#รีบรีวิว Time To Hunt ถึงเวลาล่า !
ตัวอย่าง (ซับไทย): https://zcu.io/DqCc
ภาพยนตร์ดราม่า-อาชญากรรม ฟอร์มยักษ์จากเกาหลีใต้ที่ในทีแรกจอคิวฉายโรง แต่ต้องมาเจอกับสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไป ค่ายจึงตัดสินใจนำผลงานเรื่องใหม่ของผู้กำกับ ยูน ซัง ฮยอน ลง Netflix แทน
เรื่องราวในโลกอนาคตอันใกล้ ที่เกาหลีใต้เศรษกิจล่มสลาย บ้านเมืองรกร้าง (มาถูกจังหวะจริง ๆ) 4 เพื่อนซี้ที่จนปัญญาในการหาหนทางใช้ชีวิต เพื่อหาเงินก้อนโตไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่า พวกเขาเลยจับมือร่วมกันเพื่อวางแผนปล้นบ่อนแห่งหนึ่ง โดยไม่รู้เลยว่ามันจะพาพวกเขาไปพัวพันกับองค์กรยักษ์ใหญ่ ที่ส่งนักฆ่ามือฉมังออกมาล่าเด็ดหัวพวกเขา! หนังจะพาคนดูไปสัมผัสความกลัวของการเป็นผู้ถูกล่า และลุ้นระทึกจนแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้แบบหนังอย่าง The Terminator (ภาคแรก) ยังไงอย่างงั้น ตัวร้ายตามตื้อเก่งจริง ๆ
แม้ว่าหนังจะเล่าเรื่องช่วงต้นอย่างเร่งรีบและเซ็ตติ้งโลกแบบหลวมๆ พอให้คนดูจับประเด็นได้ แต่พอถึงจังหวะที่ต้องหันมาเล่าการไล่ล่ากลับทำออกมาได้อย่างปราณีต แถมยังผสมความเป็นหนังสยองขวัญเข้าไปได้อย่างลงตัว และสะท้อนให้เห็นถึงความกลัวแบบขีดสุดของ ตัวละครจนให้ความรู้สึกราวกับว่าเขากำลังวิ่งหนีฝันร้ายที่แสนอันตรายและกำลังคืบคลานเข้ามาเอาชีวิตเขาอย่างช้าๆ
ไม่เพียงเท่านั้นหนังยังแฝงเรื่องของภาวะผู้นำ ผ่านตัวละครหลักของเรื่องอย่าง Joon-Seok ที่ถ่ายทอดให้คนดูได้เห็นว่าการเป็นผู้นำที่ดีไม่ใช่แค่มี มั่นใจ วางแผนได้ หรือดีแต่พูดเท่านั้น หากแต่เขาต้องสามารถแก้ปัญหาและวางแผนครอบคลุมถึงผลที่จะตามมาจากการกระทำที่เขาก่อไว้ให้ได้ด้วยเช่นกัน
Time To Hunt ยังทำให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงความเป็นจริงว่าปลายทางของความฝันที่สวยหรู มักไม่ได้มาอย่างง่ายดายและสวยงามอย่างที่จินตนาการไว้เสมอไป เมื่อไม่มีมนุษย์คนใดเพอร์เฟ็กต์ไปซะทุกอย่าง เพราะขนาดแผนการที่คิดรอบคอบมาอย่างดีแล้ว ยังมีจุดบอดที่อันตรายถึงชีวิตได้ ก็ใช่ว่าปลายทางจะสวยงามดังที่หวังไว้ได้เช่นกัน
สิ่งที่ต้องชื่นชมคือการแสดงของ Lee Je-Hoon ที่ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้เป็นอย่างดี ในทุกๆ การกระทำของเขานั้นแอบแฝงไปด้วยความหมายและเติมเต็มตัวละครให้ชัดเจนได้เป็อนย่างดีจนคนดูยากที่จะแย้งความคิดและการกระทำของเขาระหว่างทางได้ ซึ่งการให้ Han ตัวละครของ Park Hae-Soo มารับบทเป็นผู้ล่าและถูกหยิบมาเล่าที่ให้กลิ่นอายแบบหนังสยองขวัญ นั้นยังสะท้อนให้เห็นว่านอกจาก Han จะมีหน้าที่เป็นผู้ล่าแล้วเขายังเป็นเสมือนภาพสะท้อนความกลัวในจิตใจของ Joon-Seok ด้วยเช่นกัน
ส่วนที่เซอไพรส์เราสุดคือ ฉากแอ็กชั่น-ไล่ล่า ที่ใส่มาตลอดทั้งเรื่อง แทบไม่มีช่วงให้เหล่าตัวเอกได้พักเหนื่อย ยิงกันแต่ล่ะทีบอกเลยว่าสะใจเสียงปืนมาก! และงานสร้างที่เนรมิตเกาหลีใต้ให้ออกมาเงียบเหงาและรกร้าง บอกตรง ๆ เลยว่าอยากให้มี "ภาคต่อ"
TIME TO HUNT ถึงเวลาล่า
ดูได้แล้ววันนี้บน Netflix เท่านั้น
ลิงก์ https://zcu.io/cbWD
#จดอ #JUSTดูIT #Netflix #TimeToHunt
