Owing to #LGD’s slow yield improvement and the #TV_panel market’s downtrend in 4Q19, LGD has deferred its 4Q19 plans to mass produce #OLED TV panels at its Guangzhou-based Gen 8.5 fab to 1H20.
LGD plans to begin mass production at its Guangzhou fab in April in hopes that it will help the company quickly raise both input and output levels while expanding its clientele. Also, LGD aims to raise the penetration rate of OLED TVs from 1.4% in 2019 to 2% this year.
However, as the pandemic proliferates and countries go into lockdown, it’s worth keeping an eye on both LGD’s projected mass production schedule at the Guangzhou fab and whether the market for end-products will further decline due to the pandemic.
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過0的網紅CarDebuts,也在其Youtube影片中提到,? คลิปรถใหม่ 2019-2020 มาแล้วครับ คลิกที่นี่ https://www.youtube.com/channel/UCSebcviE-UeYMxVRNozwqtw/videos เปิดตัวในไทย The new 2018 Mercedes-Benz ...
「organic light emitting diode」的推薦目錄:
organic light emitting diode 在 TopGear HK 極速誌 Facebook 的最讚貼文
【單門版嚟喇!】
早前S-Class房車已經轉咗款,依家到Coupe同埋開篷版,特點之一係尾燈用咗OLED(organic light emitting diode)。OLED同普通LED有乜唔同?LED係一粒粒,OLED就係一層好薄嘅有機物料黐喺玻璃表面,連貫兼咩形狀都得。S-Class Coupe同Cabriolet嘅機械規格同房大致一樣,首批推出嘅型號選擇有367匹S450 4MATIC、469匹S560(可加4MATIC)、612匹AMG S 63 4MATIC+,同埋630匹S65。
(影片來源:Mercedes-Benz)
#News #MercedesBenz #SClass
organic light emitting diode 在 TrendForce Facebook 的精選貼文
Adoption rates of mobile organic light-emitting diode (OLED) panels will hit almost 50 percent by 2020, according to a recent market study conducted by #witsview, a division of #trendforce.
organic light emitting diode 在 CarDebuts Youtube 的精選貼文
? คลิปรถใหม่ 2019-2020 มาแล้วครับ คลิกที่นี่ https://www.youtube.com/channel/UCSebcviE-UeYMxVRNozwqtw/videos
เปิดตัวในไทย The new 2018 Mercedes-Benz S-Class ทั้ง S560 Coupe AMG Premium และ S560 Cabriolet AMG Premium
ดีไซน์ภายนอกของ Mercedes-Benz S 560 Coupe AMG Premium และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium รุ่นใหม่ เป็นรถยนต์สไตล์สปอร์ต 2 ประตู หรูหราแบบรถยนต์ตระกูล S-Class ด้วยไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ที่ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ (Swarovski crystals) จำนวนรวมทั้งสิ้น 47 ชิ้น ซึ่งประกอบด้วยไฟ daytime running lamps ที่ส่องสว่างด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ 17 ชิ้น ให้แสงที่สวยใสชัดเจน และไฟเลี้ยวที่ตกแต่งด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ 30 ชิ้น
รวมถึงเป็นรถยนต์เพียง 2 รุ่นในตระกูล S-Class ที่ติดตั้งไฟท้ายแบบ OLED (Organic Light Emitting Diode) ซึ่งเป็นหลอดไดโอดเปล่งแสงขนาดบาง ที่เคลือบใต้กระจกของไฟหลัง จำนวนรวมทั้งสิ้น 33 ชิ้นต่อ 1 ข้าง ทำหน้าที่ควบคุมตำแหน่ง และความสว่างของแสงได้อย่างแม่นยำ
อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยเส้นสายลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้า Diamond grille สีเงิน พร้อมลายโครเมียม 1 แถบ และตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฝากระโปรงหน้าที่ยาว เพิ่มความดุดันด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG พร้อมคิ้วโครเมียมตกแต่งบริเวณชายกันชนด้านหน้า, ปลายท่อไอเสียคู่, ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บนคาลิปเปอร์เบรก และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสี Titanium Grey
โดย S 560 Coupe AMG Premium มาพร้อมกับหลังคาพาโนรามิคซันรูฟแบบ MAGIC SKY CONTROL ขนาดใหญ่ ที่สามารถปรับความเข้มของกระจกได้เพียงกดสวิตช์เพื่อกรองแสงที่เข้ามาได้ โดยพาโนรามิคซันรูฟนี้ มีความยาวถึง 2 ใน 3 ของความยาวหลังคา หรือมีพื้นที่ประมาณ 1.32 ตารางเมตร
ในขณะที่ S 560 Cabriolet AMG Premium มาพร้อมกับหลังคาแบบ fabric soft-top ที่มีความหนาถึง 3 ชั้น ชั้นนอกสุด เคลือบสารบูทีล (butyl) ซึ่งทำให้รถยนต์มีระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารน้อยที่สุด โดยหลังคาสามารถกางเปิด หรือพับปิดได้ในเวลาเพียง 19 วินาที ขณะที่รถวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. อีกทั้งยังมาพร้อมกับแผงบังคับทิศทางลมอีกด้วย (AIRCAP)
สำหรับ ดีไซน์ภายในนั้น สร้างนิยามอีกขั้นของความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับ Mercedes-Maybach S 560 ด้วยระบบ ENERGIZING Comfort Control ที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง
รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหน้า 4 แบบ เพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายตลอดการเดินทาง พร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุที่แข็งแรง มีระดับ และได้รับมาตรฐานจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก ทั้งเบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa แบบ Exclusive package ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design, หน้าจอกว้างแบบ Widescreen Cockpit และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต
สำหรับเทคโนโลยีและระบบมัลติมีเดียภายในห้องโดยสาร มีมาอย่างครบครัน ทั้งระบบ Night View Assist Plus ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่เห็นคนเดินถนนหรือสัตว์ขนาดใหญ่ในที่มืด โดยการใช้แสงอินฟราเรด และกล้องอินฟราเรด ระยะใกล้และไกลในการมองเห็น เพื่อลดอุบัติเหตุในที่มืด,
ระบบ Crosswind Assist ระบบที่จะช่วยประคองรถยนต์ให้ไม่หลุดออกนอกเส้นทาง เมื่อมีลมแรง, ระบบ MAGIC VISION CONTROL ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยในการมองเห็นได้อย่างดีเยี่ยมขณะขับขี่ ด้วยระบบฉีดน้ำกระจกหน้าจากก้านปัดน้ำฝน ที่น้ำจะฉีดไปที่บริเวณด้านหน้าของใบปัด ขณะทำการปัด
รวมถึงระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display), ระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร, ฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package), ระบบ COMAND Online, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging), ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester highend 3D surround sound system
นอกจากนี้ รถยนต์ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยสูงสุด ทั้งสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้ถนน ที่ไม่เคยมี ในรถรุ่นนี้มาก่อน อาทิ
ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE PLUS และ PRE-SAFE Impulse Side
ระบบ Active Emergency Stop Assist
ระบบ Evasive Steering Assist
ระบบ Active Distance Assist DISTRONIC
ระบบ Active Blind Spot Assist
ระบบ Active Lane Keeping Assist
ระบบ Active Braking Assist และฟังก์ชัน Cross-Traffic
และระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ
Mercedes-Benz S 560 Coupe AMG Premium และ S 560 Cabriolet AMG Premium มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC และเครื่องยนต์แบบ V8 เทอร์โบคู่ พร้อมระบบปรับรูปแบบขับขี่ DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ทั้งหมด 5 แบบ ตามสไตล์การขับขี่ของตนเอง คือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual
โดยขุมพลังเบนซิน 8 สูบ ความจุ 3,982 ซีซี เทอร์โบคู่ ที่มาพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ของรถทั้งสองรุ่น ให้ตัวเลขด้านสมรรถนะเท่ากันคือ กำลังสูงสุด 469 แรงม้าที่ 5,250-5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,000 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม/ชม ใน 4.6 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
โดยรถยนต์ Mercedes-Benz S 560 Coupe AMG Premium นำเสนอในราคา 15.99 ล้านบาท และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium นำเสนอในราคา 16.72 ล้านบาท ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ ทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/zhh0LkTr7vA/hqdefault.jpg?sqp=-oaymwEbCKgBEF5IVfKriqkDDggBFQAAiEIYAXABwAEG&rs=AOn4CLDJT6cG5yU0p9m41RjPQVbCZsb_uw)
organic light emitting diode 在 iT24Hrs Youtube 的最讚貼文
ทำไม iPhone X ใช้ Face ID ? ทำไมฝาหลังต้องเป็นกระจก? ทำไม iPhone X ไม่เต็มจอหมด จะมีติ่งเหลือไว้เพื่อ? ทำไมชิพ A11 ต้อง Bionic ? ทำไมแพงเหลือเกิน? ทำไม!
Tech Specs:
https://www.apple.com/th/iphone-x/specs/
iPhone X พรีวิว
นี่คือ iPhone รุ่นแรกที่มีหน้าจอแบบเต็มด้านหน้าทั้งหมด โดยไม่มีปุ่มโฮมแล้ว แถบบนล่างหายไป แต่ก็ไม่ถึงกับไร้ขอบนะคะ ยังมีขอบอยู่ และก็ยังมีแถบเล็กๆซึ่งก็คือ TrueDepth camera system กินขอบด้านบนเข้ามานิดนึงด้วย ส่วนบอดี้ด้านหลังก็ทำจากกระจก
จอภาพ iPhone X / iPhone 10 ( ไอโฟนสิบ ) เป็นแบบ Super Retina HD Multi-Touch
ซึ่งก็คือจอ OLED แบบในทีวีราคาแพงๆนั่นเอง ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซลที่ 458 ppi ความละเอียดดีขึ้นกว่า iPhone 7 Plus และ 8 Plus ที่ 401 ppi แต่ที่จริงละเอียดขนาดนี้ตาเราแยกไม่ออกแล้วล่ะค่ะ
แต่จอ OLED หรือ organic light-emitting diode ใน iPhone X / iPhone 10 ( ไอโฟนสิบ ) นั้นมีข้อดีคือ มันไม่ใช้ backlight แบบจอ LCD แต่ละ pixel จะมีแหล่งกำเนิดแสงของตัวเองแยกกัน ทำให้ได้สีดำที่ดำสนิทจริงๆ ส่งผลให้ ได้อัตราส่วนคอนทราสต์สูงลิบถึง 1,000,000:1 เทียบกับ iPhone 8 ที่ 1400:1 นี่คนละเรื่องเลยนะคะ
รองรับการแสดงผล HDR หรือ High Dynamic Range เหมาะกับการชมภาพยนตร์ ทำให้ดูภาพยนตร์และรายการทีวีในรูปแบบ Dolby Vision และ HDR10 ได้ ภาพจะมีสีสันที่ชัดเจนและมีรายละเอียดแม้แต่ในส่วนที่เป็นเงามืด
การแสดงผลยังเป็นแบบ True Tone ซึ่งใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ แล้วคอยปรับไวท์บาลานซ์บนหน้าจอให้ตรงกับอุณหภูมิสีของแสงรอบๆ เพื่อให้ภาพที่เห็นบนจอภาพดูเป็นธรรมชาติ ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของสายตา
iPhone X / iPhone 10 ( ไอโฟนสิบ ) มี 2 สีให้เลือกคือ สีเทาสเปซเกรย์ และสีเงิน
สำหรับด้านการใช้งานนั้น
- การกลับหน้าโฮม จะใช้วิธีปัดขึ้นจากด้านล่าง ง่ายๆแค่นี้เอง แล้วตอนแรกจะมีปุ่มโฮมมาทำไม
- งานมัลติทาสก์ ก็แค่ปัดขึ้นและหยุดค้างไว้ครู่หนึ่ง
- จะเปิดศูนย์ควบคุม ก็ปัดลง
- ถ้าจะใช้ SIRI ก็กดปุ่มด้านข้างค้างไว้
ถ้าเป็น 10 ปีก่อน ที่โทรศัพท์ยังมี keypad อยู่ ไม่มีปุ่มโฮมเราคงกลับกันไม่ถูก แต่เมื่อเราอยู่กับ smartphone มา 10 ปี gesture ต่างๆก็กลายเป็นเรื่องปกติ
ปัญหาคือ Touch ID มันหายไป ดังนั้น iPhone X / iPhone 10 ( ไอโฟนสิบ ) นั้นจะปลดล็อคด้วย Face ID หรือการสแกนใบหน้าแทน
ทั้ง Touch ID และ Face ID ไม่ใช่แค่วิธีปลดล็อค แต่มันคือรหัสยืนยันตัวบุคคล
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/hdmRJ49XK7o/hqdefault.jpg?sqp=-oaymwEbCKgBEF5IVfKriqkDDggBFQAAiEIYAXABwAEG&rs=AOn4CLBLiuoFHP2IXScy-SsGC13ibgHmfQ)
organic light emitting diode 在 Organic Light Emitting Diodes (OLEDs) - Universal Display ... 的相關結果
Organic light emitting diodes (devices) or OLEDs are monolithic, solid-state devices that typically consist of a series of organic thin films sandwiched ... ... <看更多>
organic light emitting diode 在 How Organic Light Emitting Diodes Work - Jameco Electronics 的相關結果
An OLED (Organic Light-Emitting Diode) is similar to an LED; however, an OLED has an emissive electroluminescent layer of film made up of organic molecules. ... <看更多>
organic light emitting diode 在 OLED - Wikipedia 的相關結果
An organic light-emitting diode (OLED or organic LED), also known as organic electroluminescent (organic EL) diode, is a light-emitting diode (LED) in which ... ... <看更多>