เกาหลีใต้ ประเทศที่เติบโตไว แต่คนรุ่นใหม่อยากย้ายออก /โดย ลงทุนแมน
ชื่อของประเทศ “เกาหลีใต้” ได้กลายเป็นสัญลักษณ์
ของนวัตกรรมและสื่อบันเทิง ในสายตาคนทั่วโลกไปแล้ว
ทั้งความสำเร็จของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Samsung, LG และ Hyundai
รวมไปถึงวงดนตรี เช่น BTS, BLACKPINK และภาพยนตร์รางวัลออสการ์อย่าง Parasite
ความสำเร็จเหล่านี้ ทำให้เกาหลีใต้เป็นประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ส่งผลให้ประชากรในประเทศโดยเฉลี่ยร่ำรวยขึ้น
แต่คนเกาหลีใต้กลุ่มหนึ่ง กลับบอกว่าประเทศตัวเองเป็นเหมือนนรก
ถ้าเลือกได้ ก็ขอไปใช้ชีวิตและสร้างตัวที่อื่นแทนดีกว่า
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับคนกลุ่มนี้ในเกาหลีใต้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ประเทศเกาหลีใต้ มีเรื่องราวที่ประสบความสำเร็จ
จนมีชื่อเสียงระดับโลกในหลายด้าน เช่น
- การเป็นหนึ่งในประเทศที่ประชากรมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้น มากที่สุดในโลก
- มีจำนวนการจดสิทธิบัตร อันดับ 1 ของโลก
- เป็นผู้นำด้านนวัตกรรม อันดับ 2 ของโลก
- เป็นผู้ส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ อันดับ 2 ของโลก
การพัฒนาอย่างรวดเร็วได้ทำให้ในปีนี้ ประเทศเกาหลีใต้ขึ้นมาเป็นประเทศ
ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งในระดับโลกของเกาหลีใต้ไม่ได้มีแค่ด้านที่สดใส
เพราะจริง ๆ แล้ว ยังมีอีกด้านหนึ่งที่เราไม่ค่อยพูดถึงกัน เช่น
- อัตราการเกิดของประชากร น้อยที่สุดในโลก
- อัตราการฆ่าตัวตายมากเป็นอันดับ 4 ของโลก
- สัดส่วนคนมีรายได้น้อย สูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
จากตรงนี้จะเห็นได้ว่า ประเทศเกาหลีใต้ มีส่วนผสมที่สุดโต่งทั้งด้านบวกและลบ
เรื่องดังกล่าวก็ได้สะท้อนออกมาให้เห็นจากการเติบโตอย่างรวดเร็ว
จนประเทศร่ำรวยขึ้น และมีชื่อเสียงในเวทีโลก
แต่มันก็ได้สร้างปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ควบคู่ไปกับการเติบโตนั้นด้วย
โดยเป็นปัญหาในระดับที่คนรุ่นใหม่กว่า 75% มองประเทศตัวเองไม่ต่างจากนรกเลย
แล้วอะไรที่ทำให้คนเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ มีมุมมองต่อบ้านเกิดแบบนั้น ?
เริ่มต้นที่ระบบการศึกษา
ประเทศเกาหลีใต้ มีระบบการศึกษาที่ดี ติด 5 อันดับแรกของโลก
และคนเกาหลีใต้ มีระดับการศึกษาสูง ติด 5 อันดับแรกของโลก
แต่นั่นไม่ใช่การศึกษาในลักษณะเดียวกันกับประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการศึกษาฝั่งยุโรปแบบฟินแลนด์
ที่เรียนวันละไม่กี่ชั่วโมงและเน้นการสร้างประสบการณ์ชีวิตนอกห้องเรียน
นักเรียนเกาหลีใต้ในช่วงหลังเลิกเรียน ส่วนใหญ่ต้องกวดวิชาถึงราวเที่ยงคืนทุกวัน
เพราะค่านิยมในสังคมบ้านเกิดมองว่าการศึกษาคือสิ่งสำคัญที่จะกำหนดชะตาชีวิต
เหล่านักเรียนจึงต้องแข่งขันกันสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด
เรียนต่อให้ถึงระดับที่สูงที่สุดเพื่อที่จะได้เข้าทำงาน
ในบริษัทชั้นนำ ที่ให้ค่าตอบแทนสูง
แต่กลายเป็นว่าตลาดแรงงานในความเป็นจริง
กลับเล่นตลกกับความทุ่มเทของนักศึกษาเหล่านี้
นั่นเป็นเพราะว่าจำนวนงานที่เปิดรับ มีน้อยกว่าจำนวนคนจบใหม่มาก
การหางานทำในเกาหลีใต้จึงเป็นเรื่องยาก แม้จะจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง และมีผลการเรียนดีเยี่ยม
ยิ่งตำแหน่งงานที่ดีในบริษัทระดับประเทศ การแข่งขันจะยิ่งสูงขึ้นไปอีก
และบริษัทเหล่านี้ยังคงเติบโตได้ดี แม้ไม่ต้องจ้างคนใหม่เพิ่ม
นั่นเลยทำให้ 1 ใน 4 ของคนเกาหลีใต้ที่อายุน้อยกว่า 30 ปี ไม่มีงานทำ
ปัญหาที่ตามมาก็คือ คนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพจึงเลือกไปทำงานในต่างประเทศแทน
ซึ่งประเทศที่เป็นที่นิยมก็ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และออสเตรเลีย
กลุ่มคนที่ไปทำงานในต่างแดนเหล่านี้ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ภายในเวลา 5 ปี
เหตุผลที่ย้ายไปก็เพราะว่า มีตำแหน่งงานที่ดีกว่าและสภาพสังคมไม่กดดันเท่าในเกาหลีใต้
แล้วโอกาสในการเริ่มทำธุรกิจส่วนตัวในเกาหลีใต้ มีความเป็นไปได้มากขนาดไหน ?
จริง ๆ แล้ว บริษัทเกือบทั้งหมดในเกาหลีใต้ยังคงเป็น SMEs และสตาร์ตอัป
ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนของการจ้างงานกว่า 80%
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญกับบริษัทขนาดเล็กและกลางเหล่านี้
จนถึงกับต้องมีกระทรวง SMEs และสตาร์ตอัปโดยเฉพาะ
แม้ว่าจะมีบางสตาร์ตอัป ที่ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทในระดับประเทศได้
เช่น แอปพลิเคชันแช็ต Kakao, บริษัทเกม Nexon หรืออีคอมเมิร์ซ Coupang
แต่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา กลับไม่มีบริษัทไหนเลย ที่เติบโตขึ้นจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกได้
สะท้อนให้เห็นจาก Samsung ที่สามารถก้าวขึ้นมา
เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 100 อันดับแรกของโลกได้เมื่อ 10 ปีก่อน
แต่จนมาถึงตอนนี้ก็ยังคงมีเพียง Samsung เจ้าเดียวเหมือนเดิม
ในขณะที่จีน มีบริษัทที่เข้ามาติดอันดับท็อป 100 เพิ่มขึ้น 11 บริษัท และญี่ปุ่นก็มีเพิ่มขึ้นมา 5 บริษัท เช่นกัน
นอกจากนั้น เศรษฐีในประเทศเกาหลีใต้ยังคงมีสัดส่วนเศรษฐีที่รวยด้วยตัวเองน้อยมาก
เพราะกลุ่มคนดังกล่าวเต็มไปด้วยทายาทกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่
หรือที่เรียกว่า “แชโบล” ซึ่งรวยจากการได้รับมรดก
เกาหลีใต้ มีสัดส่วนคนรวยที่มาจากการรับมรดก 62%
สหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนคนรวยที่มาจากการรับมรดก 25%
จีน มีสัดส่วนคนรวยที่มาจากการรับมรดก 2.5%
จากข้อมูลเหล่านี้คงพอสรุปได้ว่า หนทางจะปลุกปั้นธุรกิจ
จาก SMEs หรือสตาร์ตอัป จนกลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่
หรือการจะเพิ่มความมั่งคั่งจากการทำธุรกิจในเกาหลีใต้นั้น
คงพอมีโอกาสอยู่บ้าง แต่ก็น้อยกว่าในประเทศอื่น
เรื่องราวทั้งหมดที่กล่าวมา
ผลักดันให้คนรุ่นใหม่ในเกาหลีใต้ เรียกตัวเองว่าเป็น N-po Generation
ย่อมาจาก “Generation who gave up on n number of things”
หรือเจเนอเรชันที่ยอมแพ้กับทุกอย่างในชีวิต
ทั้งในเรื่องการแต่งงาน การมีลูก การมีบ้านเป็นของตัวเอง หรือแม้แต่การเข้าสังคม
เพราะแค่หาเงินเลี้ยงตัวเอง ดูแลผู้ใหญ่ในครอบครัว ก็สาหัสมากแล้ว
สะท้อนไปยังสัดส่วนของคนเกาหลีใต้ที่เลือกใช้ชีวิตคนเดียว
เพิ่มสูงขึ้นจนคิดเป็นกว่า 40% ของประชากร
ปัญหาที่เรื้อรัง ได้ส่งผลกระทบต่อสังคมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
จนเกิดเป็นกระแส “ฮน-บับ” หรือ การกินข้าวคนเดียว
และ “ฮน-ซุล” หรือ การนั่งดื่มคนเดียว
ซึ่งสวนทางกับวัฒนธรรมของคนเกาหลีใต้ดั้งเดิม
ที่ชอบกินข้าวดื่มเหล้ากันเป็นกลุ่ม เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์
ด้วยสภาพสังคมที่ทำให้คนเกาหลีใต้เหนื่อยหน่ายและหมดหวังกับการใช้ชีวิต
พวกเขาจึงเรียกประเทศตัวเองว่า “Hell Joseon” หรือ “นรกโชซ็อน”
(โชซ็อน เป็นชื่อราชวงศ์สุดท้ายของเกาหลี)
เพราะมองว่าการใช้ชีวิตในเกาหลีใต้ ไม่ต่างอะไรกับอยู่ในนรกนั่นเอง
เมื่อเผชิญกับความมืดรอบด้าน
ตัวเลือกการออกไปศึกษา ไปทำงานและสร้างตัวในต่างประเทศ
จึงกลายเป็นเป้าหมายของคนรุ่นใหม่
ซึ่งพวกเขาเข้าใจดีว่าไม่มีที่ไหนในโลก ที่จะใช้ชีวิตได้อย่างสบาย
แต่อย่างน้อยก็ยังมีโอกาสที่ดีกว่า มีความหวังที่มากกว่า การควานหาโอกาสจากประเทศบ้านเกิดของตัวเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/features/2021-05-25/south-korea-is-growing-old-fast-leaving-a-younger-generation-home-alone-and-chi
-https://www.bbc.com/worklife/article/20191010-south-koreas-population-paradox
-https://www.reuters.com/article/us-southkorea-jobs-kmove-insight-idUSKCN1SI0QE
-https://asiatimes.com/2019/12/75-of-young-want-to-escape-south-korean-hell/
-http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20200802000122
-https://www.koreatimes.co.kr/www/news/biz/2017/01/602_221398.html
-http://english.hani.co.kr/arti/english_edition/e_business/974164.html
-https://worldpopulationreview.com/country-rankings/education-rankings-by-country
-https://worldpopulationreview.com/country-rankings/suicide-rate-by-country
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過65萬的網紅BIKII X2,也在其Youtube影片中提到,สวัสดีค่ะ ทุกคนคงสงสัยใช่ไหมคะ ทำไมต้อง BN CHANNEL [ชื่อโง่ๆและง่ายๆมากก] ง่ายๆเลยค่ะ B ย่อมาจาก BIKII [พี่บิ้กกิ] ส่วน N ย่อมาจาก NANNII [น้องแนนนิ]...
n' ย่อมาจาก 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
ผู้สนับสนุน..
อย่าปล่อยให้ความเครียดทำร้ายคุณ
93% ของพนักงานไทย รู้สึกเครียดกับการทำงาน
รู้ไหมว่า จากผลสำรวจประชากรใน 9 ประเทศ
เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศไทย ระบุว่า
ปีที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาความเครียดเรื้อรังรวมกันมีมูลค่าสูงถึงเกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยจากค่าใช้จ่ายดูแลรักษาสุขภาพทุกๆ 100 บาท
เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากปัญหาความเครียดเรื้อรังสูงสุดถึง 19 บาท
การสำรวจดังกล่าวเจาะลึกลงไป
ถึงสถานการณ์ความเครียดของคนไทย
แล้วคนไทยเครียดขนาดไหน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จากผลสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของซิกน่าปี 2562
กลุ่มตัวอย่างคนไทยทุกๆ 100 คน รู้สึกเครียด 91 คน
ตัวเลขข้างต้นอยู่ในระดับเดียวกันกับประเทศสิงคโปร์ และ ฮ่องกง
ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทยรู้สึกเครียดมากสุด 3 อันดับแรก ก็คือ
ความกังวลทางการเงินส่วนตัว
ความกังวลทางการเงินของครอบครัว
และ ความเครียดจากการหน้าที่การงาน
นอกจากนี้ การสำรวจพนักงานบริษัทที่ทำงานในประเทศไทยเพิ่มเติม พบว่า
กว่า 93% ของพนักงานประจำทั้งหมด รู้สึกเครียดกับการทำงานประจำ
โดยสาเหตุที่คนไทยเครียดเกิดมาจากวัฒนธรรมองค์กรที่ต้องทำให้ตื่นตัวตลอดเวลา เช่น การเช็กอีเมล, การรับโทรศัพท์เรื่องงาน และการเช็กอัปเดตความคืบหน้างานตลอด 24 ชั่วโมง
แม้ว่าผลสำรวจจะสะท้อนให้เห็นว่า คนไทยมีความกังวลและมีปัญหาเกี่ยวกับความเครียดสูง
แต่เราก็ไม่ได้มองว่าจำเป็นที่จะต้องไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
จากคนไทยที่ถูกสำรวจทุกๆ 100 คน มีเพียง 6 คนที่เข้ารับการปรึกษาจากแพทย์
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จากผู้ที่เข้ารับการปรึกษากลับระบุว่า
แพทย์เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาจัดการความเครียดได้ดีขึ้น
โดยเฉพาะคนไทยกลุ่ม Millennials
แล้วความเครียดเรื้อรัง ส่งผลกระทบอะไรกับคนไทยบ้าง?
เรื่องแรกก็คือสุขภาพจิต ที่จะทำให้เราเกิดอาการวิตกกังวล หรือถ้าร้ายแรงกว่านั้นก็อาจส่งผลถึงอาการซึมเศร้า ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือผลเสียด้านสุขภาพ เช่น คนที่เครียดมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจสูงถึง 20% ซึ่งมากกว่าคนที่มีภาวะทางอารมณ์ปกติซึ่งจะมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจเพียง 9% เท่านั้น และยังเสี่ยงต่อโรคอื่นๆ เช่น โรคความดัน และโรคเบาหวาน
นอกจากนี้ ความเครียดจากสถานที่ทำงานกำลังทำให้คนไทยมีประสิทธิภาพการทำงานต่ำลง
ที่น่าตกใจก็คือ กว่า 1 ใน 5 ของเพื่อนร่วมงานของผู้ที่ถูกสำรวจในกลุ่มตัวอย่าง แก้ปัญหาความเครียดจากการทำงานด้วยการลาออก..
แล้วเราจะสามารถรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้เราเครียดระดับไหน และหน้าตาความเครียดของเราเป็นอย่างไร?
บริษัท ซิกน่าประกันภัย ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุระดับโลก ได้จัดแคมเปญ เผยความเครียดที่มีตัวตน
เพื่อทำให้เรารู้จักกับความเครียดของเรา พร้อมวิธีจัดการความเครียดได้อย่างง่ายๆ หรือ PLAN
PLAN ย่อมาจาก
P หรือ Period of time to unwind คือ ระยะเวลาในการผ่อนคลาย
L หรือ Location that is stress reducing คือ สถานที่ผ่อนคลายความเครียด
A หรือ Activity to enjoy คือ กิจกรรมที่เพลิดเพลินทำให้ผ่อนคลายความเครียด
N หรือ Name a person to talk to คือ คนที่เราพูดคุยแล้วทำให้เราคลายความเครียดได้
การทดสอบจากแคมเปญนี้สามารถทำให้เรารู้จักกับความเครียดที่เรามีมากขึ้น รวมถึงเราจะยังได้รับคำแนะนำวิธีการจัดการกับความเครียดได้อย่างตรงจุด
ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกออกแบบและพัฒนาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ ผู้ชำนาญทางเทคโนโลยีจากซิกน่า
สำหรับคนไทยที่อยากรู้จักกับความเครียดของตัวเอง
สามารถทำแบบทดสอบเพื่อเห็นภาพความเครียดของคุณเองพร้อมกับวิธีรับมือความเครียด PLAN ได้ที่ http://bit.ly/35S6Ptr
ที่สำคัญคือ แคมเปญทั้งหมดนี้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ..
n' ย่อมาจาก 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
ผู้สนับสนุน..
อย่าปล่อยให้ความเครียดทำร้ายคุณ
93% ของพนักงานไทย รู้สึกเครียดกับการทำงาน
รู้ไหมว่า จากผลสำรวจประชากรใน 9 ประเทศ
เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศไทย ระบุว่า
ปีที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาความเครียดเรื้อรังรวมกันมีมูลค่าสูงถึงเกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยจากค่าใช้จ่ายดูแลรักษาสุขภาพทุกๆ 100 บาท
เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากปัญหาความเครียดเรื้อรังสูงสุดถึง 19 บาท
การสำรวจดังกล่าวเจาะลึกลงไป
ถึงสถานการณ์ความเครียดของคนไทย
แล้วคนไทยเครียดขนาดไหน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จากผลสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของซิกน่าปี 2562
กลุ่มตัวอย่างคนไทยทุกๆ 100 คน รู้สึกเครียด 91 คน
ตัวเลขข้างต้นอยู่ในระดับเดียวกันกับประเทศสิงคโปร์ และ ฮ่องกง
ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทยรู้สึกเครียดมากสุด 3 อันดับแรก ก็คือ
ความกังวลทางการเงินส่วนตัว
ความกังวลทางการเงินของครอบครัว
และ ความเครียดจากการหน้าที่การงาน
นอกจากนี้ การสำรวจพนักงานบริษัทที่ทำงานในประเทศไทยเพิ่มเติม พบว่า
กว่า 93% ของพนักงานประจำทั้งหมด รู้สึกเครียดกับการทำงานประจำ
โดยสาเหตุที่คนไทยเครียดเกิดมาจากวัฒนธรรมองค์กรที่ต้องทำให้ตื่นตัวตลอดเวลา เช่น การเช็กอีเมล, การรับโทรศัพท์เรื่องงาน และการเช็กอัปเดตความคืบหน้างานตลอด 24 ชั่วโมง
แม้ว่าผลสำรวจจะสะท้อนให้เห็นว่า คนไทยมีความกังวลและมีปัญหาเกี่ยวกับความเครียดสูง
แต่เราก็ไม่ได้มองว่าจำเป็นที่จะต้องไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
จากคนไทยที่ถูกสำรวจทุกๆ 100 คน มีเพียง 6 คนที่เข้ารับการปรึกษาจากแพทย์
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จากผู้ที่เข้ารับการปรึกษากลับระบุว่า
แพทย์เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาจัดการความเครียดได้ดีขึ้น
โดยเฉพาะคนไทยกลุ่ม Millennials
แล้วความเครียดเรื้อรัง ส่งผลกระทบอะไรกับคนไทยบ้าง?
เรื่องแรกก็คือสุขภาพจิต ที่จะทำให้เราเกิดอาการวิตกกังวล หรือถ้าร้ายแรงกว่านั้นก็อาจส่งผลถึงอาการซึมเศร้า ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือผลเสียด้านสุขภาพ เช่น คนที่เครียดมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจสูงถึง 20% ซึ่งมากกว่าคนที่มีภาวะทางอารมณ์ปกติซึ่งจะมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจเพียง 9% เท่านั้น และยังเสี่ยงต่อโรคอื่นๆ เช่น โรคความดัน และโรคเบาหวาน
นอกจากนี้ ความเครียดจากสถานที่ทำงานกำลังทำให้คนไทยมีประสิทธิภาพการทำงานต่ำลง
ที่น่าตกใจก็คือ กว่า 1 ใน 5 ของเพื่อนร่วมงานของผู้ที่ถูกสำรวจในกลุ่มตัวอย่าง แก้ปัญหาความเครียดจากการทำงานด้วยการลาออก..
แล้วเราจะสามารถรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้เราเครียดระดับไหน และหน้าตาความเครียดของเราเป็นอย่างไร?
บริษัท ซิกน่าประกันภัย ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุระดับโลก ได้จัดแคมเปญ เผยความเครียดที่มีตัวตน
เพื่อทำให้เรารู้จักกับความเครียดของเรา พร้อมวิธีจัดการความเครียดได้อย่างง่ายๆ หรือ PLAN
PLAN ย่อมาจาก
P หรือ Period of time to unwind คือ ระยะเวลาในการผ่อนคลาย
L หรือ Location that is stress reducing คือ สถานที่ผ่อนคลายความเครียด
A หรือ Activity to enjoy คือ กิจกรรมที่เพลิดเพลินทำให้ผ่อนคลายความเครียด
N หรือ Name a person to talk to คือ คนที่เราพูดคุยแล้วทำให้เราคลายความเครียดได้
การทดสอบจากแคมเปญนี้สามารถทำให้เรารู้จักกับความเครียดที่เรามีมากขึ้น รวมถึงเราจะยังได้รับคำแนะนำวิธีการจัดการกับความเครียดได้อย่างตรงจุด
ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกออกแบบและพัฒนาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ ผู้ชำนาญทางเทคโนโลยีจากซิกน่า
สำหรับคนไทยที่อยากรู้จักกับความเครียดของตัวเอง
สามารถทำแบบทดสอบเพื่อเห็นภาพความเครียดของคุณเองพร้อมกับวิธีรับมือความเครียด PLAN ได้ที่ http://bit.ly/35S6Ptr
ที่สำคัญคือ แคมเปญทั้งหมดนี้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ..
n' ย่อมาจาก 在 BIKII X2 Youtube 的精選貼文
สวัสดีค่ะ ทุกคนคงสงสัยใช่ไหมคะ ทำไมต้อง BN CHANNEL [ชื่อโง่ๆและง่ายๆมากก] ง่ายๆเลยค่ะ B ย่อมาจาก BIKII [พี่บิ้กกิ] ส่วน N ย่อมาจาก NANNII [น้องแนนนิ] ซึ่งเพจนี้เป็นเพจที่กล่าวถึง 2 คน ที่ทำร่วมกันค่ะ พวกเราทั้ง 2 ได้ทำเพจขึ้นมา เพื่อแจ้งข่าวสารต่างๆ ที่เป็นสาระเกี่ยวกับเกม และกิจกรรมต่างๆ เช่น การเเจกของรางวัล คลิปวิดิโอเกม และได้เปิดโอกาสให้น้องๆพี่ๆ ทุกคนได้มาพูดคุยกับพวกเรา และพวกเรา BIKII & NANNII จะทำให้เต็มที่เเละหวังว่าทุกคนจะสนุกและมีความสุขไปกับพวกเรานะคะ และสุดท้ายก็ขอฝากทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้กับพวกเราด้วยนะคะ
รับชมพวกเราสรีมได้ที่ NIMO TV เวลา 18.30-22.00 น. ของทุกวันค่ะ
ช่อง BN°×NANNII : https://www.nimo.tv/live/6771213
ช่อง BN°×BIKII : https://www.nimo.tv/live/857990969
FB : https://www.facebook.com/BNxChannel
Youtube : https://www.youtube.com/BNChannel
Instagram : bnxchannel
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/zn8fSyo0-hY/hqdefault.jpg)