Godzilla: King of the Monsters (2019) เข้าฉายแล้ววันนี้
นี่พูดในฐานะคนที่ชอบภาคแรกเมื่อปี 2014 เป็นแฟนหนังแนว monster อยู่แล้ว ชอบ Kong: Skull Island ด้วยซ้ำ แต่มาเจออันนี้นี่ไม่ไหวจริง ประเด็นคือหนังพยายามจะขายการเป็น Godzilla vs. Ghidorah แต่ระหว่างทางมันเต็มไปด้วยโมเม้นต์สุดแสนน่ารำคาญของมนุษย์ที่พยายามควบคุมธรรมชาติเกินตัวเสียเหลือเกิน เรารู้สึกว่ามนุษย์ในหนังตรรกะค่อนข้างแปลก และธีมคืนสมดุลด้วยการปลุกราชันขึ้นมาก็ลงเหวไปหมดเพราะความไม่สมเหตุสมผลของรายละเอียด คืออย่างใน Godzilla ปี 2014 ถึงดราม่ามนุษย์จะเบาและไม่มีอะไรชวนให้อิน แต่รายละเอียดการบิ๊วความน่ากลัวของสัตว์ประหลาดมันทำได้น่าทึ่งแบบบรรดาหนังคลาสสิกอย่าง Jaws และ Jurassic Park ที่เน้นการทิ้งร่องรอยให้คนดูจินตนาการถึงความน่าสะพรึง ซึ่งพอบิ๊วมาหนัก ๆ ก็จัดเต็มฉากแอ็คชั่นที่ออกแบบมาดีเหมือนดูสัตว์ไซส์ยักษ์สู้กัน แต่ใน Godzilla: King of the Monsters นั้นแตกต่างออกไป
.
ปัญหาของหนังในฉากต่อสู้ต่าง ๆ คือวิสัยทัศน์ในการออกแบบฉากต่อสู้นั้นแทบไม่มีให้เห็นเลย ไม่ว่าจะเป็นลูกเล่นมุมกล้อง,ลักษณะการต่อสู้, ใช้เอฟเฟคต่าง ๆ มากเกินจำเป็นจนภาพมันแทบไม่เห็นรายละเอียดอะไร ยิ่งมาเจอความขยันตัดต่อจากสัตว์ยักษ์ไปหามนุษย์บ่อย ๆ ยิ่งทำให้ฉากต่อสู้ที่ควรจะเด่นกลายเป็นอะไรที่ชวนหงุดหงิดไม่น้อยเหมือนกัน บางจังหวะดนตรีมาแบบฮึกเหิมอินขั้นสุด (ดนตรีนี่ดีเลยนะ) กำลังจะได้กรี๊ดกลิ่นอายความคลาสสิกก็เจอตัดอารมณ์ห้วนเลย ส่วนของบรรดามนุษย์ที่ภาคก่อน Let them fight มาคราวนี้ We join the fight เลยยิ่งตลกความพยายามจะมีส่วนร่วมในทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่วยเพิ่มพลังก็อดซิลล่าหรือว่าช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ เอาเข้าจริงก็นึกสงสัยเหมือนที่ตอนต้นเรื่องมีคนถามว่าทำไมไม่ฆ่า ๆ ไปให้หมดถ้าจะรักโลกรักมนุษย์กันขนาดนั้น ไม่นับว่าพี่ไปสรรหาทหารจากไหนมาคุ้มครองหน่วยโมนาช ดูรักษาความปลอดภัยอะไรไม่ได้เลย
ป.ล. หนังมีฉากหลัง end credits 1 ชิ้น นั่งจนจบได้เลยเน้อถ้าใครรอดู
Director: Michael Dougherty
Genre: action, fantasy
5/10
Search