อ่างเก็บน้ำเต็มจริง แต่ไม่ท่วม!
รู้สึกแปลกๆ กับข่าวนี้มั้ยครับ …
“กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลประเด็นเรื่อง อ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีความจุน้ำเต็ม จำนวน 5 แห่ง จะส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมในจังหวัดนครราชสีมา …
… บทสรุปของเรื่องนี้คือ : อ่างเก็บน้ำทั้ง 5 แห่ง จุปริมาณน้ำจนเต็มแล้วจริง แต่มีพื้นที่ท้ายเขื่อนลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ได้รับผลกระทบแค่เพียงบางส่วน ส่วนอ่างฯ ที่เหลือไม่มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และไม่ทำให้เกิดน้ำท่วม จ. นครราชสีมาแต่อย่างใด”
ถ้าบอกว่าอ่างเก็บน้ำเต็ม ซึ่งเต็มจริงๆ แล้วบอกว่า “จะ” ส่งผลให้เกิดน้ำท่วม เท่ากับบิดเบือน?
อยากฟังความเห็นว่า คุณมองในมุมเป็นการ “เตือน” หรือเป็นการ “บิดเบือน” มากกว่าครับ
#อุทกภัย
วันที่ 13 ก.ย. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นบิดเบือน เพิ่มเติม 1 กรณีคือ
กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลประเด็นเรื่อง อ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีความจุน้ำเต็ม จำนวน 5 แห่ง จะส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมในจังหวัดนครราชสีมา ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
กรณีการให้ข้อมูลที่ระบุว่า ตอนนี้อ่างเก็บน้ำขนาดกลางในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 5 แห่ง ได้จุน้ำไว้เต็มแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาได้นั้น ทางกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า กรมชลประทาน ได้สั่งการให้สำนักงานชลประทานที่ 8 ตรวจสอบสถานการณ์น้ำทั้ง 5 เขื่อน ตามที่เป็นข่าวแล้ว พบว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 5 แห่ง เต็มเกินความจุจริง แต่มีพื้นที่ท้ายเขื่อนลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ได้รับผลกระทบแค่เพียงบางส่วน ส่วนอ่างฯ ที่เหลือไม่มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด และไม่ทำให้เกิดน้ำท่วมจังหวัดนครราชสีมาได้
โดยผลการตรวจสอบปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำแต่ละแห่ง มีดังนี้
1. อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนบน) ตำบลบ้านเก่า อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบัน ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 8.40 ล้านลูกบาศก์เมตร (100.00%)
1.1 มีปริมาณฝนตก 11.20 มม.
1.2 ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ 8.40 ล้านลูกบาศก์เมตร (100%) ปริมาตรน้ำ ไหลลงอ่างวันละ 0.059 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายวันละ 0.092 ล้านลูกบาศก์เมตรไหลลงลำน้ำลำเชียงไกร ความยาวประมาณ 80 กิโลเมตร
1.3 สภาพน้ำในลำเชียงไกร มีปริมาณน้ำ 80% ของความจุลำน้ำ ดังนั้น น้ำที่ไหลล้นออกจากทางระบายน้ำล้นฉุกเฉิน ไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายแต่อย่างใด
2. อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา
2.1 มีปริมาณฝนตก 15 มม.
2.2 ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 29.22 ล้านลูกบาศก์เมตร (105.52%) ระบายน้ำผ่านคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายและฝั่งขวา 1.511 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลลงลำน้ำลำเชียงไกร ความยาวประมาณ 120 กิโลเมตร ซึ่งมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำที่ติดลำเชียงไกร สาเหตุ จากน้ำท่า (Side Flow) ในพื้นที่ เนื่องจาก ฝนตกต่อเนื่อง และน้ำที่ระบายออกจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) บางส่วน
3. อ่างเก็บน้ำบะอีแตน ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
3.1 มีปริมาณฝนตก – มม.
3.2 ปัจจุบัน ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 1.88 ล้านลูกบาศก์เมตร (104.78%) ปริมาณน้ำไหลล้นทางระบายน้ำล้น 0.242 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลลงลำน้ำคลองตาพรหม ผ่านเขตพื้นที่ตำบลอุดมทรัพย์ จำนวน 3 หมู่บ้าน ซึ่งสภาพน้ำในคลองตาพรหม ความยาวประมาณ 25 กิโลเมตร มีปริมาณน้ำ 70% ของความจุลำน้ำ และไหลลงสู่ลำเชียงสา ดังนั้น น้ำที่ไหลล้นออกจากทางระบายน้ำล้น ไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายแต่อย่างใด
4. อ่างเก็บน้ำลำเชียงสา ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
4.1 มีปริมาณฝนตก 21 มม.
4.2 ปัจจุบัน ปริมาณน้ำ 7.60 ล้าน (101.32%) น้ำล้นทางระบายน้ำล้น 0.20 เมตร ปริมาณน้ำ 0.786 ล้านลูกบาศก์เมตร เปิดระบายน้ำจากท่อส่งน้ำลงคลองธรรมชาติ 0.172 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมระบายลงคลองธรรมชาติ 0.959 ล้านลูกบาศก์เมตร และไหลลงสู่ลำเชียงสา มีปริมาณน้ำ 70% ของความจุลำน้ำ ดังนั้น น้ำที่ไหลล้นออกจากทางระบายน้ำล้น ไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายแต่อย่างใด
5. อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
5.1 มีปริมาณฝนตก 12.5 มม.
5.2 ปัจจุบัน ปริมาณน้ำ 6.84 ล้าน (107.31%) น้ำล้นทางระบายน้ำล้น 0.26 เมตร ปริมาณ 0.847 ล้านลูกบาศก์เมตร เปิดระบายน้ำจากท่อส่งน้ำลงคลองธรรมชาติ 0.086 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมระบายลงคลองธรรมชาติ 0.933 ล้านลูกบาศก์เมตร และไหลลงสู่ลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำ 50% ของความจุลำน้ำ ดังนั้น น้ำที่ไหลล้นออกจากทางระบายน้ำล้น ไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 8 ได้ทำการประสานไปยังจังหวัดนครราชสีมา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้แล้ว และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากจากกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www1.rid.go.th หรือโทรสายด่วน 1460
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : อ่างเก็บน้ำทั้ง 5 แห่ง จุปริมาณน้ำจนเต็มแล้วจริง แต่มีพื้นที่ท้ายเขื่อนลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ได้รับผลกระทบแค่เพียงบางส่วน ส่วนอ่างฯ ที่เหลือไม่มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และไม่ทำให้เกิดน้ำท่วม จ. นครราชสีมาแต่อย่างใด
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน 5 ช่องทาง
「ขอความร่วมมือประชาชน」的推薦目錄:
- 關於ขอความร่วมมือประชาชน 在 Facebook 的最佳解答
- 關於ขอความร่วมมือประชาชน 在 Facebook 的精選貼文
- 關於ขอความร่วมมือประชาชน 在 Drama-addict Facebook 的精選貼文
- 關於ขอความร่วมมือประชาชน 在 ศูนย์ข้อมูล COVID-19 - สธ. ขอความร่วมมือประชาชนเพิ่มมาตรการ ... 的評價
- 關於ขอความร่วมมือประชาชน 在 สธ. ขอความร่วมมือประชาชนการ์ดอย่าตก เพื่อคุมการระบาดโควิด-19 的評價
ขอความร่วมมือประชาชน 在 Facebook 的精選貼文
เสียชีวิตวันนี้ 212 ราย ส่วนใหญ่ 93% เป็นกลุ่มเสี่ยง สูงอายุ กับ มีโรคประจำตัว และส่วนใหญ่เกือบ 90% ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
ถ้าวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงมาเร็วกว่านี้ …
#ร่วมแรงร่วมใจฝ่ามหันตภัยโควิด
สธ.แจง ผู้เสียชีวิตวันนี้ 212 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงรายงานสถานการณ์โควิดประจำวัน โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มในวันนี้ 212 ราย แบ่งเป็น
1.ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 141 ราย (67%)
2.อายุน้อยกว่า 60 ปี แต่มีโรคเรื้อรัง 55 ราย (26%)
3.ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 14 ราย (6%)
4.ตั้งครรภ์ 2 ราย (1%)
นอกจากนี้ จากผู้เสียชีวิต 212 ราย
1.ไม่เคยได้รับวัคซีน 172 ราย (89.58%)
2.ได้รับวัคซีน 1 เข็ม 19 ราย (9.90%) แอสตร้าฯ 17 ราย, ซิโนฟาร์ม 2 ราย
3.ได้รับวัคซีน 2 เข็ม 1 ราย (0.52%) ซิโนแวค
4.อีก 20 ราย ประวัติยังไม่ชัดเจน
“หมายความว่าคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโรคเรื้อรัง รวม 2 กลุ่มนี้คิดเป็น 93% ดังนั้น ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด เป็นกลุ่มคนที่มีโอกาสป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน การฉีดวัคซีนจะลดอาการป่วยหนัก ลดความรุนแรงของโรคลงได้ ถ้า 2 กลุ่มนี้ได้รับการฉีดวัคซีนก่อนก็จะช่วยทำให้ลดการป่วยตายได้มากทีเดียว”
นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ตัวเลขผู้ป่วยในวันนี้ 21,839 ราย ใกล้เคียงกับตัวเลขคาดการณ์ของกระทรวงสาธารณสุข ในกรณีที่การล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 20% เท่ากับการล็อกดาวน์ของเราตอนนี้ มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ 20% อยู่ และการเร่งฉีดวัคซีนตอนนี้จะยังไม่ทราบผลจนกว่าจะฉีดวัคซีนผู้สูงอายุและกลุ่มเป้าหมายโรคเรื้อรังให้ครบถ้วนมากกว่านี้ จึงจะดันยอดผู้ติดเชื้อให้ลดลงมาได้ จึงต้องตั้งเป้าร่วมกันว่าทำอย่างไรให้สามารถปรับตัวเลขให้ใกล้เคียงกับตัวเลขคาดการณ์กรณีที่มีการล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ 25% นาน 2 เดือน รวมกับการเร่งฉีดวัคซีนผู้สูงอายุและกลุ่มเป้าหมายให้ได้ภายใน 1-2 เดือน
ขอความร่วมมือประชาชน ในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อ 3 เรื่องดังนี้
1.งดรับเชื้อนอกบ้าน ด้วยการป้องกันตัวเอง ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็นมากที่สุด เช่น หาซื้ออาหาร หรือจำเป็นต้องไปทำงาน และป้องกันตัวเองอย่างเข้มงวด
2.งดแพร่เชื้อในครอบครัว โดยแยกรับประทานอาหารกับคนในครอบครัว แยกส่วนที่มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกันให้มากที่สุด
3.ถ้าสงสัยว่าติดเชื้อให้รีบตรวจ ATK เพื่อที่จะเข้าสู่ระบบการดูแลที่บ้าน และเข้าสู่โรงพยาบาลกรณีที่มีอาการหนัก
กรณีผู้เสียชีวิต มีการตั้งเป้าว่าผู้สูงอายุที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัดจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 70% ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม ขณะที่จังหวัดอื่นๆ ตั้งเป้าว่าต้องฉีดให้ครอบคลุม 50% ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม
“ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อที่จะทำให้ผู้เสียชีวิต 212 รายที่มีการรายงานวันนี้ถูกกดลงมาในเร็ววันนี้ จำเป็นต้องทำ 2 เรื่องคือ ลดการแพร่เชื้อให้กับกลุ่มเสี่ยง และให้ผู้สูงวัยได้ฉีดวัคซีนก่อนเพื่อลดอาการป่วยหนัก นี่คือสิ่งที่จำเป็นที่สุดที่จะช่วยลดการแพร่เชื้อ และลดการรับเชื้อจากนอกบ้านด้วย”
ขอความร่วมมือประชาชน 在 Drama-addict Facebook 的精選貼文
เนื่องจากกระแสคนไปจับหอยเม่นมาแงะไข่หอยเม่นกินจากทะเลบ้านเราตอนนี้ แถมยังมีขายออนไลน์เป็นล่ำเป็นสัน มีเรื่องควรรู้ดังนี้
1.หอยเม่น เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง วงศ์เดียวกับปลาดาว หากินตามแนวปะการัง มันจะกินพวกสาหร่ายตะไคร่ตามซากปะการัง ซึ่งจะเปิดพื้นที่ให้ปะการังตัวอ่อนได้มีที่ยึดเกาะเพื่อเจริญเติบโต คือช่วยในการฟื้นฟูแนวปะการัง แต่ในทางกลับกัน ถ้ามีหอยเม่นเยอะเกินไป มันก็จะทำลายซากปะการังจนไม่เหลือที่ให้ตัวอ่ออนปะการังเจริญเติบโต
2. ส่วน ไข่หอยเม่น หรือ อูนิ ที่เราเอามากินกันตามร้านอาหารญี่ปุ่น คืออัณฑะและรังไข่ของหอยเม่น
3.ส่วนมากที่เรากินกัน มาจากการทำฟาร์มหอยเม่น ซึ่งในไทยตอนนี้ก็เริ่มมีการพัฒนาการทำฟาร์มหอยเม่นเพื่อเป็นสัตว์เศรษฐกิจอีกตัวของบ้านเราแล้ว https://www.thairath.co.th/news/local/central/1404602
4. ซึ่งถ้าไปซื้อแบบที่เขาเพาะเลี้ยงในฟาร์มมากิน อันนั้นไม่น่ามีปัญหา แต่การไปจับหอยเม่นตามทะเลมาแกะกินกันเอง โปรดระวังของแถมที่จะตามมา นั่นคือ ปรสิต และเชื้อโรค เคยมีกรณีการติดเชื้อแบคทีเรีย Vibrio parahaemolyticus หลังการกินหอยเม่นนับสิบราย ถ้าติดเชื้อตัวนี้แล้วอาหารหนักๆก็ถึงตายได้เลย
แล้ว จนท ไปตรวจสอบพบการปนเปื้อนของเชื้อดังกล่าวในหอยเม่น ดังนั้นถ้าจะกินหอยเม่นควรเลือกกินจากแหล่งที่เชื่อถือได้และปลอดภัย แบบจับๆกันมาเองตามหาดแล้วเอามาขายนี่ ระวังไว้เถอะ
https://www.info.gov.hk/gia/general/200607/07/P200607070294.htm
https://www.cfs.gov.hk/english/multimedia/multimedia_pub/multimedia_pub_fsf_01_03.html
https://japantoday.com/category/national/bacteria-in-raw-sea-urchin-suspected-to-be-cause-of-food-poisoning-at-sushi-chain
5.กรมทรัพยากรชายฝั่ง ขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นเม่นทะเลขึ้นมาเกยตื้นบนหาด อย่าจับกิน ให้ช่วยกันพามันกลับลงทะเล เพราะจะช่วยกินสาหร่ายตะไคร้และทำให้ปะการังเจริญเติบโตต่อไป https://news.thaipbs.or.th/content/302498
ขอความร่วมมือประชาชน 在 สธ. ขอความร่วมมือประชาชนการ์ดอย่าตก เพื่อคุมการระบาดโควิด-19 的推薦與評價
สธ. ขอความร่วมมือประชาชนการ์ดอย่าตก เพื่อคุมการระบาดโควิด-19#TV5HD1 #ข่าวเช้าททบ5สุดสัปดาห์. ... <看更多>
ขอความร่วมมือประชาชน 在 ศูนย์ข้อมูล COVID-19 - สธ. ขอความร่วมมือประชาชนเพิ่มมาตรการ ... 的推薦與評價
สธ. ขอความร่วมมือประชาชนเพิ่มมาตรการ ร่วมมือปกป้องครอบครัว และคนที่คุณรัก - เพิ่ม Work From Home ให้มากที่สุด - งดสังสรรค์ ทานอาหารร่วมกัน ... <看更多>