หนังใหม่ลุงกวิน เบคอน ค่ะ You Should Have Left พล๊อตเบสิคมาก เขียนเองยังเบื่อ ผัวเมียต้องการปรับความเข้าใจในความสัมพันธ์ เลยพากันไปพักผ่อนสงบใจใช้เวลาด้วยกันในบ้านพักแถบเวลว์ ทว่าบ้านหลังนี้ เสือกไม่ใช่บ้านธรรมดา เพราะถ้ามันเป็นบ้านธรรมดา มันคงไม่ได้ลงเพจ horrorclub บ้านมันมีประวัติ และมันจะไม่ยอมปล่อยแขกให้หนีไปได้ ความลับสุดสะพรึงในบ้านนี้คืออะไร ไปหาคำตอบเอง!!!
.
จุดที่น่าดูคือเป็นหนังค่าย Blumhouse ซึ่งมักจะมีหนังดีมากกว่าหนังพลาด อีกเหตุผลคือผู้กำกับเรื่องนี้คือ David Koepp ซึ่งตาเดวิดเคยร่วมงานกับลุงกวินมาแล้วสมัยปี 1999 จากหนังสยองขนหัวลุกเรื่อง Stir of Echoes (ใครจำได้คือเก่งมาก)
.
ส่วน You Should Have Left มีกำหนดฉาย 19 มิถุนายนนี้แบบ VOD ค่ะ ดูตัวอย่างไปก่อนล่ะกัน
https://www.youtube.com/watch?v=Bw0-cV_J9q4
stir of echoes 3 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最讚貼文
"ห๊ะ The Sixth Sense มีพล็อตเหมือนหนังของเราเลยเหรอ" เควิน เบคอน นักแสดงนำหนังเรื่อง Stir Of Echoes อาจจะเผลออุทานกับ เดวิด โคปป์ ผู้กำกับหนังของตัวเอง ในเช้าวันหนึ่งหลังเห็นข่าวโปรโมทหนังเรื่องใหม่ของเอ็ม ไนท์ ชยามาลาน คนทำหนังโนเนมจากไหนไม่รู้ "แถมไอ้หนังของบรูซ วิลลิสยังได้ฉายก่อนเราตั้งเดือนนึงด้วย" เขาอาจจะแสดงความกังวลออกมาเล็กน้อยว่าหนังพล็อตเหมือนกันขนาดนี้แต่ฉายทีหลังไม่น่าจะเป็นผลดีแน่ ๆ "แต่นายดังกว่าหมอนั่นตั้งเยอะ นี่เราโปรโมทได้เลยนะว่าหนังใหม่จากคนเขียนบท Jurassic Park กับ Mission: Impossible ยังไงลองไปคุยกับสตูดิโอดูก่อนดีกว่า ว่าเราพอจะเลื่อนวันฉายตัดหน้าได้ไหม"
.
ย้อนกลับในปี 1999 ก่อน The Sixth Sense เข้าฉาย ในช่วงยุค 80's ถึง 90's มันแทบจะหาหนังแนวทริลเลอร์เหนือธรรมชาติที่ประสบความสำเร็จไม่ได้เลย ในยุคก่อนหน้านั้นอาจจะมี Jacob's Ladder หรืออย่าง The Frighteners ของปีเตอร์ แจ็คสัน ที่เป็นแนวคอมเมดี้ แต่ยังไม่มีใครทำออกมาแล้วเปรี้ยงได้เท่า The Sixth Sense ของเอ็ม ไนท์ ชยามาลาน ซึ่งเลือกวางวันฉายในเดือนสิงหาคม ก่อนหน้า Stir Of Echoes ที่เข้าฉายเดือนกันยายน หนังพล็อตคล้ายกันมาก ว่าด้วยเด็กเห็นผีมาในโทนหนังสืบสวนจิตวิทยา ซึ่งบรรยากาศหนังก็จะหลอน ๆ เพราะไม่รู้ว่าผีจะโผล่มาตอนไหน ด้วยสไตล์การเล่าให้คนดูสับสนว่าหนังจะเป็น supernatural thriller มีเรื่องราวเหนือธรรมชาติหรือว่าจะเป็น psychological thriller ที่เล่นกับอาการทางจิต
.
"หนังอะไรนะของเอ็มไนท์มันจะไปฮิตได้ไงวะ" สตูดิโอบอกกับเควิน เบคอน และเดวิด โคปป์ ด้วยความมั่นใจ โดยปกติแล้วแทบไม่เคยมีผู้กำกับและนักแสดงคนไหนจะไปก้าวก่ายเรื่องวันฉายหนังกับสตูดิโอที่มีความชำนาญมากกว่า ยกเว้นแต่ในกรณีนี้ที่คนทำหนังได้อ่านสคริปต์ของ The Sixth Sense แล้วมีความกังวลอย่างมาก สตูดิโออาจจะยกข้ออ้างว่าหนังพล็อตแบบเดียวกันฉายทีหลังก็ดังได้ เช่นในปี 1980 The Changeling หนังพล็อตโรงแรม/คฤหาสน์ ร้างห่างไกลผู้คนมีผีสิงเหมือนกัน ได้ฉายก่อน The Shining ของสแตนลีย์ คูบริค ยังไม่มีปัญหาเลย
.
"ไม่เอาน่า เฮียไม่อยากให้หนังเราได้ชื่อว่าเป็น หนังเกี่ยวกับวิญญาณเรื่องแรก เหรอ" เดวิด โคปป์ ลองตะล่อมกล่อมสตูดิโออีกครั้งเผื่อจะใจอ่อน
"ไม่ล่ะ ฉันอ่านบท The Sixth Sense ละ มันเบามาก ไม่มีใครสนใจจะไปดูหนังแบบนั้นหรอก" สตูดิโอยังคงยืนกรานการตัดสินใจฉาย Stir Of Echoes ทีหลัง แทนที่จะเลื่อนวันฉายมาตัดหน้าในเดือนเมษายน
.
อย่างไรก็ตาม Stir Of Echoes ได้จัดฉายรอบทดลองแล้วกระแสตอบรับดีอย่างมาก นักวิจารณ์ต่างชื่นชมหนังกันถ้วนหน้า ทว่ายังมีเรื่องที่น่ากังวลอีกอย่างคือชื่อหนังช่างจำยากเหลือเกิน (ส่วนตัวเห็นด้วย) ซึ่งเควิน เบคอน พยายามล็อบบี้สตูดิโอขอเปลี่ยนชื่อหนังให้เรียกง่ายขึ้น อย่างเช่น Dig (มีฉากพระเอกขุดดินสนามในบ้าน)
.
The Sixth Sense ทำเงินเฉพาะในอเมริกาไป 293 ล้านเหรียญฯ ขึ้นแท่นหนังทำเงินสูงสุดอันดับสองของปี พร้อมกับเข้าชิง 6 รางวัลออสการ์ ความสำเร็จดังกล่าวยังส่งผลให้เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน เนื้อหอม เป็นผู้กำกับหนังทำเงินที่สตูดิโอไว้วางใจให้ทุนไปทำ Unbreakable, Signs, และ The Village
.
ส่วน Stir Of Echoes ทำเงินเงียบ ๆ เพียง 21 ล้านเหรียญฯ
ไม่มีใครรู้ว่า ถ้า Stir Of Echoes ได้ฉายก่อนจะทำเงินได้มากกว่านี้ขนาดไหน หรืออาจจะแป้กเหมือนเดิมก็เป็นได้ แล้วถ้าได้ฉายก่อนจะส่งผลกระทบต่อ The Sixth Sense หรือไม่สะทกสะท้านต่อปรากฎการณ์ปากต่อปากแต่อย่างใด แต่เราเชื่อเหมือนที่เดวิด โคปป์ และเควิน เบคอน คิดว่าการเอาหนังพล็อตแบบเดียวกันเลือกวันฉายทีหลังในช่วงห่างกันแค่ 1 เดือน คือความผิดพลาดอย่างแท้จริง โดยเฉพาะความเสี่ยงจากการที่หนังฉายก่อนบังเอิญฮิตทำเงินขึ้นมา ยิ่งกลบกระแสหนังที่มาทีหลัง มากกว่าจะช่วยส่งเสริมหนังมาทีหลังเพราะคนส่วนใหญ่คงไม่อยากดูหนังพล็อตซ้ำคล้ายกันในช่วงเวลาไม่ห่างกันมาก
อ้างอิง
- https://www.cinemablend.com/news/1714340/how-the-sixth-sense-totally-screwed-a-kevin-bacon-movie
- https://ew.com/movies/2017/10/13/kevin-bacon-stir-of-echoes-sixth-sense/
#หนังโปรดของข้าพเจ้า
stir of echoes 3 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最讚貼文
Stir of Echoes (1999)
ไม่แปลกใจว่าทำไมเมื่อครั้งแรกที่ออกฉายถึงถูกนำไปเปรียบเทียบกับ The Sixth Sense เพราะหนังมันเล่าเรื่องคล้ายกันคือเด็กเห็นผีมาในโทนหนังสืบสวนจิตวิทยา ซึ่งบรรยากาศหนังก็จะหลอน ๆ เพราะไม่รู้ว่าผีจะโผล่มาตอนไหน ที่เขาบอกว่า Stir of Echoes โชคไม่ดีเห็นจะเป็นเพราะฉายทีหลังหนึ่งเดือนแล้วปรากฎว่า The Sixth Sense ดันโคตรเปรี้ยงทำรายได้ถล่มทลายติดอันดับสองของปีนั้น ซึ่งเห็นเขาบอกกันว่าก่อนหน้าปี 1999 เนี่ยมันไม่มีหนังทริลเลอร์เหนือธรรมชาติ จนกระทั่งการมาของ The Sixth Sense นี่คือพลิกโฉมการทำหนังไปเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็ถูกสร้างและทำขึ้นพร้อม ๆ กับ Stir of Echoes น่ะแหละ แต่ว่า Stir of Echoes ฉายทีหลังแล้วไม่มีหมัดฮุคเด็ดเหมือนเขาก็เลยหายเข้ากลีบเมฆไปเลยทั้งที่หนังก็มีดีในตัวเอง อันนี้ขอเชียร์เลยว่าแม้จะไม่มีหมัดฮุค แต่หมัดแย็บถี่ ๆ ก็ทำให้เราน็อคได้เช่นกัน
.
หนังเล่าเรื่องของ 'ทอม' (Kevin Bacon) ชายหนุ่มที่มีชีวิตธรรมดา ๆ คนหนึ่ง มีภรรยาชื่อ 'แม็กกี้' และมีลูกชายวัย 5 ขวบชื่อ 'เจค' แต่แล้วชีวิตเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเมื่อถูกพี่สาวของแฟนสะกดจิตปลุกจิตสัมผัสในซอกหลืบของเขาขึ้นมา ตั้งแต่นั้นเขาเริ่มรับรู้สัญญาณแปลก ๆ เหมือนจะเห็นวิญญาณปรากฎตัวตลอดเวลา เช่นเดียวกับเจคลูกชายของเขา
.
พูดถึงบรรยากาศก่อน ข้อเท็จจริงคือผีออกมาน้อยแต่สามารถให้ความรู้สึกหลอกหลอนตัวละครเอกได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ดูไปก็แอบเหวอ ๆ ไปเพราะไม่รู้ว่าผีจะโผล่มานาทีไหน แล้วชอบอย่างหนึ่งคือผีในเรื่องไม่ใช่สายแหวะโชว์ตับไตไส้พุงหรือโชว์อะไรให้คนกลัว มันมาฟีลแบบผีก็อยู่ของมันแบบนี้แต่คนดันเห็นเอง แล้วฟีลลิ่งแบบผีพยายามจะขอความช่วยเหลือจากคนก็มาในรูปแบบเหตุผิดปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ฉุกคิดขึ้น
.
**** มีสปอยล์ ****
Stir of Echoes มีลูกเล่นทางจิตวิทยาอย่างหนึ่งให้คนดูสับสนว่าตัวเอกเป็นบ้าคิดไปเองหลังสะกดจิตหรือว่าเห็นผีจริง ๆ เหมือนลูกชายตัวเองที่สื่อสารกับวิญญาณได้ ซึ่งพอหนังเล่าไปสักพักก็เริ่มจะจับทิศทางได้ว่า คนเห็นผีได้จริง ๆ และผีในเรื่องก็คือผีเดือดร้อนที่ต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์ ซึ่งจริง ๆ แล้วผีสามารถสนทนาได้เมื่อคนเปิดใจรับฟัง แต่ตัวเอกของเรื่องปิดกั้นการได้ยิน ผีจึงต้องหาทางบอกใบ้นั่นนู่นนี่ชี้นำทีละนิดให้ตัวเอกค่อย ๆ คลี่คลายเบาะแสได้เอง ถ้าสังเกตการเล่าเรื่องดี ๆ จะพบว่าหนังมันทำนายอนาคตเอาไว้ตลอดเวลาโดยที่เราไม่รู้ตัว
.
โดยสรุปแล้วผมชอบ Stir of Echoes นะ มันล่อหลอกคนดูให้ลังเลระหว่าง supernatural thriller หรือว่าจะเป็น psychological thriller ได้ดี เสียดายที่ฉายทีหลัง The Sixth Sense ไม่งั้นอาจจะดังกว่านี้ก็ได้ แต่จริง ๆ แล้วหนังดียังไงก็เป็นหนังดีอยู่วันยันค่ำ ต่อให้ไม่ดังก็ยังขอเชียร์ให้ลองหามาดูกันครับ
Director: David Koepp (ผกก. Ghost Town, Secret Window)
novel: Richard Matheson
screenplay: David Koepp (เขียนบท Jurassic Park, Mission: Impossible, Angels & Demons)
Genre: mystery, thriller, horror
8/10