12 Feet Deep (2017)
เห็นพล็อตคนติดในสระว่ายน้ำแล้วโดนหลังคาไฟเบอร์กลาสปิดจนไม่มีทางออกก็นึกว่าจะมาเล่าแนวดิ้นรนเอาชีวิตรอด แต่ไป ๆ มา ๆ ดันกลายเป็นกึ่ง Saw เสียอย่างนั้น เราชอบที่พล็อตมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อละลายปมความขัดแย้งระหว่างสองพี่น้องโดยมีคุณ(อี)ป้ามหาภัยเป็นคนกุมชะตากรรมไว้ในมือ แต่อีกด้านที่รู้สึกแหม่งจนแปร่งคือหนังมันมาโทนจริงจังไปหน่อยเลยทำให้การตัดสินใจต่าง ๆ ของตัวละครดูไม่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะบทคุณป้าวายร้าย ถ้ามันไปแนวเซอร์เรียลเหนือจริงหรือใช้ป้าเป็นสัญลักษณ์แทนอะไรสักอย่างอาจจะชอบหนังมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามหนังแบบนี้มันยังคงมีเสน่ห์สำหรับนักทำหนังทุนต่ำ ที่สามารถถ่ายทำสถานที่เดียวให้แล้วเสร็จปิดกองในระยะเวลาอันสั้นเพื่อลดต้นทุน โดยไม่ละทิ้งไอเดียหลักของเรื่อง หยิบมุมดราม่ามาเล่าผ่านบทสนทนาก็ได้ จะทำเป็นระทึกขวัญในที่ปิดตายก็ไม่ยากเย็นเท่าไร
.
ช่วงแรก ๆ ค่อนข้างรำคาญบทพี่สาวมาก แหกปากโวยวายแดกดันกับทุกอย่าง แต่พอปล่อยตัวไปกับหนังก็คิดว่าการแสดงออกในสถานการณ์เช่นนั้นคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ยิ่งเมื่อหนังใส่ความหนักหน่วงเข้าไปอีกขั้นด้วยการทำให้คนดูรับรู้ว่าคนหนึ่งเป็นเบาหวานต้องฉีดอินซูลิน ส่วนอีกคนก็ป่วยซึมเศร้าแถมยังเครียดที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระให้คนอื่นมาตลอด แล้วมันเข้มข้นทวีคูณเมื่อหนังค่อย ๆ เผยความลับบางอย่างในอดีตออกมา โดยตัวเร่งสำคัญคือการโผล่มาของป้าดูแลสระมหาภัยที่ควรจะมาช่วยชีวิตสองพี่น้องขึ้นจากสระง่าย ๆ แต่กลับมาตัดพ้อถึงชีวิตรันทดตัวเองแล้วเฝ้ารอดูสองพี่น้องอ้อนวอนขอความช่วยเหลืออย่างเวทนา บทป้านี่ร้ายแบบไม่แคร์โลกมาก ร้ายจนหมั่นไส้แรงเลย ป้าเหมือนเป็น เฮซุส ใน Countdown อย่างไรอย่างนั้น ซึ่งการมีป้าทำให้สองพี่น้องได้ละลายความขัดแย้งทั้ง ๆ ที่ยังคงขัดแย้งกันอยู่ สองคนยังเห็นต่างในตัวป้า คนหนึ่งมองโลกอย่างมีความหวัง ส่วนอีกคนมองโลกแง่ร้าย ในความเป็นจริงมันไม่มีใครผิดใครถูกหรอกเพราะเราต่างไม่รู้อนาคต แต่ที่แน่ ๆ การเข้าใจเหตุผลของอีกฝ่ายเนี่ยแหละที่จะทำให้ความสัมพันธ์มันเดินหน้าต่อไปได้ เหมือนอย่างใน 12 Feet Deep นั่นเอง
.
ถ้าดูในแง่หนังเอาชีวิตรอดคงไม่ชอบ แต่ถ้าดูในแง่หนังถ่ายทำที่เดียวแต่ใช้พล็อตมาขยายเรื่องราวความสัมพันธ์ขัดแย้งระหว่างสองพี่น้องได้แบบนี้ถือว่าโอเคเลย มุมหนึ่งมันก็หม่นหมองชวนเศร้า แต่อีกมุมก็ทำให้เห็นว่าในสถานการณ์จนตรอกนั้นทำให้มนุษย์ยอมรับสภาพและพยายามเยียวยากันได้ขนาดไหน
Director: Matt Eskandari
screenplay: Matt Eskandari, Michael Hultquist
Genre: thriller
6.5/10
