” รุ่นพี่ปาฐกถาเป็นวิทยาทาน
.
“โห ... พี่แม่มโคตรเห้ … เอ๊ย โคตรเท่ เลยหวะ”
.
จากกันวันนั้นนายช่างน้อยได้หนังสือติดมือมา 1 เล่ม เขาใช้เวลาไม่ทันข้ามวัน ก็อ่านหนังสือที่รุ่นพี่แนะนำมาจนจบ ด้วยความชอบในเนื้อหา เขาตัดสินใจซื้อหนังสือฉบับภาษาอังกฤษเป็นของตัวเอง 1 เล่ม
.
“หนังสือดีมากเลยครับพี่ อ่านแล้วได้หลักคิดดีนะ แต่ผมก็ยังคิดไม่ออกหวะ ว่าจะทำยังไงให้มีทรัพย์สินเหมือนอย่างที่หนังสือบอก” รุ่นน้องพูดขณะยื่นหนังสือคืนรุ่นพี่
.
“จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ … ถ้าแค่อ่านหนังสือแล้วประสบความสำเร็จ ป่านนี้พวกหนอนหนังสือก็ประสบความสำเร็จกันหมดแล้วสิวะ”
.
“เชี้ย … โคตรจริง!!” นายช่างน้อยสบถเบาๆ กลัวรุ่นใหญ่ได้ยิน
.
สามปีหลังจากค้นพบเคล็ดวิชาร่ำรวย นายช่างน้อยตัดสินใจลาออกจากบริษัท ด้วยเชื่อว่าการออกไปทำธุรกิจส่วนตัว น่าจะเป็นหนทางสู่ความมั่งคั่งที่เหมาะกับตัวเอง
.
“ผมไปก่อนนะพี่ ผมคิดว่าผมเจอทางของตัวเองแล้ว ต้องขอบคุณพี่มากๆ เลย สำหรับหนังสือและคำแนะนำดีดี ยอมรับว่ากลัวอยู่เหมือนกันครับ แต่ถ้าไม่ก้าวขา ชีวิตก็คงไม่ก้าวหน้า” นายช่างน้อยกล่าวคำอำลาในวันลาออก
.
“เยี่ยม!! … ชีวิต คือ การเดินทาง … นักเดินเรือที่เก่งล้วนเคยเมาคลื่นลมในทะเล … จงออกไปแตะขอบฟ้า … สุดท้ายแม้โชคชะตาไม่เข้าใจ” (สองประโยคหลังนี้รุ่นพี่ไม่ได้พูด นายช่างน้อยเติมเอง 555) รุ่นพี่มอบคำคมเป็นคำอวยพร
.
ในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น มีคมความคิดดีดี วิ่งผ่านโสตให้เราได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็น กันอยู่ตลอด สุดแท้แต่ว่า แต่ละคนจะจัดการกับ “คำคม” สวยๆ เหล่านั้นอย่างไร
.
บางคนเลือกที่จะทำแค่ ฟัง … แล้วรู้สึกดีได้ฟังอยู่ 3 วินาที ก่อนกด LIKE แล้วปล่อยคำคมนั้นปลิดปลิวลอยไปกับสายลม
.
บางคนเลือกที่จะทำแค่ “จด” … ลงสมุดสวยๆ แล้วยกระดับเรียกสมุดโน้ตเล่มนั้นว่า “คลังปัญญา” เพื่อเก็บไว้เปิดอ่าน ในวันที่เจอสมุดเล่มนั้นอีกครั้งตอนจัดห้องใหม่
.
บางคนเลือกที่จะทำแค่ “พูด” … คำคมที่จำ แต่ทำไม่เคยได้ เพื่อยกตนให้สูงกว่าคนอื่น แต่ชีวิตไม่มีอะไรดีขึ้น
.
ในขณะที่บางคนเลือกจะ “ฟัง” “จดจำ” แล้วเอามา “เตือนใจ” หรือ “ปรับใช้” ให้เกิดผลลัพธ์ทางบวกกับตัวเอง
.
5 ปีผ่านไป นายช่างน้อยพบอิสรภาพทางการเงินได้จริงในแบบที่ตัวเขาต้องการ หลังจากล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายปี ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จจริงๆ
.
นายช่างน้อยหวนนึกถึงจุดเริ่มต้นของตัวเอง เขายอมรับแต่โดยดีว่า จุดเริ่มต้นที่พาให้เขามาถึงวันนี้ได้ เป็นเพราะคำถามของวิศวกรรุ่นพี่ในวันอันแสนธรรมดาวันนั้นโดยแท้ ด้วยสำนึกรู้คุณ เขาเดินทางกลับไปเยี่ยมนายช่างใหญ่อีกครั้ง หลังไม่ได้พบกับนานร่วม 5 ปี
.
“เอ็งเก่งมาก เอ็งทำได้ตามที่เคยพูดไว้ ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดา” นายช่างใหญ่ยิ้มชื่นชม
.
“ต้องขอบคุณพี่เลยครับ ถ้าพี่ไม่ถามให้ฉุกคิดวันนั้น ผมก็คงไม่มีวันนี้ … ผมมีวันนี้เพราะพี่ให้จริงๆครับ” (ประโยคสุดท้าย นายช่างน้อยไม่ได้พูด ผมพูดเองอีก 555)
.
นายช่างใหญ่ยิ้มดูภาคภูมิใจกับตัวเอง
.
“เออ … ว่าแต่พี่ครับ ผมสงสัยอยู่เรื่องนึง”
.
“ว่าไป” นายช่างใหญ่พร้อม และเปิดโอกาสให้ผู้อ่อนอาวุโสได้เรียนรู้
.
“พี่เก่งขนาดนี้ สอนผมให้คิดออกด้วยคำพูดไม่กี่คำ แล้วทำไมพี่ยังทำงานอยู่อีกละครับ ไหนเมื่อแปดปีก่อนพี่เคยบอกว่า พี่เองเคยอยากเปิด Software House ของตัวเอง ไม่อยากทำงานประจำเป็นลูกจ้างเขาแบบนี้” รุ่นน้องยิงคำถามตรงไปตรงมา
.
รุ่นพี่ยิ้มนิดนึง ก่อนสบตานายช่างน้อย แววตาของรุ่นพี่ในตอนนี้ ไม่ต่างอะไรกับตอนที่เคยเอ่ยปากสอนเคล็ดวิชาสำคัญให้เมื่อ 8 ปีที่แล้ว
.
“เป็นคำถามที่ดี พี่จะตอบเอ็งยังไงดีน้า” รุ่นพี่ทำท่าครุ่นคิด
.
“เอาแบบคมๆ เหมือนเดิมก็ได้ครับพี่ ชีวิตผมได้ดีเพราะคำคมพี่มาเยอะแล้ว” รุ่นน้องยิ้มรอคำตอบด้วยดวงตาเปิดกว้าง
.
“หึหึหึ คำคมอย่างนั่นรึ! … รู้แล้วไม่ทำ มีค่าเท่ากับยังไม่รู้ ยังไงหละ 555”
.
การสนทนาอันทรงคุณค่าของสองนายช่าง จบลงด้วยคำคมอันทรงพลังอีกเช่นเคย
.
วันนี้สบาย
ฟังเรื่องสบายๆ แก้เครียดกันครับ
#โค้ชหนุ่ม #TheMoneyCoachTh
โค้ชหนุ่ม 在 ืNANAKE555 Youtube 的最讚貼文
อยากลงทุนแต่มีเงินอย่างเดียว ระวังจะกลายเป็น"แมลงเม่า"
โค้ชหนุ่ม 在 ืNANAKE555 Youtube 的精選貼文
เรื่องการเงินยิ่งรู้ไว ยิ่งได้เปรียบ !!!
โค้ชหนุ่ม 在 Image Coach - Pinterest 的推薦與評價
15 เม.ย. 2015 - Handsome Coach Shopping Happy Time Shopping กับ บรรดาโค้ชหนุ่มหล่อที่เขาบอกว่า เขาเน้นขายหน้าตา :)) อ. บี Beyond Training, Paul The Star และ ... ... <看更多>
โค้ชหนุ่ม 在 Money Coach - หน้าหลัก | Facebook 的推薦與評價
✎ Meet&Read ตอนนี้ พบ โค้ชหนุ่ม คุณจักรพงษ์ เมษพันธุ์, คุณถนอม เกตุเอม และพิธีกร คุณโอมศิริ วีระกุล กับ "เกมเศรษฐี & ภาษีธุรกิจ 101 กับ ... ... <看更多>