關於 the edge of tomorrow ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

30 bộ phim về đề tài thảm hoạ ấn tượng

1. The Flu, 2013
2. I Am Legend, 2007
3. Train To Busan, 2016
4. WALL-E, 2008
5. Bird Box, 2018
6. Rise of the Planet of the Apes, 2011 (Dawn of the Planet of the Apes, 2014 và War of the Planet of the Apes, 2017)
7. World War Z, 2013
8. 2012, 2009
9. Battle: Los Angeles, 2011
10. Interstellar, 2014
11. The Day After Tomorrow, 2004
12. War of the Worlds, 2005
13. A Quiet Place, 2018
14. The Wandering Earth, 2019
15. Independence Day, 1996
16. Perfect Sense, 2011
17. Edge of Tomorrow, 2014
18. Take Shelter, 2011
19. Children of Men, 2006
20. 28 Days Later, 2002
21. #Alive, 2020
22. The Host, 2006
23. Ashfall, 2019
24. Mad Max: Fury Road, 2015
25. Snowpiercer, 2013
26. 12 Monkeys, 1995
27. The Road, 2009
28. Armageddon, 1998
29. The Impossible, 2012
30. The Book of Eli, 2010

#whatever

after spending nearly 5 months shooting 700+++ scenes, #TheFerrymanLegendsOfNanyang is finally going to premiere tomorrow 8pm through @iqiyi International app across 191 countries! 👏🏻 this is more than a show that’s out to scare you; every episode features my character #夏冬青 trying to help different souls fulfill their unfulfilled wishes so that they can cross over to the other world and move on peacefully. every episodes will have you on the edge of your seat but also leaving you touched and pondering deeper into issues revolving love, family, friendships, life etc. so mark down the timing tomorrow (8pm!) and tune in! 😘😘✨✨
#灵魂摆渡 #灵魂摆渡南洋传说 #iQiyiOriginals

#รีบรีวิว The Tomorrow War สงครามกู้อนาคต
พล็อตมะรุมมะตุ้ม แต่ออกมาสนุกเกินคาด!

เมื่อโลกได้รับข้อความขอความช่วยเหลือจากอนาคตในอีก 30 ปีข้างหน้า ที่ถูกเอเลี่ยนบุกโจมตี แต่ทางเดียวที่จะรอดพ้นจากหายนะครั้งนี้ได้คือทหารและเหล่าพลเรือนในยุคปัจจุบันจะต้องเดินทางข้ามกาลเวลาเพื่อเข้าสู้ในสงครามครั้งนี้

พล็อตเรื่องแอบดูเพี้ยน ๆ มะรุมมะตุ้มจนหลายคนนึกว่าภาคต่อ Edge of Tomorrow คนจากอนาคตต้องมาเกณฑ์คนในอดีตไปช่วยรบกับฝูงเอเลี่ยน แบบนี้แต่อย่าหลงคิดว่าหนังจะน่าเบื่อ และออกมาซ้ำ ๆ เดิม ๆ เหมือนที่ผ่าน ๆ มา เพราะภายใต้ความจำเจสุดนี้ กลับแฝงไปด้วยปมดราม่าและประเด็นการเมืองที่หนักเอาเรื่อง

The Tomorrow War ถูกออกแบบมาเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ดูเอาบันเทิง 100% แม้จะมีการปูเรื่องที่ค่อนข้างนาน (30 นาทีได้) แต่เมื่อตัวละครกระโดดลงสู่สมรภูมิหนังก็ไม่รอช้าที่อัดฉากแอ็กชันแบบนอนสต็อป แม้มันจะไม่มีอะไรใหม่ ผู้คนสาดกระสุนใส่ฝูงเอเลี่ยน ระเบิดตูมตาม แต่ในสถานการณ์แบบนี้ นี่คือสิ่งที่เราต้องการแบบไม่รู้ตัว

พล็อตที่โดดเด่นและสร้างปมดราม่าได้ดีที่สุด คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากความสัมพันธ์ในครอบครัว ระหว่าง แดน (Chris Pratt) กับ พ่อ (J.K. Simmons) และ แดนกับครอบครัว ที่เผยให้เห็นว่ามนุษย์แต่ละคนมีเหตุผลในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป บางครั้งทางที่เลือกเดินอาจไม่ใช่เส้นทางที่ตั้งใจแต่เป็นเส้นทางที่จำเป็น อีกทั้งยังเรื่องราวของพวกเขายังเป็นเครื่องย้ำเตือนว่าอนาคตคือสิ่งไม่แน่นอน

ในขณะที่ประเด็นการเมืองเองก็ดุเดือดไม่แพ้กันจากการข้อความช่วยเหลือของอนาคตในอีก 30 ปีข้างหน้า เพื่อรับมือกับสงครามที่ยังมาไม่ถึง ภาครัฐจึงจำเป็นต้องจัดตั้งกองกำลังขึ้นทั่วโลก ทำให้มีประชาชนจำนวนมากถูกเกณฑ์เข้ากอองกำลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และพวกเขามีเหตุจำเป็นแค่ไหนที่ต้องร่วมรบในสงครามที่พวกเขาไม่ได้เป็นคนก่อ? และยิ่งเป็นสงครามแห่งอนาคตคือสิ่งที่ยังมาไม่ถึงการส่งพลเรือนจำนวนมากข้ามเวลาไปโดยไร้ซึ่งการฝึก ทำให้ส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจและภารกิจอย่างร้ายแรงตามมา

ซึ่ง แดน ฟอเรสเตอร์ จะพาคนดูไปหาคำตอบผ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา รวมไปถึงเรื่องราวของเขาเอง ก็ชวนให้คนดูตั้งคำถามด้วยว่า... "การรู้อนาคตของตัวเองเป็นเรื่องที่ดีแล้วจริงหรือ?" ในขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นความโลภและไร้ความรับผิดชอบของภาครัฐฯ ที่ดำเนินการต่าง ๆ แค่หวังจะเอาหน้าในสังคมโลกเท่านั้น

ในยุคที่ความต่างของวัยกลายเป็นปัญหาที่มีสูงขึ้นเรื่อย ๆ The Tomorrow War สะท้อนให้เห็นว่าในภาวะที่โลกวิกฤต ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ความรู้ ความสามารถ ที่แต่ละคน แต่ละช่วงอายุมี ล้วนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทุกคนล้วนเป็นจิ๊กซอตัวสำคัญไปสู่การแก้ปัญหาที่ดีขึ้น

ในขณะที่คอนเสปต์ของหนังคือตัวชูโรง ในส่วนของตัวละครกลับเป็นข้อด้อย พวกเขาได้น่าสนใจหรือมีเสน่ห์เพียงพอที่จะแบกหนังให้ชวนลุ้นชะตากรรมเท่าที่ควร เช่นเดียวกับงานออกแบบในเรื่องที่ดูเหือดแห้ง โดดเด่นหน่อยคงจะมีเพียงแค่เหล่าเอเลี่ยนที่ทำออกมาได้บ้าคลั่งสมใจ

The Tomorrow War มีวิธีการดำเนินเรื่องคล้าย Edge of Tomorrow ผสมกับ Aliens และ Starship Troopers เมื่อถึงคราวแอ็กชัน หนังก็คอมโบสาดกระสุนไม่ยั้ง แม้จะไม่ได้ออกมาหวือหวาแต่ก็ชวนลุ้นระทึกและเสิร์ฟความมันส์อย่างต่อเนื่อง เมื่อถึงช่วงเวลาที่เล่นจังหวะลุ้นระทึก หนังก็สร้างบรรยากาศที่น่าค้นหา เต็มไปด้วยความลึกลับ และแอบน่ากลัวอยู่นิด ๆ ถือเป็นหนังดูเอาบันเทิงเน้น ๆ ที่เซอไพรส์เกินคาดในปีนี้

The Tomorrow War
ดูได้แล้ววันนี้ที่ Amazon Prime เท่านั้น

ลิงก์: https://www.primevideo.com/detail/0HO6WUQQ3BCBFB9T76RUUCMABR/

#จดอ​ #JUSTดูIT​​ #AmazonPrime #TheTomorrowWar

#BorisFoong #RamseyWestwood #StellarRadio

Brought to you by Boris Foong & Ramsey Westwood.

Connect with Stellar Radio
▶ https://www.facebook.com/StellarRadioMusic

Listen to this week’s episode in audio?
▶ https://www.mixcloud.com/StellarRadio

Subscribe to Boris Foong's YouTube Channel via
▶ https://www.youtube.com/borisfoong

Connect with Boris Foong
▶ https://www.facebook.com/djborisfoong

Connect with Ramsey Westwood
▶ https://www.facebook.com/djramseywestwood

TRACKLIST :
00:00:00 Stellar Radio Intro
00:01:37 Trust A Feeling - LTN Pres. Ghostbeat & Arielle Maren [AVA Deep]
00:04:09 Farewell To The Moon (PROFF Remix) - York [Armada Music]
00:08:14 Miraje - Le Youth [Anjunabeats]
00:11:48 In My Head - Natrx [Flashover Recordings]
00:14:52 Jump - Say Say Feat. Eeva [Armada Music]

SOUND OF TOMORROW:
00:17:59 Battlefield - Armin Van Buuren [Armind]

00:21:53 Eleven - Eekkoo [Mau5trap]
00:25:33 Myers - Anven [Suanda Progressive]

LOOKING BACK:
00:29:06 Elements - Alexander Popov & Kitone [Armada Captivating]

00:32:50 Leave - Somna, Mark Bester & Tara Louise [Enhanced Progressive]
00:37:54 How Could It Be (Ben McConnell Remix) - Reznor [Scorchin' Records]
00:42:15 Overwhelming - Bigtopo & Airnova [AVA Recordings]
00:46:11 Dayfall - RUB!K [Reaching Altitude]

CLASSIC PICK
00:49:13 Dreaming (Evolution Remix) – BT [Embrace The Future Inc]

00:55:25 Constellation (Luke Bond Presents Bond Remix) - Thomas Bronzwaer [A State Of Trance]
00:59:08 Paradise Found - Adam Taylor [A State Of Trance]
01:04:43 Confusion - Davey Asprey [Damaged Records]
01:08:40 Edge Of Paradise - Tycoos & Kate Miles [Suanda Voice]
01:13:04 Missing Part Of Me - Triode & Clara Yates [Ava White]
01:17:58 Moonlight Party (Greg Downey Remix) - Fonzerelli [Deep In Thought]
01:22:50 Start Again - Kaimo K & Elara [Amsterdam Trance]
01:28:34 Sustained - Johan Gielen & Starpicker [FSOE]
01:32:08 Stellar Radio Outro

"หนึ่งปรปักษ์ จะปฏิวัติทั้งโลก"

2 ซูเปอร์สตาร์ Tom Holland และ Daisy Ridley
โคจรมาคบกันเป็นครั้งแรกในแอ็กชันไซไฟไอเดียล้ำ
เมื่อโลกอนาคตถูกควบคุมด้วย #เสียงคิด ที่ไม่มีใครหลีกพ้น!

จากผู้กำกับ Jumper & Edge of Tomorrow
และสตูดิโอผู้สร้าง “The Hunger Games

CHAOS WALKING จิตปฏิวัติโลก
11 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

#จดอ #JUSTดูIT #ChaosWalking #จิตปฏิวัติโลก

ติดตามเพจของเรา https://facebook.com/JustDooItTH

Merry Chrimas! Do not put any fruits on your Mecha Frame!

0:00 Fruit x Robot I
0:44 Fruit x Robot II
1:30 Behind the Scenes

Get the yellow one ▶ https://amzn.to/345AHVg
Get the green one ▶ https://amzn.to/3a017eI

Director: Jordan Tseng
Rotoscoping: 盧學航
Producer: Yu
Scene Designer: 陳韋霖
Soundmix: Audioforest Studio
-------------------------------------------------------------------------------------
stop motion線上課程開課中 ▶ https://hahow.in/cr/jordanstopmotion
Instagram ▶ https://bit.ly/2BhAiDC
Facebook fan page ▶ https://bit.ly/30h70z8
築格動畫Facebook粉絲專頁 ▶ https://bit.ly/367GrgU
Twitter ▶ https://bit.ly/3deNpmd