ผมเริ่มเปิดให้คำปรึกษา เเละ ขายหนังสือออนไลน์ วันที่ 17 พฤษภาคม 2020
.
จุดเด่นของสมองไหล คือ การให้คำปรึกษาว่า “หนังสือเล่มไหนที่คุณควรอ่าน เเละ หนังสือเล่มไหนถูกเขียนมาเพื่อคุณ”
.
ตลอดระยะเวลา 1 เดือน มีคนเข้ามาขอคำปรึกษามากมาย ทั้ง คนที่ อกหัก, สูญเสียคนในครอบครัว, ตกงาน, หมดไฟ, อยากทำธุรกิจ, หาเเรงบันดาลใจ, อยากบริหารเงินให้เก่ง, อยากบริหารเวลา ฯลฯ
.
สิ่งที่ผมทำ คือ เลือกหนังสือที่จะช่วยเเก้ปัญหาเหล่านั้นให้กับพวกเขา
.
ผมจึงนิยามตัวเองว่า “เป็นคลินิคที่จ่ายยาเป็นหนังสือ” นี่คือสิ่งที่ผมมีเเต่คนอื่นไม่มี เเละ ไม่มีใครสามารถทำเเทนผมได้
.
เพราะธุรกิจ คือ การเเก้ปัญหาให้ใครบางคนเสมอ
.
ระยะเวลา 1 เดือนเต็ม สามารถขายหนังสือได้ทั้งหมด 422 เล่ม
.
ร้อยละ 60% คือ คนที่อ่านหนังสือเล่มเเรก ซึ่งเพจสมองไหลเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเขาอยากอ่านหนังสือ
.
เเต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ “จากการเก็บข้อมูลปลายทางการจัดส่งหนังสือ” พบว่า...
อันดับ 1 คือ กรุงเทพฯ คิดเป็น 37%
อันดับ 2 คือ ชลบุรี คิดเป็น 7%
อันดับ 3 คือ ปัตตานี คิดเป็น 6%
อันดับ 4 คือ นราธิวาส คิดเป็น 4%
อันดับ 5 คือ ยะลา คิดเป็น 4%
.
สิ่งที่ผมเห็นจาก 5 อันดับนี้คือ กรุงเทพฯ เเละ ชลบุรี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ มีร้านหนังสือให้เดินไปซื้อได้ตามความสะดวก เเต่ทำไมมาซื้ออนไลน์กัน
.
คำตอบนี้ หลายคนคงเดากันออกว่า ก็เพราะในเมืองใหญ่รถติด มันคงสะดวกเเละประหยัดเวลากว่าที่จะสั่งซ์้อทางออนไลน์
.
เเต่อันดับที่ 3 4 เเละ 5 นี่เเหละ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ 3 จังหวัดชายเเดนภาคใต้ เมืองที่รถไม่ติด การจะไปร้านหนังสือนั้นง่ายซะยิ่งกว่าง่าย ขับรถไป 5 นาทีก็ถึงเเล้ว ทำไมต้องมาซื้อออนไลน์
.
คำตอบ คือ เพราะ 3 จังหวัดชายเเดนภาคใต้เเทบจะไม่มีร้านหนังสือครับ
.
เดิม ร้านหนังสือ ของ 3 จังหวัดชายเเดนภาคใต้เคยมีอยู่ที่ คือ B2S ที่ห้าง BigC ปัตตานี เเละ Se-ed ที่ห้างโคลีเซียม ยะลา ส่วนนราธิวาส ไม่มีตั้งเเต่เเรก
.
เเต่ตอนนี้ร้าน B2S ของปัตตานีนั้นปิดตัวไปเเล้ว เหลือเเต่ Se-ed ของยะลา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ยะลาเป็นอันดับที่ 5
.
เเต่ถามว่าในเมื่อมีร้านหนังสืออยู่เเถมรถไม่ติด ทำไมถึงซื้อออนไลน์เป็นอันดับ 5 ล่ะ
.
คำตอบคือ ทั้งจังหวัดมีอยู่ที่เดียว ดังนั้น พื้นที่ห่างไกลอย่าง เบตง รามัน ยะหา นั้นไม่มีร้านหนังสือให้เข้าไปเลือกซื้อ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ยะลามาซื้อหนังสือออนไลน์กับเพจสมองไหลเป็นอันดับที่ 5
.
มันจึงน่าคิดว่า บางคนอยู่ใกล้ร้านหนังสือ เเต่ไม่มีเวลาที่ไป ส่วนบางคนมีเวลามากมาย เเต่กลับไม่มีร้านหนังสือให้เดิน เเละ อีกหลายคนอยากอ่านหนังสือ เเต่ไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน
.
ซึ่งผมนี่เเหละจะเป็นคนที่ช่วยเเก้ปัญหาเหล่านั้นให้เอง
.
เเต่สิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดคือ การได้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ใครหลายคนอยากจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน เเละสามารถทำให้ชีวิตของพวกเขาก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมีคุณภาพได้
.
ซึ่งไม่ใช่เเค่ในประเทศไทย เเต่ยังขยายไปถึง ประเทศ สปป ลาว, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา เเละฟินเเลนด์ เเละยังรวมไปถึงคนที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เเละ สถานพินิจฯ fด้วย
.
เเละนี่คือบทสรุป 20 ข้อ ที่ผมได้เรียนรู้จากการเปิดรับห้คำปรึกษา เเละ ขายหนังสือ ตลอดระยะเวลา 1 เดือน เต็มครับ
.
.
บันทึก #สมองไหล 17-6-63
ประเทศ ปัตตานี 在 Kanok Ratwongsakul Fan Page Facebook 的最讚貼文
วันนี้ติดเชื้อเพิ่มแค่ 38 ราย ลดลงจาก 51 รายเมื่อวานนี้ เรามาถูกทางแล้ว..
.
เราต้องช่วยกันกดตัวเลขให้มันลงไปอีก ให้ " โควิดโงหัวไม่ขึ้นในประเทศไทย "
.
ย้อนกลับไปวันที่ 18 มี.ค.วันนั้นเรามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 35 คน พอหลังจากวันที่ 21 มี.ค.ซึ่งมี 89 ราย เราก็ไม่เคยมีตัวเลขต่ำกว่า 89 อีก จนถึงเมื่อวานนี้
.
วันนี้มีบุคลากรทางการแพทย์ติดอีก 3 รวมเป็น 53 นับจากวันที่ 15 ก.พ.ที่มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อเป็นคนแรก
.
วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวม 27 ราย ดังนี้...
.
1.) 1 มี.ค. ชายไทย อายุ 35 ปี เป็นไข้เลือดออกด้วย รักษาที่ รพ.เอกชนปลาย ม.ค. ก่อนถูกส่งมาที่สถาบันบำราศนราดูร วันที่ 5 ก.พ. เสียชีวิต 29 ก.พ.
2.) 24 มี.ค. ชายไทย อายุ 70 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 มี.ค. เป็นผู้ป่วยที่มีอาการวัณโรคร่วม รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร
3.) 24 มี.ค. ชายไทย อายุ 79 ปี มีประวัติเดินทางไปดูมวยที่สนามมวย มีอาการหนักตั้งแต่แรกรับ มีโรคประจำตัวหลายโรค รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร
4.) 24 มี.ค. ชายไทย อายุ 45 ปี เป็นโรคเบาหวาน และโรคอ้วนอยู่เดิม รักษาที่ รพ.เอกชนในกรุงเทพฯ
5.) 27 มี.ค. ชายไทย อายุ 50 ปี รักษาที่ รพ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มีประวัติเดินทางกลับจากมาเลเซีย
6.) 28 มี.ค. หญิงไทย อายุ 55 ปี ชาวกรุงเทพฯ ป่วยเบาหวาน และไขมันในเลือดสูง เสียชีวิตวันที่ 27 มี.ค.
7.) 29 มี.ค. ชายไทย อายุ 68 ปี เสียชีวิตใน จ.นนทบุรี มีประวัติเชื่อมโยงกับการไปสนามมวย
8.) 30 มี.ค. ชายไทย อายุ 54 ปี ชาว จ.ยะลา มีประวัติเดินทางกลับจากมาเลเซีย
9.) 30 มี.ค. หญิงไทย อายุ 56 ปี รักษาที่ รพ.เอกชนในกรุงเทพฯ พบภาวะปอดอักเสบรุนแรง
10.) 31 มี.ค. ชายไทย อายุ 48 ปี อยู่อีสาน เป็นนักดนตรีในกรุงเทพฯ มีประวัติเป็นเบาหวานและมะเร็ง
11.) 1 เม.ย. ชายไทย อายุ 79 ปี อยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเบาหวาน และไตวายเรื้อรัง ไปงานแต่งงานที่มาเลเซีย เริ่มป่วยวันที่ 20 มี.ค. เสียชีวิตวันที่ 31 มี.ค.
12.) 1 เม.ย. ชายไทย อายุ 58 ปี เป็นนักธุรกิจกลับจากอังกฤษถึงไทยวันที่ 14 มี.ค.เสียชีวิตวันที่ 31 มี.ค.
13.) 2 เม.ย. ชายไทย อายุ 57 ปี ชาว อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ไปปากีสถาน กลับไทยวันที่ 29 มี.ค. เสียชีวิตบนรถไฟสายกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ระหว่างเดินทางกลับบ้าน วันที่ 30 มี.ค.
14.) 2 เม.ย. ชายไทย อายุ 77 ปี อยู่ใน จ.ปัตตานี มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย และเป็นโรคถุงลมโป่งพอง-เบาหวาน
15.) 2 เม.ย. ชายไทยอายุ 55 ปี อาชีพขับรถสาธารณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีประวัติเดินทางไป จ.สุรินทร์
16.) 3 เม.ย. ชายไทย อายุ 59 ปี พนักงานการรถไฟ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 เม.ย.
17.) 3 เม.ย. ชายไทย อายุ 72 ปี มีประวัติสัมผัสกับลูกชายที่ป่วย หลังจากเดินทางไปดูมวยที่สนามมวยในกรุงเทพฯ
18.) 3 เม.ย. ชายไทย อายุ 84 ปี ทำงานที่สนามมวยราชดำเนิน เป็นโรคไตและความดันโลหิตสูง
19.) 3 เม.ย. ชายไทย อายุ 84 ปี ติดเชื้อหลังจากเดินทางไปดูมวยที่สนามมวยราชดำเนิน
20.) 4 เม.ย. ชายไทย อายุ 72 ปี เป็นหลายโรค เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง รักษาที่สถาบันทรวงอก เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 เม.ย.
21.) 5 เม.ย. ชายไทย อายุ 46 ปี อาชีพรับจ้าง กลับจากลอนดอน ถึงไทยเมื่อวันที่ 22 มี.ค.
22.) 5 เม.ย. ชายชาวสวิส อายุ 88 ปี เป็นโรคหัวใจ - ความดันโลหิตสูง มีประวัติร่วมงานเลี้ยงที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และบาร์ในกรุงเทพฯ รักษาที่โรงพยาบาลเอกชนใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.เพชรบุรี เสียชีวิตวันที่ 2 เม.ย.
23.) 5 เม.ย. ชายไทย อายุ 30 ปี อาชีพก่อสร้าง มีประวัติดื่มสุราเป็นประจำ มาจากพัทลุงวันที่ 20 มี.ค. ทำงานรับจ้างที่ จ.สุรินทร์ เสียชีวิตที่ จ.สุรินทร์ วันที่ 4 เม.ย.
24.) 6 เม.ย. ชายไทย อายุ 28 ปี เป็นพนักงานบริษัทในกรุงเทพฯ เพื่อนร่วมงานของภรรยาติดโควิด รักษาที่ รพ.ใน จ.สมุทรปราการ เสียชีวิตวันที่ 4 เม.ย.
25.) 6 เม.ย. ชายไทย อายุ 51 ปี ทำธุรกิจส่วนตัว รู้ผลว่าติดเชื้อวันที่ 2 เม.ย เสียชีวิต 4 เม.ย.
26.) 6 เม.ย. หญิงไทย อายุ 59 ปี ค้าขาย มีประวัติไปเล่นการพนันหลายแห่งใน กทม. ป่วย 29 มี.ค.เสียชีวิต 2 เม.ย
27.) 7 เม.ย. ชายไทย อายุ 54 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ไปงานเลี้ยงสังสรรค์หลายที่ เช่น ทองหล่อ เริ่มป่วยวันที่ 13 มี.ค.เสียชีวิตวันที่ 6 เม.ย. ด้วยระบบทางเดินหายใจล้มเหลว
.
ประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตรายแรก 29 ก.พ. วันเดียวกันกับรายแรกของสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย
.
วันนี้ สหรัฐ มีผู้เสียชีวิต ทะลุหลักหมื่นคนเมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) 10,923 คน จากยอดติดเชื้อ 368,449 คน อันดับ 1 ของโลก
.
ออสเตรเลีย มีผู้เสียชีวิต 42 คน จากผู้ติดเชื้อ 5,895 คน เป็นอันดับที่ 21 จาก 208 ประเทศ
.
ไทยอยู่อันดับที่ 40 มีผู้ติดเชื้อ 2,258 คน เสียชีวิต 27 รักษาหายแล้ว 824 คน
.
อยู่บ้านให้มากที่สุด
ล้างมือบ่อยๆ
อยู่ห่างจากคนอื่น 2 เมตร
"อย่า" พยายามเอามือเข้าปาก จมูก ตา
.
เราจะผ่านมันไปด้วยกัน..ในไม่ช้า