สรุปประเด็นจากห้อง Clubhouse ทำไมคนไทยไม่ควรพลาด ในการลงทุนหุ้นเทคโนโลยี ?
BBLAM x ลงทุนแมน
หลังจาก ลงทุนแมน ได้ชวนผู้เชี่ยวชาญหุ้นเทคโนโลยีจากกองทุนบัวหลวง
มาร่วมพูดคุยในเรื่องหุ้นเทคโนโลยีกันแบบเจาะลึก เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
โดยมี 2 Speakers มากประสบการณ์จากกองทุนบัวหลวง ได้เปิดเผยข้อมูลน่าสนใจมากมาย
- คุณเศรณี นาคธน AVP, Portfolio Management กองทุนบัวหลวง
- คุณมทินา วัชรวราทร CFA®, AVP, Portfolio Management กองทุนบัวหลวง
สถานการณ์ความท้าทาย, โอกาสในอนาคต รวมทั้งแนวทางการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้จะเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
คำถามที่ 1 : หุ้นเทคโนโลยีจะกลับมาอีกครั้งหรือยัง ?
สังเกตไหมว่าในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเทคโนโลยีให้ผลตอบแทนได้ดีมาโดยตลอด
โดยในปีนี้ ดัชนีที่รวบรวมบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Nasdaq ก็ให้ผลตอบแทน 12%
ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกว่านักลงทุนเริ่มกลับมาให้ความสนใจหุ้นเทคอีกครั้ง
อย่างในช่วงโควิดที่ผ่านมา เราก็คงได้มีโอกาสใช้บริการแพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Grab, Lazada, Shopee หรือ Netflix
แต่ถ้าถามว่ามุมมองต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในอนาคตจะเป็นอย่างไร ?
แน่นอนว่า สิ่งที่จะทำให้โลกขับเคลื่อนต่อไปได้ก็คือเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้าหรือบริการ ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีในการพัฒนา ให้ถูกขึ้น ดีขึ้น และเร็วขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
รวมไปถึงเรื่องของสังคมผู้สูงวัยทั่วโลก ส่งผลให้แรงงานมีจำนวนน้อยลง จึงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอย่าง หุ่นยนต์ หรือ AI เพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่แนวโน้มการนำเทคโนโลยีเข้ามาผสมกับการแพทย์อื่น ๆ เช่น การหาหมอออนไลน์, การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ, 3D printing ฯลฯ
ซึ่งถ้าถามว่าถึงเวลาของหุ้นเทคโนโลยีหรือยัง ก็จะเห็นได้ว่า ตลาดเริ่มส่งสัญญาณบวกแล้ว เพราะแม้จะมีความชัดเจนในเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่หุ้นเทคในช่วงที่ผ่านมาก็ยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งคุณเอมได้เสริมว่า ทุกวันนี้ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเทคโนโลยียังไม่เปลี่ยนแปลง และกำไรยังเติบโต อีกด้วย จากเหตุผลที่ว่ามานี้หุ้นเทคโนโลยีจึงเป็น Theme ลงทุนหลักของโลกในระยะต่อไปแน่นอน
คำถามที่ 2 : “เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย” ส่งผลต่อหุ้นเทคโนโลยีอย่างไร ?
ปกติแล้ว การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) จะส่งผลต่อหุ้นเทคโนโลยี 2 เรื่องสำคัญ นั่นคือ
- ต้นทุนในการกู้ยืมเงินของบริษัท เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ต้นทุนในการกู้ยืมเงินก็จะสูงตามไปด้วย
- การประเมินมูลค่าหุ้นแบบ Dividend Discount Model (DDM) เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น อัตราคิดลดก็จะเพิ่มขึ้น เมื่อคิดเป็นมูลค่าหุ้นกลับมา จึงทำให้มูลค่าหุ้นเทคโนโลยีลดลง
ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหุ้นเทคโนโลยีค่อนข้างอ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ย นั่นเอง
ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว หลายประเทศเริ่มเปิดเมืองและมีการเร่งฉีดวัคซีน
จึงเป็นไปได้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น นักลงทุนจึงคาดว่า Bond Yield ต้องปรับตัวขึ้นอย่างแน่นอน
ซึ่ง Bond Yield อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ก็เคยปรับขึ้นไปสูงถึงเกือบ 1.8% จากเดิมที่มีตัวเลข 1%
แต่แล้ว.. เมื่อประกาศอัตราเงินเฟ้อออกมาสูงตามที่นักลงทุนคาดไว้จริง ๆ Bond Yield ที่ปรับขึ้นมารออยู่แล้ว จึงเริ่มกลับปรับตัวลดลง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่แท้จริง หรือที่เรียกว่า Real Yield ที่คำนวณจาก Bond Yield หลังหักเงินเฟ้อคาดการณ์ ยังอยู่ในระดับต่ำ -0.8%
สะท้อนได้ว่า ผลตอบแทนพันธบัตรไม่น่าจะเอาชนะเงินเฟ้อได้
จึงส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นกลับมาน่าสนใจ จากนั้นมาหุ้นเทคโนโลยีก็เริ่มปรับตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ
นอกจากนี้ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ผ่านเครื่องมือ Dot Plot
ยังมองว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ (Fed Fund Rate) อาจเกิดขึ้น 2 ครั้งภายในปี 2023
ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เร็วกว่าที่นักลงทุนคาดไว้
นักลงทุนจึงมองว่า ยิ่งการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยมาเร็วมากขึ้น โอกาสที่จะเกิดอัตราเงินเฟ้อย่อมลดลง
ดังนั้น Bond Yield คงไปต่อได้ไม่ไกล จึงน่าจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น รวมทั้งหุ้นเทคโนโลยี อีกด้วย
คำถามที่ 3 : ปัจจัยใดส่งผลต่อ “การปรับฐานของหุ้นเทคโนโลยี” ในตอนนี้ ?
ปัจจัยแรกคือ Bond Yield
หากถามว่า Bond Yield เท่าไรถึงจะส่งผลต่อตลาดหุ้น คำตอบจากการสำรวจของ Bank of America นั้นอยู่ที่ 2.5% ซึ่งปัจจุบันนี้ อัตราดอกเบี้ยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ บวกลบไม่เกิน 1.5%
ดังนั้น กว่าที่ Bond Yield จะปรับตัวสูงถึงระดับนั้น อาจใช้เวลานาน ตลาดหุ้นถึงจะเริ่มปรับฐาน
ปัจจัยที่สองคือ Sector Rotation
เมื่อต้นปีเกิดแรงขายของหุ้นเทคโนโลยี ไปลงทุนในหุ้นวัฏจักรที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง
โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีราคาปรับสูง จนกลายเป็น Commodity Supercycle
สะท้อนได้ว่า สินค้าโภคภัณฑ์กลายเป็น Most Crowded Trade ที่อาจเข้าใกล้จุดสูงสุดไปแล้ว
ดังนั้น เมื่อนักลงทุนเริ่มคลายกังวลในเรื่องอัตราเงินเฟ้อ บวกกับผลประกอบการของเหล่าบริษัทเทคโนโลยีที่ออกมาดี จึงเป็นเหตุผลให้นักลงทุนเริ่มกลับมาลงทุนหุ้นเทคโนโลยีอีกครั้ง
ปัจจัยสุดท้ายที่หลายคนกังวลคือ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น คนยังจะพึ่งพาเทคโนโลยีอยู่หรือไม่ ?
ซึ่งต้องยอมรับว่า พฤติกรรมหลาย ๆ อย่างได้กลายเป็น New Normal ไปเรียบร้อยแล้ว
อาทิ Work From Home, การช็อปปิงออนไลน์, การสั่งอาหารแบบ Delivery
สิ่งเหล่านี้สะท้อนได้ว่า ปัจจัยพื้นฐานการใช้เทคโนโลยีจะยังคงอยู่ต่อไป ไม่เปลี่ยนแปลง
คำถามที่ 4 : “QE Tapering” กระทบหุ้นเทคโนโลยีหรือไม่ ?
การปรับลดวงเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการ QE ของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า QE Tapering
แม้ว่าจะมีวงเงินลดลง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในสถานะอัดฉีดเงินอยู่ดี
โดย QE Tapering เป็นหนึ่งในสัญญาณชี้ว่า สภาวะเศรษฐกิจอาจดีขึ้นแล้วจริง ๆ
เพราะแม้ว่า FED จะลดวงเงินอัดฉีดเงิน แต่เศรษฐกิจและภาคธุรกิจก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้
สะท้อนได้ว่า เราอาจจะกำลังอยู่ในช่วง Mid-cycle ของวงจรเศรษฐกิจ
ซึ่ง Mid-cycle จะเป็นช่วงที่ระดับอัตราดอกเบี้ยไม่ได้สูงมาก และเศรษฐกิจยังโตต่อเนื่องได้
โดยปกติแล้วจะส่งผลดีต่อกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก
ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่าความกังวลเรื่องสภาพคล่องก็ถูก Price In ไปแล้วบางส่วน
เมื่อทุกอย่างชัดเจน เชื่อว่ากลุ่มหุ้นเทคโนโลยีก็พร้อมจะไปต่อได้
นอกจากนี้ ต้องให้เครดิตคุณเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ
ผู้เป็นสุดยอดนักสื่อสาร และเข้าใจตลาดการลงทุน ซึ่งการค่อย ๆ ออกมาพูด ทำให้ตลาดปรับตัวได้
ที่น่าสนใจคือ หุ้นเทคโนโลยีตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา มีเพียงปีเดียวที่ให้ผลตอบแทนที่เป็นลบ คือปี 2018 ที่ให้ผลตอบแทน -1.1% จากมรสุมลูกใหญ่ อาทิ Trade War, ทรัมป์ ทวีต และการประกาศขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีเดียว ส่วนปีอื่นๆ ล้วนให้ผลตอบแทนในอัตราเลขสองหลัก
สะท้อนได้ว่า หุ้นเทคโนโลยีเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ และให้ผลตอบแทนที่ดีได้
คำถามที่ 5 : ถ้าอนาคตเกิด “การดูดกลับสภาพคล่อง” หุ้นเทคโนโลยีจะยังไปต่อไหม ?
ก่อนหน้านี้ สภาพคล่องได้กระจายตัวไปทั่วตลาดหุ้น แม้แต่ในหุ้นที่ขาดทุนไม่มีกำไร
ดังนั้น เมื่อสภาพคล่องลดลง หุ้นที่มีคุณภาพและมีกำไร เชื่อว่าจะยังไปต่อได้
ต่างจากหุ้นพื้นฐานไม่ดี ยังไม่มีกำไร คงยากที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในปีนี้
ทีนี้น่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า ไม่ใช่หุ้นเทคทุกตัว ที่จะน่ากลัวเสมอไป
หนึ่งวิธีที่จะช่วยเฟ้นหาหุ้นเทคในช่วงเวลานี้คือ วิธี Bottom Up
ซึ่งจะเป็นการวิเคราะห์หุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐานจากตัวธุรกิจ ไปยังกลุ่มอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจ
ตัวอย่างเช่น Shopify ธุรกิจ E-commerce แบบครบวงจรสัญชาติแคนาดา ทั้งในด้านการตลาด โกดังเก็บของ และบริการขนส่งสินค้า แม้จะมี P/E สูงมาก แต่ก็สร้างกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเท่าตัว และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องได้ นักลงทุนจึงได้เข้าไปลงทุนจนราคาหุ้นปรับตัวสูง 150% ในปีที่ผ่านมา
ดังนั้น คำตอบของคำถามที่ว่าหุ้นเทคโนโลยีจะยังไปต่อไหม จึงขึ้นอยู่กับการเลือกหุ้น นั่นเอง
โดยลักษณะหุ้นที่มีโอกาสไปต่อก็คือ หุ้นที่ยังไม่แพง หุ้นที่มีกำไรสม่ำเสมอ และเป็นหุ้นใหญ่
อาทิ หุ้นกลุ่ม FAANG, หุ้นกลุ่ม Software-as-a-Service (SaaS) ที่ให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ที่มี Recurring Income หรือมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ และราคาหุ้นยังไม่แพง ก็น่าจะยังไปต่อได้
คำถามที่ 6 : หุ้นเทคโนโลยี “ลงทุนระยะยาว” ได้ไหม ?
หลายคนอาจจะยังไม่กล้าถือหุ้นเทคโนโลยีในระยะยาวเพราะกลัวปัจจัยเรื่องดอกเบี้ย
ซึ่งคำถามสำคัญคือ หากมีการขึ้นดอกเบี้ยจริง ๆ จะเกิดอะไรขึ้น ?
อิงจากสถิติตั้งแต่ช่วงปี 1990 จนถึงปัจจุบัน FED ได้มีการขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 7 ครั้ง บวกการทำ QE Tapering อีก 1 ครั้ง
ผลปรากฏว่า Sector ที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้มาโดยตลอดก็คือ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และยังให้ผลตอบแทนเป็นบวกมากที่สุดเมื่อเทียบกับ Sector อื่น ๆ
หรืออย่างในปัจจุบันเอง ที่มีปัจจัยมากระทบมากมาย อย่างเรื่อง Sector Rotation, ภาษีนิติบุคคลฉบับใหม่, กฎหมายเรื่องการผูกขาด แต่กองทุน B-INNOTECH ยังคงเติบโตกว่า 17%
ดังนั้น ทางกองทุนบัวหลวงก็มองว่า อาจไม่จำเป็นต้องดู Timing มาก แต่ให้เน้นจัดพอร์ตการลงทุนโดยให้คงสัดส่วนหุ้นเทคโนโลยีไว้ เพราะถือเป็น Sector ที่มีโอกาสเติบโตได้ดี เมื่อเทียบกับ Sector อื่น ๆ ในตลาด
คำถามที่ 7 : ตอนนี้ “ควรเลือกลงทุน” หุ้นเทคโนโลยี อย่างไรดี ?
หุ้นเทคโนโลยีในช่วงนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็นหลัก ๆ 3 ประเภท คือ
1. กลุ่ม Hardware เช่น อุปกรณ์ไอที คอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร อย่างบริษัท HP หรือ Logitech
2. กลุ่ม Software as a Service หรือว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้ในบริษัทองค์กรใหญ่ ๆ เช่น Microsoft Office, Salesforce (CRM) และ ServiceNow
3. กลุ่ม Semiconductor เช่น ชิปเซต การ์ดจอ อย่าง TSMC และ NVIDIA
ซึ่งกลุ่มที่ 2 และ 3 นั้นตลาดจะให้ P/E ค่อนข้างสูง เนื่องจากมีอัตราการเติบโตของกำไรที่สูง ต่างกับกลุ่มที่ 1 ที่อาจเติบโตได้ดีแค่ในช่วงโควิด แต่เป็นสินค้าที่คนไม่ได้ซื้อบ่อย ทำให้ตลาดยังให้ราคาค่อนข้างต่ำ
อย่างบริษัท NVIDIA ผู้ผลิตการ์ดจอ ที่กำลังเป็นที่ต้องการของนักขุดเหรียญคริปโทฯ ที่มี P/E สูงถึง 76 เท่า แต่ก็มีอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น ในไตรมาสที่ผ่านมาสูงถึง 100% ในขณะที่กลุ่ม Hardware อย่าง HP หรือ Logitech นั้นจะมี P/E อยู่ที่ประมาณ 20 เท่า เท่านั้น
จะเห็นได้ว่า หุ้นเทคโนโลยีแต่ละกลุ่มนั้น ให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้น การเลือกกองทุนที่มีนโยบายบริหารแบบ Active Management หรือ กองทุนที่มีเป้าหมายเพื่อเอาชนะดัชนีอ้างอิง จึงเป็นนโยบายที่เหมาะกับการลงทุนใน Theme เทคโนโลยีนี้ เพราะจะช่วยให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในการคัดเลือกหุ้นมากขึ้น โดยสามารถเลือกลงทุนในหุ้นที่เห็น Upside ได้เยอะกว่าได้ เมื่อเทียบกับแบบ Passive Management ที่ลงทุนอิงตามดัชนีเท่านั้น
คำถามที่ 8 : แล้ว “B-INNOTECH” เลือกหุ้นเทคโนโลยีเข้าพอร์ตอย่างไร ?
วิธีคัดเลือกหุ้นของผู้จัดการกองทุน Fidelity ซึ่งเป็นกองทุนหลักของ B-INNOTECH
จะประกอบไปด้วย 3 ปัจจัยสำคัญ นั่นคือ
- Growth คือ หุ้นบริษัทที่เน้นการสร้างนวัตกรรมทันสมัย มีแนวโน้มเติบโต และเป็นผู้นำได้ในระยะยาว
- Cyclical คือ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และที่จะเติบโตไปตามสภาพเศรษฐกิจได้
ตัวอย่างเช่น หุ้นผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ Semiconductor ที่จะยังเติบโตต่อไปได้
- Special Situation คือ หุ้นบริษัทคุณภาพในช่วงเวลาไม่ปกติ
เมื่อกองทุนเห็นบริษัทคุณภาพที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
หากบริษัทนั้น มีโอกาสฟื้นตัวได้สูง น่าสนใจในอนาคต ก็จะเข้าไปลงทุนเก็บสะสมไว้
ดังนั้น การเลือกหุ้นเทคโนโลยีของกองทุน B-INNOTECH ที่มักจะลงทุนในหุ้นใหญ่
ลักษณะไม่หวือหวา เช่น Alphabet, Microsoft
ด้วยพื้นฐานของการประเมินมูลค่าหุ้นที่เหมาะสม เป็นธุรกิจผู้นำในกลุ่ม
รวมทั้งเป็นธุรกิจมีรายได้และกำไรที่มีคุณภาพ และต้องเติบโตต่อเนื่องในอนาคตด้วย
ซึ่งการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีขนาดใหญ่, ธุรกิจเทคโนโลยีพื้นฐาน และเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน
ที่มีแนวโน้มผลการดำเนินการค่อยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังส่งผลให้ B-INNOTECH เป็นกองทุนที่มีความผันผวนที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับกองทุนเทคโนโลยีและ Innovation อื่น ๆ อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ สะท้อนได้ว่า B-INNOTECH เป็นอีกหนึ่งกองทุนหุ้นเทคโนโลยีที่น่าสนใจเลยทีเดียว ในตอนนี้..
คำเตือน:
การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้อนู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
同時也有7部Youtube影片,追蹤數超過120萬的網紅Phê Phim,也在其Youtube影片中提到,Phê Phim News: US ĐẠT KỶ LỤC DOANH THU | BOHEMIAN RHAPSODY BỊ TRUNG QUỐC CẮT TOÀN BỘ CẢNH LGBTQ Kịch bản: @linhvetter (lead), Bùi Thảo Ngân, thisisle...
price of bond 在 貓的成長美股異想世界 Facebook 的精選貼文
🌻高速成長股的跌幅
這幾年, 越來越多人投資成長股, 尤其是高速成長股, 是一件很好的事情. 但很多投資人應該只看到高速成長股帶來的漲幅, 卻沒看到另一面.
一位分析師做的研究: 除了dot.com那時候的大跌, 其他時候, 高速成長軟體股的跌幅平均是25-27%.
下圖是截至05/17的跌幅(未包括SPAC). 是-37%.
成長股很受到投資人的青睞, 也很容易變成動能股. 當動能失去的時候, 就像重力加速度一樣, 跌速跟跌幅會很快很大.
投資成長股, 尤其是高速成長股, 對我來說, 要不就是佛系, 要不就是練盤感&操作. 可以看適合自己的方法&投資的目標是甚麼(而其實成長股經過去年的大漲幅, 大跌前的估值也已經很高了).
一位財富已自由的財經名嘴的名言:
"Discipline trumps conviction." (紀律勝過信念)
可以跟這句放在一起看:
"I learned that you may be right, but if enough people believe you're wrong the markets can really hurt you." --BlackRock bond chief Rick Rieder
至於成長股還能不能買呢? 可以參考下面這兩段:
While tech stocks have taken the biggest hit from rising inflation concerns, some investors see the recent retreat as an opportunity to buy fast-growing companies.
“Within tech, there are still some companies that look very cheap,” said Jane Shoemake, client portfolio manager at Janus Henderson Investors. “If you believe in the longer-term trends supporting these companies, you should be buying.”
https://www.wsj.com/articles/global-stock-markets-dow-update-05-18-2021-11621323328
🌻FTCH, FVRR, PINS, PYPL, ROKU電話會議內容已整理好. 可到部落格那邊去看: https://makingsenseofusastocks.blogspot.com/
之前先錄了一段影片, 解釋我是怎麼做財報內容&電話會議內容整理的: https://youtu.be/vvkrs6CiWdw
🎯上次有提, 九月份會來做年報財報的導讀. 現在台灣的疫情那麼嚴重, 我有考慮在這個周末來進行, 這樣有興趣的讀者可以利用宅在家的時間來學習. Anyway. 如果決定提早做的話, 我週四會將訊息貼在這邊.
🌻關於市場
Markets are likely to be volatile until additional economic data provides a clearer picture, said Seema Shah, chief strategist at Principal Global Advisors. “I don’t think we could know anything really about which way inflation is going to go until September, but the market is unable to wait that long.”
https://www.wsj.com/articles/global-stock-markets-dow-update-05-20-2021-11621496568
🌻關於cryptocurrency
“[Cryptocurrency] is no longer an asterisk for the general market,” Ms. Krosby said. “It seems like it’s becoming very much part of the general market, and questions whether or not the selloff in bitcoin is representative of concerns over risk-on risk-off over the larger market.”
https://www.wsj.com/articles/global-stock-markets-dow-update-05-20-2021-11621496568
🌻營運分析: 如何看一家公司在疫情後有沒有失去競爭力?
The bounceback was largely to be expected after a dismal comparable quarter last year, when stores had to close due to Covid-19 restrictions. A comparison to pre-pandemic numbers yields a more sober outlook: Measured against the same quarter in 2019, Kohl’s net sales declined 4.2%, while comparable sales at Macy’s fell 10.5%.
One positive surprise was a turn to profitability for the two department store giants; analysts polled by FactSet had expected a net loss from both. But that was partly thanks to factors outside of the retailers’ control: Port congestion has led to less inventory across the apparel industry, leading to more full-priced selling. Inventory declined 25% at Kohl’s compared with a year earlier and fell 14% at Macy’s.
Kohl’s shares fell 10% after it reported Thursday, and Macy’s is down around 5% since reporting earlier in the week. Yet they are both trading at prices higher than pre-pandemic levels.
That seems hard to justify. The truth is that department stores were losing customers before and during the pandemic, and will probably continue to do so after it. While Kohl’s and Macy’s sales remain below pre-pandemic levels, off-price and big-box retailers have seen their apparel sales increase. At TJX’s Marmaxx division, which houses T.J. Maxx and Marshalls, sales in the quarter ended May 1 were up 14.4% compared with the same period in 2019. Target’s apparel sales grew 29% over the comparable period.
https://www.wsj.com/articles/return-to-normal-not-good-enough-for-department-stores-11621530127
🌻通膨. The magic number 4.
Mackintosh 表示,經濟復甦提高通膨也有利股市,聯準會 (Fed) 在這個階段也很樂意忽略通膨,因為經濟成長正是政府想要的。但當通膨進一步上升,壓縮到股票報酬率時, 4% 通膨率將成為關鍵點。
據統計自 1957 年標普 500 指數創立以來,美國曾有 9 次通膨率高於 4%,這其中的 8 次,股市在 3 個月後下跌。只有 2005 年突破 4% 又隨即回落,因而未影響大盤。
https://news.cnyes.com/news/id/4647748
WSJ原文在此:
https://www.wsj.com/articles/inflations-magic-number-is-four-11621355006
🌻附上本周發表財報的公司一覽表(在下方留言處)
🌻專門介紹美國豪宅的YouTuber。宅在家沒事可以欣賞一下。
https://m.youtube.com/user/enesyilmazer
Pictures: from earningswhispers.com; It's always a pleasant surprise when animal friends visited. This time, three in a low.
一次有三隻鹿來拜訪.
影片: https://youtu.be/TxLTGe9IdWA
price of bond 在 貓的成長美股異想世界 Facebook 的最佳解答
🌻美國生活
打了疫苗後, 在上週進城了一趟.
許久未出門的感覺很奇妙. 進了城, 也感到大家的生活還是如往常一般, 只是餐廳沒甚麼人(都用電話下單, 或是當場點了東西後就走), 許多人(並不是全部)的臉上也多了個口罩. 旅館的人倒是不多. 但商家停車場的車子應該如往常一樣, 沒有減少.
每次進城, 也一定會到Chipotle打牙祭. 這次試了他們新的飯(參雜了cauliflower花椰菜), 酸酸滋味, 配上原來burrito裡面就有的料, 真的是開胃又好吃, 一口接一口.
最近吃了三家不同的burrito, 還是覺得Chipotle的最好吃. 我想原因之一(不知道我的觀察有沒有誤), 可能是他們把不同口感的配料加在一起時, 有多家一道手續, 讓新鮮脆口的生菜, 烤熟的肉類, sour cream與其他配料均勻地被融合起來, 也讓滋味豐富了起來. 不像其他家的burrito, 一口咬下去, 就是飯, 或是豆類, 分得很清楚, 而沒有不同食材所帶來的多層次的口感.
Anyway. 附上這次進城照的幾張照片在下方.
🌻My happiness project: 年報財報導讀
股市對我來說像戰場; 年報財報就像是兵書. 而一家家公司的年報財報, 對我來說, 就像是故事書一樣, 述說著公司的成長營運軌跡. 做了這些功課後, 持股也會有信心. "Buy and do homework," 是我認為投資該有的態度.
下半年時間比較多, 所以想抽一點時間出來, 跟對看年報財報有興趣的投資人一起來讀資料, 順便藉此分享我是如何抓重點&透過年報財報來做思考的. 也想要藉此來宣揚看年報財報的好處&消除投資人對英文年報財報可能會有的恐懼感. Anyway. 這只是初步的想法. 若要實行也會是九月的事情了.
不過先錄了一段影片, 解釋我是怎麼做財報內容&電話會議內容整理的: https://youtu.be/vvkrs6CiWdw
🌻本周做的功課與閱讀
https://makingsenseofusastocks.blogspot.com/2021/05/blog-post_19.html
這次的閱讀中, 跟成長股比較有關的是這段. 目前成長股也被重新定價中, 所以建議成長股投資人在挑股的時候, 盡量找有現金流, 還有獲利的公司.
"That’s true even for the highflying growth stocks that have been getting hit so hard recently—as long as they have earnings. Adam Parker, founder of Trivariate Research, notes that following large growth selloffs, S&P 500 growth stocks with both free cash flow and expanding margins tend to outperform in the months ahead. That means favoring stocks like ServiceNow (ticker: NOW) and Advanced Micro Devices (AMD) over shares of Chegg (CHGG) and Twitter (TWTR). “Buy some growth stocks on the selloff, but they have to have positive free cash flow and margin expansion,” Parker says."
🌻投資金句
"I learned that you may be right, but if enough people believe you're wrong the markets can really hurt you." --BlackRock bond chief Rick Rieder
🌻The Future of Work
看到BofA寫的這一段, 覺得挺感動的. 這也是投資的目的之一, 能夠藉著這個方式, 來接觸到世界的脈動.
The Future of Work
Thematic Research
BofA Global Research
bofa.com
May 12: The future of work is not zero-sum between humanity and technology. We believe humans can collaborate with and work alongside robots, rather than be displaced by them, and that technology can create more jobs than it destroys. By 2025 alone, the WEF [World Economic Forum] thinks automation will add 12 million net new jobs, with robots eliminating 85 million jobs but creating 97 million new ones. Other grounds for optimism include: (1) 65% of children starting school today will work in jobs that have not been invented yet; (2) “new” collar jobs will be generated from well-placed thematic sectors like healthcare, renewables, new mobility, or even moonshot technologies; and (3) we might actually be more productive and have more leisure time if robots can relieve us of more mundane, repetitive everyday tasks. We have identified $14 trillion in market cap of enablers for the future of work. Technology, industrials, and medtech are some key beneficiaries. We also see opportunities in education and the upskilling/retraining of workers by corporates. Conversely, commercial real estate/offices and legacy transport are some of the sectors facing headwinds...
So, what are the truly futuristic jobs that could be invented? Data-privacy managers, nanomedicine surgeons, lab-meat scientists, blockchain strategists, space-tourist guides, freelance biohackers, AI avatar designers, 3D food-printer chefs, leisure-time planners, ethical algorithm programmers, and brain simulation specialists, to name but a few.
🌻Dividend Growers’ Allure
這段從股息的角度, 來講解傳統價值股跟成長股的不同處.
Dividend Growers’ Allure
Insights & Commentaries
Washington Crossing Advisors
washingtoncrossingadvisors.com
May 10: Buy quality stocks that increase dividends regularly. This simple strategy takes a long-term view of investing and focuses on the dividend, not the stock price. Passive income generated from dividend growth has two main benefits. First, it focuses your investment strategy on cash-generating, growing companies. Second, it tends to lead to quality businesses that are neither too young nor too old.
Why is this so? Almost by definition, a dividend-growing company tends to cover expenses with rising cash flow. And which companies do these tend to be? They tend to be profitable, established companies in the middle of their corporate life cycle. By contrast, young companies tend to be burning cash, constantly in need of capital, and face a higher risk of failure. Such young firms tend to not pay dividends at all as they are consumed with growth. On the other hand, older companies often funnel most or all cash to investors as dividends because viable investments can no longer be found. These firms are often in decline and offer little growth, often reflected in a high current yield.
Picture:
1. Chipotle內部. 可以看到有個取餐的架子. 餐廳人員也不時在電腦螢幕前, 看進來的訂單, 備菜.
2. 旅館外一區. 面向密西根湖.
3. CSX, Union Pacific的火車廂(這兩家都有上市)
price of bond 在 Phê Phim Youtube 的最佳解答
Phê Phim News: US ĐẠT KỶ LỤC DOANH THU | BOHEMIAN RHAPSODY BỊ TRUNG QUỐC CẮT TOÀN BỘ CẢNH LGBTQ
Kịch bản: @linhvetter (lead), Bùi Thảo Ngân, thisisleo, Vũ Mạnh Kiên
MC & Voice: @linhvetter
Editor: @nhancdang, @hiep_pics
Chào mừng các bạn đến với Phê Phim News, nơi mà mình nói về những tin tức thú vị nhất trong thế giới điện ảnh tuần vừa rồi. Video hôm nay ngày 27/03 sẽ có những nội dung chính như sau:
______
1. Michael B. Jordan vào vai lão niên ngàn tuổi trong kinh thánh
-https://deadline.com/2019/03/michael-b-jordan-methusaleh-age-less-man-thriller-warner-bros-outlier-society-1202582227/
-https://www.slashfilm.com/methuselah-movie-michael-b-jordan/
______
2. Us phá vỡ nhiều kỷ lục
-https://www.independent.co.uk/arts-entertainment/films/reviews/us-review-jordan-peele-horror-film-get-out-lupita-nyongo-cast-trailer-a8831926.html
-https://www.boxofficemojo.com/movies/?id=untitledjordanpeele.htm
______
3. Scooby-Doo live-action có thêm Zac Efron & Amanda Seyfried
-https://deadline.com/2019/03/zac-efron-amanda-seyfried-scooby-doo-warner-bros-movie-casting-1202580895/
-https://variety.com/2019/film/news/zac-efron-amanda-seyfried-scooby-doo-fred-daphne-1203170485/
______
Điểm báo
1. Bond 25 bắt đầu quay phim
https://birthmoviesdeath.com/2019/03/25/bond-25-report-eclipse-camera-action
2. Gói Netflix “điện thoại” dưới 4 đô/tháng
https://www.theverge.com/2019/3/22/18277547/netflix-mobile-only-plan-countries-price
3. William Sadler trở lại với Bill & Ted phần 3
https://bloody-disgusting.com/movie/3552515/confirmed-william-sadler-will-reprising-role-death-bill-ted-3/
4. Dora and the Lost City of Gold tung trailer đầu tiên
https://www.youtube.com/watch?v=gUTtJjV852c
______
4. Bohemian Rhapsody bị cắt hết cảnh LGBTQ tại Trung Quốc
-https://ew.com/movies/2019/03/25/bohemian-rhapsody-china-lgbtq-moments-removed/
-https://edition.cnn.com/2019/03/25/asia/bohemian-rhapsody-censorship-china-intl/index.html
______
BXH
-Bắc Mỹ: https://www.boxofficemojo.com/weekend/chart/?yr=2019&wknd=12&p=.htm
-Việt Nam: https://boxofficevietnam.com/#1543824640456-16ae0ab0-64e8
#PhêPhimNews #Số50
price of bond 在 Dan Lok Youtube 的精選貼文
Want More Tips To Sell Anything To Anyone? Click Here To Sign Up For Dan's Free Webinar: http://sellanythingtips.danlok.link
In this video, Dan Lok reveals the top 5 tips on how to sell anything to anyone. In it, you'll discover how to handle sales objections, how to close by selling with emotion, and how to overcome price objection. Watch it now to see the top 5 tips on how to sell anything to anyone.
★☆★ SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ★☆★
https://www.youtube.com/danlok?sub_confirmation=1
Check out these Top Trending Playlist:
1.) How to Sell High Ticket Products & Services: https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46PlgDZSSo-gxM8ahZ9RtNQE
2.) The Art of High Ticket Sales - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46NufVkPfYhpUJAD1OBoQEEd
3.) Millionaire Mindset - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46O591glMGzRMoHaIJB-bQiq
Dan Lok, a.k.a. The King of High-Ticket Sales is one of the highest-paid and most respected consultants in the luxury and “high-ticket” space.
Dan is the creator of High-Ticket Millions Methodology™, the world's most advanced system for getting high-end clients and commanding high fees with no resistance.
Dan works exclusively with coaches, consultants, thought leaders and other service professionals who want a more sustainable, leveraged lifestyle and business through High-Ticket programs and Equity Income.
Dan is one of the rare keynote speakers and business consultants that actually owns a portfolio of highly profitable business ventures.
Not only he is a two times TEDx opening speaker, he's also an international best-selling author of over 12 books and the host of Shoulders of Titans show.
Dan's availability is extremely limited. As such, he's very selective and he is expensive (although it will be FAR less expensive than staying where you are).
Many of his clients are seeing a positive return on their investments in days, not months.
But if you think your business might benefit from one-on-one interaction with Dan, visit http://danlok.com
★☆★ WANT TO OWN DAN'S BOOKS? ★☆★
http://www.amazon.com/Dan-Lok/e/B002BLXW1K
★☆★ NEED SOLID ADVICE? ★☆★
Request a call with Dan:
https://clarity.fm/danlok
★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★
Blog: http://www.danlok.com/blog/
Podcast: http://www.shouldersoftitans.com/
Twitter: https://twitter.com/danthemanlok
Instagram: https://www.instagram.com/danlok/
YouTube: https://www.youtube.com/danlok
Linkedin: https://www.linkedin.com/in/danlok
Amazon: http://www.amazon.com/Dan-Lok/e/B002BLXW1K
#DanLok #HowToSellAnything #Sales
This video is about Top 5 Tips On How To Sell Anything To Anyone
https://youtu.be/WE_ihnKMcno
https://youtu.be/WE_ihnKMcno
price of bond 在 Rayner Teo Youtube 的最讚貼文
This is interesting.
The Bond markets are tanking.
Bitcoin collapsed 60% from the highs.
Stock markets had a steep sell-off on Friday.
And I’m back to my weekly market analysis… just saying.
Anyway…
Don’t get caught in all the hype, sentiments, opinions, news, and what not.
The only thing you should trust is…
PRICE.
Everything else is noise.
And, if you want to tune out the noise, then this week’s market analysis is for you.
No BS. No hype. No Fluff.
But an objective analysis of what’s really going on in the markets (that the media will never tell you).
So here’s what you’ll learn in today’s video:
• Stock market — a correction or impending crash?
• Which is the best currency to trade this week and why
• Bitcoin collapsed 60%, what happens next?
Are you ready to start the trading week?
Then go watch this video below…
Thanks for watching!
If you want more actionable trading tips and strategies, go to https://www.tradingwithrayner.com
FOLLOW ME AT:
Facebook: https://www.facebook.com/groups/forextradingwithrayner
Twitter: http://www.twitter.com/rayner_teo
My YouTube channel: http://bit.ly/2EFg5VN