"ช่องส่องผี" รับผิดชอบด้วยการถอดรายการออกจากช่อง 8 ด้วยฝีปากของ "เรนนี่" ที่ย่ำยีหัวใจคนโคราช หมิ่นเกียรติ "ย่าโม" กล่าวหา "ย่าบุญเหลือ" เป็นเมียน้อย !!
.
ประธานกลุ่มคนรักษ์ย่าโมบอก "แค่คิดก็จัญไรแล้ว.."
.
LINEกนก เคยทำเรื่อง "ย่าโม" ตอน "นางสาวบุญเหลือ" วีรสตรีผู้พลีชีพ ขอสรุปเกียรติประวัติของท่าน เมื่อเกือบ ๒๐๐ ปีก่อน..
.
เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ ซึ่งตอนนั้นขึ้นกับไทย มาเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพ รัชกาลที่ ๒ เจ้าอนุวงศ์ได้กราบทูล รัชกาลที่ ๓ ขอพวกครอบครัวคนลาว ซึ่งถูกกวาดต้อนมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา กลับไปเวียงจันทน์ แต่รัชกาลที่ ๓ ไม่โปรดพระราชทาน เพราะคนเหล่านั้นอยู่มาหลายรัชกาลจนเป็นคนไทยไปแล้ว ทำให้เจ้าอนุวงศ์หน้าแตก ไม่พอใจ
.
พอกลับไปเวียงจันทน์ ได้คุมกองทัพมา ๓,๐๐๐ คน มาถึงนครราชสีมาเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๓๖๙ อ้างว่าทางกรุงเทพฯมีหนังสือเรียกให้ไปช่วยรบกับอังกฤษ
.
ตอนนั้นเจ้าพระยานครราชสีมา พระยาปลัด และกรมการเมืองส่วนใหญ่ไม่อยู่ ไประงับเหตุวิวาทที่เมืองขุขันธ์
.
เจ้าอนุวงศ์ สั่งให้กวาดต้อนครอบครัวชาวนครราชสีมาไปเวียงจันทน์ภายใน ๔ วัน ให้ทหารเก็บเครื่องศาสตราวุธของชาวนครราชสีมาทั้งหมด แม้แต่มีดพร้าก็ไม่ให้เหลือ
.
แต่ทางไทยแจ้งว่า ระหว่างทางจะเกิดความอดอยาก ขอมีด ขวาน ปืน สัก ๙ กระบอก ๑๐ กระบอก พอได้ยิงเนื้อมากินเป็นเสบียงเลี้ยงครอบครัวไปตามทางบ้าง เจ้าอนุวงศ์ก็ยอมให้ จนกระทั่งถูกกวาดต้อนมาถึงทุ่งสัมฤทธิ์
.
การวางแผนกู้ศักดิ์ศรีชาวนครราชสีมาครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะใช้ผู้หญิงประกบแม่ทัพนายกองทหารลาวเพื่อให้ตายใจ
.
คุณหญิงโม ภรรยาของพระยาปลัด เป็นแม่งานสำคัญในการวางแผน และสั่งให้ตัดไม้เสี้ยมปลายให้แหลม ใช้เป็นอาวุธต่อสู้กับดาบและปืน
.
สำหรับ "บุญเหลือ" นั้น นางเป็นลูกสาวของหลวงเจริญ กรมการชั้นผู้น้อย แต่มีความสนิทใกล้ชิดและเคารพนับถือพระยาปลัดกับคุณหญิงโมเป็นอันมาก อีกทั้งพระยาปลัดและคุณหญิงโมไม่มีบุตรธิดา จึงรักใคร่เอ็นดูบุญเหลืออย่างลูกหลาน
.
ในงานสำคัญครั้งนี้ บุญเหลือได้รับความไว้วางใจให้ประกบ เพี้ยรามพิชัย นายทหารลาวผู้เป็นหัวหน้าควบคุมกองคาราวานเชลย โดยรับหน้าที่ต้องสังหารเพี้ยรามพิชัยให้ได้
.
เมื่อถึงเวลานัดหมาย ชาวนครราชสีมาได้เข้าจู่โจมแย่งอาวุธและฆ่าฟันทหารลาว บุญเหลือได้ยินสัญญาณก็คว้าดาบเพื่อจะสังหารเพี้ยรามพิชัยตามแผน แต่เพี้ยรามพิชัยเป็นนักรบเจนสนาม ขณะที่บุญเหลือเป็นเด็กสาว อายุ ๒๔ ปี เพี้ยรามพิชัยจึงเป็นฝ่ายแย่งดาบไปได้
.
บุญเหลือหันไปคว้าดุ้นฟืนที่สุมไฟอยู่แล้ววิ่งหนี.. โดยมีเพี้ยรามพิชัยวิ่งตามไปติดๆ เป้าหมายของนางก็คือหมู่กองเกวียนที่บรรทุกกระสุนดินดำ !!
.
เมื่อไปถึง นางได้โยนดุ้นฟืนที่ติดไฟเข้าไปที่เกวียนเล่มหนึ่งทันที เป็นผลให้เกิดระเบิดขึ้น แล้วลุกลามต่อไปจนระเบิดหมดทั้ง ๕๐ เล่ม
.
ร่างของ "วีรสตรีบุญเหลือ" และศัตรูแผ่นดินคือเพี้ยรามพิชัยแหลกกระจายด้วยแรงระเบิดไปด้วยกัน แสงเพลิงโชติช่วงแดงฉานทั่วทุ่งสัมฤทธิ์ ขวัญกำลังใจของทหารลาวแตกกระเจิง แต่ชาวนครราชสีมาฮึกเหิม ฆ่าฟันทหารลาวจนเกือบหมด ที่เหลือก็แตกหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต
.
การสละชีวิตของบุญเหลือจึงเป็นผลอย่างมากต่อชัยชนะในครั้งนี้ ชาวนครราชสีมาไม่มีวันลืมวีรกรรมอันน่าสรรเสริญของนางได้ เช่นเดียวกับที่ไม่อาจลืมวีรกรรมของ “คุณหญิงโม” ท้าวสุรนารี
.
ชาวนครราชสีมา ได้ร่วมกันสร้าง “อนุสรณ์สถานนางสาวบุญเหลือ” ขึ้นที่โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์ มีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๒๙
.
ทางจังหวัดนครราชสีมาได้กำหนดให้ทุกวันที่ ๔ มีนาคม เป็นวันสดุดีวีรกรรมของ "นางสาวบุญเหลือ" วีรสตรีที่ใช้วิธีแบบเดียวกับ “ระเบิดพลีชีพ” เพื่อปกป้องชาติบ้านเมืองและชาวนครราชสีมาในครั้งวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์
Search