เพื่อนบ้านเขาเป็นยังไงบ้าง ? หลังสถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลายลงมาก! IMF อัปเดตตัวเลข GDP ล่าสุด ไตรมาส 3/2020 ของ 10 ประเทศอาเซียน ประเทศไหนจะโตสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
.
หากถามว่าประเทศไหน ที่กำลังมาแรง เติบโตที่สุด และเป็นที่น่าจับตามองที่สุดในอาเซียนท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 เช่นนี้ หลายคนคงนึกถึง “เวียดนาม” เป็นประเทศแรก แต่ผิดคาด! เมื่อล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้ประกาศตัวเลขไตรมาส 3/2020 ของทั้ง 10 ประเทศอาเซียน พบว่า ไม่ใช่เวียดนามอย่างที่หลายคนคิด แต่กลับเป็นม้ามืดอย่าง “เมียนมาร์” ที่ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แซงหน้าเวียดนาม มี GDP ปรับตัวสูงขึ้นเป็นบวกถึง 2% ตามมาด้วย เวียดนาม ที่มี GDP เติบโตที่ 1.6%
.
ในด้านของไทย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดี ที่ล่าสุดไทยไม่ได้รั้งตำแหน่งบ๊วยอีกต่อไป แต่ได้ขยับขึ้นมาเป็นรองบ๊วย จากเดิมที่คาดว่า เศรษฐกิจจะติดลบถึง -7.7% แต่ล่าสุดขยับขึ้นเป็น -7.1%แม้จะไม่ใช่ตัวเลขที่มาก แต่ก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีว่าไทย จะสามารถขยับขึ้นอยู่ตำแหน่งที่สูงกว่านี้ได้อีก ส่วนประเทศที่มีตัวเลขเศรษฐกิจต่ำที่สุดในอาเซียน รั้งตำแหน่งบ๊วยตอนนี้ ก็คือ “ฟิลิปปินส์” ที่มี GDP ติดลบอยู่ที่ -8.3%
.
ทั้งนี้ IMF ยังได้คาดการณ์ว่าไทยจะเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานต่ำที่สุดในอาเซียน ทรงตัวที่ระดับ 1.0% ทั้งปีนี้และปีหน้า แต่ในปี 2021 เศรษฐกิจไทยจะมีเกณฑ์ขยายตัวขึ้นที่ 4.0% รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ในอาเซียนก็มีเกณฑ์ขยายตัวขึ้นเช่นเดียวกัน ได้แก่ เมียนมาร์ ขยายตัว 5.7%, เวียดนาม ขยายตัว 6.7%, ลาว ขยายตัว 4.8%, บรูไน ขยายตัว 3.2%, อินโดนีเซีย ขยายตัว 6.1%, กัมพูชา ขยายตัว 6.8%, มาเลเซีย ขยายตัว 7.8%, สิงคโปร์ ขยายตัว 5.0% และฟิลิปปินส์ ขยายตัว 7.4%
.
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะผ่อนคลายลงมากก็จริง แต่ก็ต้องยอมรับว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้ง 10 ประเทศอาเซียน รวมถึงเศรษฐกิจโลกด้วย ยังคงเผชิญอยู่กับความไม่แน่นอน เพราะในบางประเทศอาจจะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้แล้ว แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดอยู่เรื่อยๆ อีกทั้งยังมีอีกหลายประเทศที่ปัจจุบันต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 อยู่ ซึ่งทุกประเทศต่างได้รับผลกระทบจากการวิกฤตนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
ดังนั้น เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจของแย่ไปกว่านี้ ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงประชาชนทุกคน ต้องร่วมมือกันประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศ เพราะหากเศรษฐกิจต้องติดลบมากขึ้นกว่านี้ กว่าจะฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติอาจเป็นไปได้ยาก และต้องใช้ระยะเวลานานหลายปีเลยทีเดียว
.
❗️ อัปเดต สถานการณ์โควิด-19 ล่าสุดของแต่ละประเทศ (วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563)
1. อินโดนีเซีย 🇮🇩 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 497,668 ราย
2. ฟิลิปปินส์ 🇵🇭 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 418,815 ราย
3. เมียนมาร์ 🇲🇲 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 79,246 ราย
4. สิงคโปร์ 🇸🇬 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 58,160 ราย
5. มาเลเซีย 🇲🇾 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 54,775 ราย
6. ไทย 🇹🇭 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,913 ราย
7. เวียดนาม 🇻🇳 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 1,307 ราย
8. กัมพูชา 🇰🇭 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 306 ราย
9. บรูไน 🇧🇳 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 148 ราย
10. ลาว 🇱🇦 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 25 ราย
.
ที่มา : https://data.imf.org/?sk=abff6c02-73a8-475c-89cc-ad515033e662&sId=1462204389301
file:///C:/Users/DELL/Downloads/TablesA.pdf
.
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#GDP #ASEAN #เศรษฐกิจ #เศรษฐกิจไทย #Economic
#Myanmar #Vietnam #Thailand
อายุน้อยร้อยล้าน ล่าสุด 2563 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最佳貼文
เจฟฟ์ เบโซส์ ซีอีโอบริษัท Amazon โค่นสถิติคนรวยที่สุดในโลกของตัวเอง ซ้ำแล้วซ้ำอีก!
.
หลังจากปี 2562 ที่ เจฟฟ์ เบโซส์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท Amazon ได้ชิงเก้าอี้บุคคลที่รวยที่สุดในโลกมากจาก บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft ได้แล้วนั้น ล่าสุด นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) รายงานว่า เจฟฟ์ เบโซส์ ได้โค่นสถิติตัวเองด้วยการมีทรัพย์สินมูลค่ารวมถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6.25 ล้านล้านบาท)แล้ว หลังจากที่ล่าสุดราคาการซื้อของหุ้น Amazon มีการปรับตัวขึ้น 2.85% ภายในคืนเดียว ทำให้ทรัพย์สินส่วนตัวของเขาเพิ่มขึ้นถึง 4,900 ล้านดอลลาร์ ภายในคืนเดียว!
.
มนุษย์คนแรกในประวัติศาสตร์โลก ที่มีเงินมากกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ !! เมื่อต้นปี 2563 นี้ เบโซส์มีทรัพย์สินอยู่ที่ประมาณ 115,000 ล้านดอลลาร์อยู่เลย แต่อยู่ดีๆ ผ่านไปไม่ถึง 9 เดือน เขาก็รวยขึ้นอีกกว่า 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตัวเลขขนาดนี้ มหาเศรษฐีด้วยกันเองยังใช้เวลาทั้งชีวิตในเงินการหาเงินเท่ากับระยะเวลาเพียง 9 เดือนของชายคนนี้ไม่ได้เลย
.
“ไม่ใช่แค่ 1 บริษัท” นอกจาก Amazon แล้ว เบโซส์ยังเป็นเจ้าของบริษัทชิ้นส่วนและสร้างยานอวกาศ อย่าง “บลูออริจิน” ที่เขาก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2000 และหนังสือพิมพ์สื่อหลักของสหรัฐอเมริกา อย่าง “วอชิงตันโพสต์” ที่เขาได้เข้าซื้อกิจการเมื่อปี 2556
.
“สวนกระแส” ท่ามกลางการปิดตัวลงของหลายบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 แต่บริษัท Amazon กลับเติบโตแบบพุ่งทยานมากกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤต และทะลุเพดานสูงสุดใหม่ตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะอะไร
.
บริษัท Amazon เป็นบริษัทที่เรารู้จักกันดีในฐานะผู้ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของโลก แต่พวกเขายังทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตอีกมากมาย แต่รายได้ของบริษัทร้อยละ 70 นั้นมาจากธุรกิจค้าปลีกออนไลน์อย่างเว็บไซต์ Amazon เนี่ยแหละ
.
ยิ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้คนต้องอยู่ที่บ้าน และรัดษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งธุรกิจของ Amazon นั้นตอบโจทย์ได้ตรงเป๊ะกับการใช้ชีวิตเช่นนี้ เพราะเมื่อไม่สามรถออกไปนอกบ้านได้ ก็ต้องเปลี่ยนมาสั่งสินค้าออนไลน์แทน และแน่นอนว่า Amazon ก็เป็นแบรนด์อันดับแรกๆ ที่คนจะเลือกใช้บริการ
.
“น้ำขึ้นให้รีบตัก” เมื่อสถานการณ์ช่างเป็นใจเช่นนี้ Amazon ไม่รอช้าที่จะเข้าซื้อกิจการเพื่อเสริมทัพความแข็งแกร่งให้กับบริษัท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ ซูเปอร์มาร์เก็ตอาหารสดและของชำ หรือร้านขายยาออนไลน์ เพื่อให้บริการผู้ที่อาศัยอยู่บ้านไม่อยากออกเดินทางไปไหนได้อย่างครอบคลุม
.
เรียกได้ว่าวิกฤตอะไรก็เอา เจฟฟ์ เบโซส์ ลงจากตำแหน่งนี้ไม่ได้จริงๆ ได้แต่คอยติดตามว่าเขาจะโค่นสถิติตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกสักกี่ครั้ง หรือจะมีใครที่มาแรงแซงทางโค้งพา เจฟฟ์ เบโซส์ ลงจากบัลลังค์นี้ได้ ต้องรอติดตามชมกันต่อไป
.
ที่มา : https://workpointtoday.com/jeff-bezos-200-billion/
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#Business #Ecommerce #Billionaires
#รวยที่สุดในโลก #JeffBezos #Amazon
อายุน้อยร้อยล้าน ล่าสุด 2563 在 อายุน้อยร้อยล้าน - Home | Facebook 的推薦與評價
TV show. 3.7M followers. Like. Liked. HomeLiveVideosGroupsEventsPostsAboutCommunityPhotos. About. See what อายุน้อยร้อยล้าน is doing in Messenger. Get Started. ... <看更多>