子宮頸癌的疫苗在全球已經上市十多年,理論上可以預防子宮頸癌 ,但還未有大型研究結果 。前幾天在新英格蘭醫學雜誌上發表了一份在瑞典160萬名年輕女性接種4價HPV 疫苗12年的追蹤研究報告。下方的圖表裡,很清楚的表示了有無接種疫苗與各年齡層子宮頸癌的發生頻率。
17歲以前接種疫苗的女性在12年的追蹤過程中發生子宮頸癌的機率,在調整可能偏見的變因過後,大約是不到未接種疫苗女性機率的3-4成,這相當於之前預測的結果,身爲婦產科醫師的我對這個結果其實並不感到驚訝,因為四價疫苗涵蓋的病毒株大約佔所有子宮頸癌病毒株的6-7成。
這個疫苗的發展從找到HPV 病毒為主要致癌機轉(99.7%),到發展出全球疫苗造福所有女性,是醫學研究的一大勝利。這張圖表勝過千言萬語,值得與大家分享。
註)
4 價疫苗比2價多兩型可以多預防病毒疣。
9 價疫苗除了以上還包括一些在亞洲與台灣流行的其他致癌株 可以達到近9成涵蓋率。
圖中子宮頸癌好發的年齡開始在23歲其實是因爲瑞典在這個年齡開始健保抹片檢查但以直線回推確實22歲之前子宮頸癌發生率非常小。
在這份研究裡,50萬位接種疫苗的女性裡仍有19位女性在追蹤過程不幸得到子宮頸癌,所以疫苗不是100%的預防。
目前我國疫苗接種情況良好,國一即可施打2價的公費疫苗,但仍建議30歲以上女性或有性行為三年以上年輕女性,定期做子宮頸抹片檢查。
#HPV疫苗真的有效
#6分鐘仍會護一生
The human papilloma virus (HPV) vaccine for prevention of cervical cancer has been around for more than a decade. The result of a 12-year follow-up study on a 1.6 million Swedish cohort was published last week in the New England Journal of Medicine. The graph below speaks more than a thousand words about the importance of HPV vaccination for women.
The cumulative incidence of cervical cancer in women who received vaccination before the age of 17 is approximately half of those who never received vaccination. After adjustment of covariate, the incidence ratio is about 0.37. This result does not surprise me because the HPV vaccine covers serotype 16 and 18 which cause up to 70% of all cervical cancer.
We have come a long way since the discovery of the association between HPV and cervical cancer as early as the 60's to the invention of HPV vaccine in the early 2000's. This fabulous result of cancer reduction from a vaccination program in a large scale population is an example of medical innovation and collaboration. I would not be surprised if another Nobel Laureate is crowned on a scientist working in this area in the near future (such as the distinguished Australian, Professor Ian Frazer. )
p.s.
the quadrivalent vaccine is better than the double-valent because it also covers some serotypes that cause genital warts.
the 9-valent vaccine also includes carcinogenic serotypes that are common in Asia.
the incidence of cervical cancer begins to rise at age of 23, this reflects the starting age of pap smear program in Sweden. However, the incidence of cervical cancer before age of 23 is ver low.
there are still 19 women who developed cervical cancer out of the half-million women who received HPV vaccination, so vaccination does not offer 100% protection
There is a high rate of vaccination uptake in Taiwan. However, it is still important to do pap smear regularly for women over 30 or those who are sexually active for more than 3 years.
同時也有13部Youtube影片,追蹤數超過12萬的網紅一二三渡辺,也在其Youtube影片中提到,おじゅくんの愛車 はり君すごいよ、 マッハマスター http://www.sakai-tcb.or.jp/feature/f08.html http://www.walkerplus.com/sakai/sp/jyuzu/ Large-scale automatic oper...
ratio scale 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
ข่าวประชาสัมพันธ์..
กองทุนบัวหลวง จับมือกลุ่มบริษัท เค. อี. พร้อมขายกองทรัสต์ ‘BKER’
ชูจุดเด่นผสานความเชี่ยวชาญบริหารกองร่วมกัน เพิ่มมูลค่าธุรกิจ
ประเมินผลตอบแทนปีแรก 7.29% ที่ราคาเสนอขาย 10.00 บาท/หน่วย
กองทุนบัวหลวง และ เค. อี. รีท แมเนจเมนท์ พร้อมขายทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ บัวหลวง เค.อี.รีเทล (BKER: บี เค อี อาร์) เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนจากโอกาสเติบโตของศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ที่มีศักยภาพ โดยเสนอขายหน่วยทรัสต์ให้ประชาชนทั่วไป (PO) BKER ในวันที่ 18-22 พ.ย. และ 25 พ.ย. 2562 ที่ราคา 10.00 บาทต่อหน่วย และเสนอขายให้ผู้ถือหน่วย CRYSTAL ที่มีสิทธิจองซื้อในวันที่ 18-20 พ.ย. 2562 ทั้งนี้ ประเมินว่า ผลตอบแทนปีแรกเป็น 7.29% (เทียบกับราคาเสนอขายสูงสุดที่ 10.00 บาทต่อหน่วย) โดยมั่นใจว่า สามารถใช้จุดแข็งจากการมีผู้จัดการกองทรัสต์บริหารร่วม 2 รายในการนำความเชี่ยวชาญด้านจัดการกองทุนและบริหารศูนย์การค้ามาร่วมกันสร้างมูลค่าเพิ่มธุรกิจศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์เมืองไทย และเดินหน้าหาโอกาสเข้าลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพเพิ่มในอนาคต
นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ บัวหลวง เค.อี. รีเทล (BKER: บี เค อี อาร์) เป็นกองรีเทล รีท ซึ่งจะก่อตั้งขึ้นจากการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์คริสตัล รีเทล โกรท (CRYSTAL) ที่ปัจจุบันลงทุนในบางส่วนของศูนย์การค้าโครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) และโครงการเดอะ คริสตัล (เอกมัย-รามอินทรา) เป็นกองทรัสต์ โดยการออกหน่วยทรัสต์ BKER เพื่อแลกเปลี่ยนกับทรัพย์สินและภาระของ CRYSTAL ที่อัตราสับเปลี่ยนหน่วย (swap ratio) ที่ 1 หน่วยลงทุนของ CRYSTAL ต่อ 1 หน่วยทรัสต์ของ BKER โดยกองทุนบัวหลวง และ เค. อี. รีท แมเนจเมนท์ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ร่วมของกองทรัสต์ BKER พร้อมระดมทุนเพิ่มเติมอีกประมาณ 7,420 ล้านบาท จากการเสนอขายหน่วยทรัสต์ ไม่เกิน 5,066 ล้านบาท และจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ไม่เกิน 2,875 ล้านบาท เพื่อเข้าลงทุนในทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1
สำหรับการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม จะเสนอขายต่อผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์คริสตัล รีเทล โกรท (CRYSTAL) ที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยที่มีสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์ (Record Date) (ผู้ถือหน่วย CRYSTAL ที่มีสิทธิจองซื้อ) ในวันที่ 7 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ด้วยอัตรา 1.53 หน่วยลงทุนของ CRYSTAL ต่อสิทธิจองซื้อ 1หน่วยทรัสต์ใหม่ของ BKER โดยสามารถใช้สิทธิได้ในวันที่ 18-20 พ.ย. 2562 และจะเสนอขายหน่วยทรัสต์ให้แก่ประชาชนทั่วไป (PO) ระหว่างวันที่ 18-22 พ.ย. 2562 และ 25 พ.ย. 2562 รวมทั้งเสนอขายต่อบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับผู้จัดการกองทรัสต์ และ/หรือเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุน โดยเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จะเข้าลงทุนในหน่วยทรัสต์ BKER ไม่น้อยกว่า 10% ของมูลค่าทรัพย์สินแต่ละโครงการ และถือครองหน่วยไม่ต่ำกว่า 3 ปี เพื่อให้ความมั่นใจและร่วมรับผลตอบแทนกับผู้ลงทุน
ภายหลังระดมทุน จะนำเงินไปลงทุนครั้งแรกในสิทธิการเช่าระยะยาวของศูนย์การค้าแบบไลฟ์สไตล์ 10 โครงการ มีอายุของสิทธิการเช่าเฉลี่ยรวมทุกโครงการประมาณ 28.3 ปี ประกอบด้วย สินทรัพย์จากการแปลงสภาพของกองทุน CRYSTAL เดิม และส่วนที่ลงทุนเพิ่มเติม ได้แก่
1) โครงการ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) มีทั้งส่วนที่รับโอนจาก CRYSTAL และลงทุนเพิ่มเติม
2) โครงการ เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา (TC) มีทั้งส่วนที่รับโอนจาก CRYSTAL และลงทุนเพิ่มเติม
3) โครงการ เดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ (TCR)
4) โครงการ อมอรินี่ รามอินทรา (Amorini)
5) โครงการ แอมพาร์ค จุฬา (I’m Park)
6) โครงการ เพลินนารี่ มอลล์ วัชรพล (Plearnary)
7) โครงการ สัมมากร เพลส รามคำแหง (ฝั่งตะวันตก) (SPRM)
8) โครงการ สัมมากร เพลส รังสิต (SPRS)
9) โครงการ สัมมากร เพลส ราชพฤกษ์ (SPRP)
10) โครงการ เดอะ ซีน ทาวน์ อิน ทาวน์ (The Scene)
นายพรชลิต กล่าวว่า ในปีแรกประเมินว่า BKER จะให้อัตราผลตอบแทน 0.7291 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 7.29% จากราคาเสนอขายสูงสุดที่ 10.00 บาทต่อหน่วย โดยอ้างอิงประมาณการกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว จากงบกำไรขาดทุนที่คาดคะเนตามสมมติฐานสำหรับงวด 12 เดือนแรก และในอนาคต กองทรัสต์ BKER จะมองหาการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการใหม่ๆ อีก ด้วยเหตุนี้ BKER จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตและหาผลตอบแทนได้สม่ำเสมอ
“การที่กองทุนบัวหลวง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญการบริหารกองทรัสต์ ร่วมมือกับบริษัท เค.อี.รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัท เค.อี. ที่ชำนาญด้านพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ ทั้งประเภทที่อยู่อาศัยและโครงการศูนย์การค้า เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ร่วมกัน จะช่วยให้บริหารโครงการทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นประโยชน์กับผู้ถือหน่วยทรัสต์ในระยะยาว ทั้งยังสนับสนุนให้เกิดการพัฒนากองทรัสต์ในประเทศไทยให้เติบโตทัดเทียมกับกองทรัสต์ในระดับสากลด้วย” นายพรชลิต กล่าว
นายกวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เค.อี. กล่าวว่า กลุ่มบริษัท เค.อี. มีประสบการณ์พัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอมมูนิตี้ มอลล์ มาเป็นระยะเวลากว่า 12 ปี มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกองทุนบัวหลวงจัดตั้งกองทรัสต์ BKER รวมทั้งให้บริษัทย่อย เค. อี. รีท แมเนจเมนท์ เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ร่วมกับกองทุนบัวหลวง
กลุ่มบริษัท เค.อี. เชื่อว่า BKER จะช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตอย่างมั่นคงให้ธุรกิจศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์โดยรวม ผ่านการใช้จุดแข็งจากการบริหารหลายโครงการ ผสานผลประโยชน์ (Synergy) เพิ่มอำนาจต่อรอง และประหยัดจากขนาด (Economy of Scale) ด้วยการบริหารแบบรวมศูนย์ มีแนวทางเชิงสร้างสรรค์ในการพัฒนารายได้ค่าเช่าให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในทุกโครงการ ซึ่งจะมาตอบโจทย์เจ้าของโครงการอื่นๆ ในพื้นที่ศักยภาพที่มองหาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มโอกาสเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานได้
“ถึงแม้ กระแสการช้อปปิ้งออนไลน์จะมาแรงมากขึ้น แต่ธุรกิจศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ยังเติบโตได้ดีและมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องไปอีก เพราะจุดแข็งของศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์คือ เป็นพื้นที่มอบประสบการณ์ที่ผู้บริโภคยังต้องการเดินทางมาใช้บริการ เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม สถาบันกวดวิชา คลินิกเสริมความงาม ฟิตเนส ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ครบครัน เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว และเป็นจุดนัดพบของคนทุกเพศ ทุกวัย” นายกวินทร์ กล่าว
จุดเด่นของศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ 10 โครงการที่ BKER จะเข้าไปบริหารนั้น คือ อัตราการเช่าเฉลี่ยรวมทุกโครงการนั้นอยู่สูงกว่า 90% เปิดดำเนินงานมาแล้วมากกว่า 5-10 ปี ตั้งอยู่ในย่านที่ประชากรหนาแน่น เช่น เป็นย่านหมู่บ้านจัดสรร โรงเรียน สำนักงาน หรือคอนโดมิเนียม ทั้งยังอยู่บนถนนสายหลัก หรือบริเวณแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ที่จะดำเนินการก่อสร้างในอนาคต ขณะที่ภายในโครงการมีร้านค้าและบริการ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ครบวงจร
นายกวินทร์ กล่าวว่า ภายหลังเข้าบริหารโครงการต่างๆ ที่กองทรัสต์เข้าลงทุนแล้ว กลุ่มบริษัท เค.อี. ได้มีการนำระบบซอฟต์แวร์ อีอาร์พี ยาร์ดี (Yardi) จากสหรัฐอเมริกา มาพัฒนาพอร์ตโฟลิโอด้านการบริหารร้านค้าและศูนย์การค้า พร้อมนำระบบแอปพลิเคชันสำหรับสะสมแต้มที่ทันสมัยที่สุดมามอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า และเพื่อจูงใจให้เข้ามาใช้บริการ ขณะเดียวกันจะสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทเทคโนโลยีหลายด้าน เช่น อี-คอมเมิร์ซ ส่งอาหาร โลจิสติกส์ การเดินทาง และสุขภาพ เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วย CRYSTAL ที่มีสิทธิจองซื้อ สามารถตรวจสอบสิทธิได้จากใบรับรองสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์ซึ่งออกโดยนายทะเบียนของ CRYSTAL และสามารถมาใช้สิทธิได้ระหว่างวันที่ 18-20 พ.ย. 2562 โดยจะชำระค่าจองซื้อที่ราคาเสนอขายหน่วยทรัสต์สูงสุดที่ 10.00 บาท ก่อนในวันใช้สิทธิ) ซึ่งจะใช้สิทธิจองซื้อได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขา ยกเว้นสาขาไมโคร
ส่วนนักลงทุนทั่วไป สามารถจองซื้อได้ ในวันที่ 18-22 พ.ย. 2562 และ 25 พ.ย. 2562 (ในเวลาทำการของสาขาที่เปิดรับจองซื้อ) ก่อนเวลา 15.30 น. ในราคาเสนอขาย 10.00 บาทต่อหน่วย (นักลงทุนทั่วไปจะชำระราคาเสนอขายหน่วยทรัสต์สูงสุดที่ 10.00 บาทก่อน ในวันจองซื้อ) โดยจำนวนจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 หน่วย และทวีคูณ 100 หน่วย วิธีการจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดจำหน่าย และจองซื้อได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขา ยกเว้นสาขาไมโคร และ บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง
ผู้จองซื้อสามารถตรวจสอบผลการจัดสรรได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ สำนักงานใหญ่และแต่ละสาขาของผู้จัดการการจัดจำหน่าย ยกเว้นสาขาไมโคร (ในวันทำการเท่านั้น)
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ratio scale 在 Lee388 Hi Fi 發燒專頁 Facebook 的精選貼文
Alumine Five of Stenheim
Stenheim is a relatively late entrant to the high-end speaker field. It was founded in 2010 by a collective of mainly ex-Goldmund engineers, and its products have inherited an unmistakable aesthetic and, to a lesser extent, sonic DNA, although it was a significantly evolved character that was to emerge in the shape of the debut model, the compact, two-way Alumine Two. It’s a developmental divergence that has continued and, if anything, accelerated with the emergence of each subsequent product. The latest Stenheim speakers, developed under the auspices of new owner Jean-Pascal Panchard, definitely have their own, unambiguous identity, both visually and musically.
I’ve been seriously looking forward to the arrival of the Alumine Five. Previous experience with the brand has included impressive exposure to the various versions of the enormous and enormously impressive Ultime Reference models, as well as a brief but highly rewarding flirtation with the stand-mounted Alumine Two in my own system. The possibility of combining the sense of musical articulation, enthusiasm and communication I experienced from the Alumine Two, with more than a hint of the clarity, scale and authority so effortlessly delivered by the Reference models, all in a package that, if not exactly affordable, at least isn’t completely out of the question, makes the Alumine Five a distinctly interesting proposition.
Yet, confronted with the Alumine Five in the flesh, there’s little to hint at the extraordinary promise lurking within. Resolutely rectangular in true Stenheim style, the Five’s aluminum cabinet, with its plate-to-plate construction, stands just 48" tall, 15" deep and presents a broad 11" face to the world, dimensions based on golden-ratio numbers. The front baffle is split by a physical break between the upper midrange-treble enclosure and the lower bass cabinet, independently ported by the laminated full-width slots above and below, a physical separation that is mirrored by the contrasting inlaid strips that help visually break up the one-piece side panels. The regular lines, smooth surfaces, flawless matte finish and lack of visible fixings could easily result in a bland, almost featureless appearance. But those trim strips and the offset midrange and treble drivers do just enough to give the Five a subtle hint of individual style without resorting to the sort of gauche and ostentatious flourishes that so often pass as design.
The result is a refreshingly clean, classical appearance that will blend seamlessly with a range of different decors. Despite the lack of grilles (although they are available as an option, does anybody really spend this kind of money on a speaker and then compromise the performance by fitting covers?), the beautifully profiled baffle and absence of visible fixings makes for a genuinely neat, finished appearance that matches the superb surface finish on the cabinet. The end result just looks right, in a way that makes you wonder why you’d want grilles anyway.
The first hint of its potent sonic capabilities comes when you try to pick it up. Each comparatively compact cabinet tips the scales at 220 pounds. That’s a grunt-inducing, two-man lift. Now, take a look at the figures for bandwidth and sensitivity, and an in-room response that digs down as far as 28Hz combined with 94dB efficiency should raise your eyebrows, especially given the compact cabinet dimensions. Which brings us to the first experiential disconnect: boxes this size shouldn’t produce this much bass or do it so easily. Nor should they weigh so much -- although therein lies the clue to this particular conundrum. When it comes to bass extension, it’s not the external dimensions of the box that matter, but its internal volume. Just like the Crystal Cable Minissimo, a thin-wall cabinet makes for a much larger internal volume than the external dimensions might suggest -- especially if we apply the expectations of more conventional wood-based construction. Throw in the sheer weight of the aluminum panels and the combination of mass and physical dimensions would subconsciously suggest massively thick walls -- and a correspondingly limited internal volume. Instead, what we have here is a deceptively large volume, which, combined with the inertia of the heavy cabinet and the mechanical stability provided by the material, makes for an effective mechanical reference for driver movement, meaning that more of the energy your amplifier sticks into the speaker comes out as sound and (at least in theory) it will be more precisely rendered.
So far, not very much that’s new. It’s not like Stenheim (or Magico, or YG Acoustics) has exclusivity when it comes to aluminum cabinets. But what does make Stenheim different is the unique material they use in damping their cabinet panels. Of course, the separate enclosures and the internal baffles they demand make for an inherently heavily braced structure, but look inside a dismantled Alumine Five and you’ll find strategically placed pads stuck to the cabinet walls. These three-layer, self-adhesive pads combine a heavy damping layer (adjacent to the cabinet wall itself) with added foam and impervious layers, allowing the low-volume pads to influence both the mechanical behavior of the cabinet itself and the enclosed volume. It’s an interesting solution because it manages to overcome the weakness so often audible in simple, braced aluminum cabinets (the all-too-recognizable resonant signature of the material itself) while maximizing the benefits (large volume and rigidity) by obviating the need to stuff the internal space full of wadding or long-haired wool. In fact, if the Stenheims were stood behind a sonically transparent curtain, you’d be hard-pressed to recognize the music as emanating from an aluminum cabinet at all. The absence of the bleached, grainy or lean colorations, the lack of sterile, mechanistic reproduction, is one big half of the Stenheim story, living, breathing proof that it’s not what you use but how you use it that counts.
The other half is down to the drive units, and after the cabinets, those come as quite a surprise, both the lineup and the chosen materials. In stark contrast to the use of the latest, precision CNC techniques, complex damping pads and finishing options, the Alumine Five's drivers are as traditional as they come, with a coated silk-dome tweeter and pulp or laminated paper midrange and bass drivers. The cone drivers use textile double-roll surrounds and massive magnets more normally found in pro-audio applications, and while Stenheim doesn’t build its own drivers, the company works closely with its chosen supplier (PHL, definitely not one of the usual suspects) to specify the electrical parameters, mechanical characteristics and precise details of the surface coating.
The use of such lightweight cone materials and large motors aids the system efficiency, while a hybrid second-order/Linkwitz-Riley crossover, the result of extended listening and evolution, ensures phase coherence and excellent out-of-band attenuation and makes for easy non-reactive load characteristics, despite the three-way topology. The other aspect of the driver lineup that might be considered slightly unusual is the use of a large-diameter (6 1/2") midrange unit -- although less so since Vandersteen’s patent on the approach lapsed some years ago, resulting in a rash of companies suddenly exploring the possibilities of the topology.
Perhaps more important, in the case of the Alumine Five, it means that you are getting the tweeter and midrange drivers from the Ultime Reference series speakers, teamed here with a pair of 10" woofers but without the benefit of a super tweeter. Even so, Stenheim quotes bandwidth out to 35kHz, which should suffice for most purposes. The review speakers arrived with the optional second set of terminals installed, allowing for biwiring or, more significantly, biamping, an upgrade opportunity that makes this an option you should take. If, in the meantime, you are single-wiring the speakers, make sure you factor in a set of jumpers that match your speaker cables: the Alumine Five's overall sense of musical coherence makes the benefits especially obvious. Likewise, good wiring practice is essential, both in terms of cable dressing and diagonal connection (red to midrange/treble, black to bass, with jumpers arranged accordingly).
Aside from the speaker's substantial weight, the parallel sides and flat surfaces of the four-square cabinet make setting up the Fives an absolute joy. Precise, repeatable, angular adjustments are easily achieved, while changes in attitude are just as straightforward, helped by the beautifully profiled stainless-steel spiked feet and deeply cupped footers. Both the cones and their locking rings have nice, large ports to take the supplied pry bars, but it’s worth greasing the threads before installation. One other thing to watch out for: the spikes are seriously (refreshingly) sharp -- sharp enough to penetrate a thick rug and score the floor below, so be careful where you stand the speakers once the feet are installed. Final positioning disposed the speakers on a broad front with minimal toe-in. When it came to dialing in their considerable musical energy, the most critical factor proved to be height off the ground, with tiny adjustments of the spikes making profound differences to the weight and pace of the presentation. Likewise, equal weighting of the four spikes was crucial to a proper sense of grounded weight and dynamic authority.
........................................................
Price: $60,000 per pair.
Warranty: Five years parts and labor.
(Source: The Audio Beat)
ratio scale 在 一二三渡辺 Youtube 的最讚貼文
おじゅくんの愛車
はり君すごいよ、
マッハマスター
http://www.sakai-tcb.or.jp/feature/f08.html
http://www.walkerplus.com/sakai/sp/jyuzu/
Large-scale automatic operation two-wheeled vehicle for overseas export that Kawasaki Heavy Industries developed and announced in 2000 Kawasaki ninja ZX-12R (It is an are in Zettoeccs).
Outline
One at development this time developed to seize seat at the velocity of the world from sea bass's GSX1300R falcon known as car at the velocity of the world at which 300 km/h exaggerated is achieved in state of normality on the market. The engine that demonstrates four newly developed four water-cooled stroke parallel cylinders 1199cc, max power 181ps (It is 190ps in the ram air operating state), and max torque 13.8kgm is installed in the backbone frame that lays out the air cleaner in the main pipe. The Futoshi size of 200/50R17 that became a car the first on the market was very adopted in a rear tire. Three models of "CBR1100XX super-blackbird" of HONDA that was able to say "ZX-12R", "Falcon", and the pioneer at 300 km/h cut a new genre "Mega-sports" open.
On the face, it is ZX-9R. (2000?2003 model)ZX-6R(2000?2002 model)The rectification wing is a feature under under a caul like the tail of the equipped aircraft though looked like.
Maximum speed seemed to record 308 km/h, and for a further, maximum speed competition with the falcon to break out. However, it came to be equipped with the speed limiter because of 300 km/h self-imposed restraint that had started in 2001 in European market.
An initial type executes a modification that is greater than the model in 2002 around the engine, the exterior, the chassis, and the gear ratio, etc. though it is this car that an advanced technique was demanded contrasting it with the falcon of the criticized rival by the rider when it is handled the engine with a little difficult treatment and to handle it nervous easily. It improves to the engine characteristic and handling that became a neutral, and the setting that can enjoy the winding running on the pass road etc. without reserve. The radial mount brake caliper of the ZX-10R transfer who is the super-sports model of this company is adopted from the model in 2004.
The engine installed in ZX-12R can buy the unit for about 600,000 yen by making it to Japanese yen. Serious damage can be repaired even when receiving it the entire engine therefore. The thing installed in other Ninja series because an engine mount method different from a conventional Ninja series is adopted cannot be done. The sports car equipped with the engine for ZX -12R is sold in foreign countries. PWC that adopts this engine from Kawasaki Heavy Industries, Ltd. is put on the market.
The seat of the flagship was transferred to ZZR1400 that was the succession model, and it became a production end in 2006 though it was this car that had been bearing the flagship of Kawasaki.
ratio scale 在 一二三渡辺 Youtube 的最佳解答
06 Suzuki GSX-R1000 2006 高町大佐@とら破産
https://youtu.be/-wzQXWq0jnQ
うちの友人の高町大佐の一番の愛車
もう一台はVTR250,探してくださいね、
☆ライダーズカフェレストランMACHⅢ
587-0051
大阪府堺市美原区北余部469-6
TEL&FAX072-361ー3171
http://www.kurocco.com/cgi-bin/mach3/
GSX-R1000 is a motorcycle of the super-sports type that the sea bass is manufacturing. It is located as a flagship in the GSX-R series, and it is being produced for foreign countries now.
Outline
Edit 2001 type
2001 model
2001 model
The displacement improved to 987.8cc, the engine of type GSX-R750 was installed in the body that strengthened some frames and the swing arms to make it correspond to the regulation of the race played with 1000cc in 2000, and it appeared in 2001.
There was not so much room in the distance between cylinders because it was an engine that originally optimized to 750cc not to put the displacement improvement on the mind and had been developed, and, at first, this was able to expand the boa from 72 only to 1mm73mm and cylinders in 2001 when making it to 1000cc though this went back to the crankcase engine of type GSX-R750 divided into three the root of the engine of GSX-R1000 in 1996. The engine was newly marketed from one with 987.8cc slightly not worth full-scale 1000cc in assuming the cylinder head to be type GSX-R750 in 2000 and common because a serious cost and time hung in newly built, and extending the stroke from 46 to 59mm and as much as 13mm. As a result, it connected with the result of obtaining the output characteristic to treat this easily very much though the boa stroke ratio became the long stroke type engine of the exception as an engine of 0.808 and the high power super-sports car.
The difference of the power that was able to be said that it was a class difference from rival's CBR929RR・YZF-R1 was shown, it put, and it took an active part greatly in a circuit all over the world though there were Sharp of cornering and an evaluation of lacking, too, when appearing. Especially, it was overwhelming combat power like entering in the production race with a narrow range of remodeling the state of the one make-up. The other companies comes to send the improvement model in 2002.
Edit 2003 type
The first restyling was done in 2003. The frame was newly designed, 2kg was lightened, the reception desk brake caliper of a radial mount was adopted, and LED was adopted in the taillight.
Restyling was received in 2005, and a further output increase in 1000cc race regulation was assumed to be a main purpose, and the power weight ratio achieved equaled 1kg/ps from 2005 type to the end with the engine that generated 178ps and 166kg F1 the total emission though it was on the catalog about one cylinder of the boa assumption as 73.4mm expanded in addition by 0.4mm ..998.6cc of full-scale almost.. improvement waiting for a balanced body etc. and the aspect light. It is the one that it compares so that the centralization of the mass may adopt aiming at (The heavy load of muffler can be brought close from a central improvement to center of gravity) and the central improvement muffler and lightening is attempted that adopts the right putting out muffler that R1000 is orthodox though the super-sports model of the other companies adopts the central improvement muffler. ..superbike world championship.. sea bass in the type model in this 2005 enters the war as a works, and has succeeded in the deprivation of the title that is German Ba of Ducati (13 times of the manufacturer title and 11 times of the rider title of 18 times in the past).
2007 type
To receive the third restyling as a series in 2007, and to correspond to automobile exhaust gas regulations of EU, the both sides putting out muffler is adopted. The central improvement muffler was not adopted this time. The engine accomplishes further evolution as it becomes 185ps, and the engine characteristic can be switched to three modes according to the scene though increases from 172kg and predecessors by 6kg since weight adopts the both sides putting out muffler weight.
The model stood in the top of the commendation stand of the endurance road racing of the first time as GSX-R series by the riding of irregular SUZUKI with JOMO 34 Kaga of Yoshi Yamatsshin/Tagaya Akiyoshi including 750cc regulation age in this 2007 July 29, 2007,
ratio scale 在 OverclockZoneTV Youtube 的精選貼文
วันนี้เราอยู่กับ Monitor หรือว่าจอแสดงผลสำหรับคอมพิวเตอร์จากแบรนด์ ASUS ในตระกูล Designo Series รุ่นนี้เน้นการออกแบบที่หรูหรา Premium มาพร้อมเทคโนโลยี Eye-Care สำหรับผู้ที่ต้องใช้งานหน้าจอเป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะเป็นช่างภาพที่ต้องมาดูภาพ Post-Process หรือว่าผู้ที่ต้องการทำงานเอกสารหรือเล่นหุ้นที่ต้องนั่งมองจอคอมตลอดเวลา ตัวนี้มีการตัดแสงสีฟ้าทำให้ไม่เสียสายตา .. การออกแบบนั้นก็จะมีความ Curve ที่ 1800R ขาตั้งด้านล่างสามารถทำเป็น Wireless Charge ได้ และเสียงที่ออกมาจากตัวจอนั้นดีเกินตัวจริงๆ .. อื่นๆมีอะไรบ้างต้องลองไปดูกันครับ
รายละเอียดโดยรวม :
ขนาด : 34"
Scale : 21:9
Resolution : 3440x1440 (2K Wide)
Refresh Rate : 100Hz - Adaptive Sync
Panel Type : VA
Contrast Ratio : 3000:1
Viewing Angle : 178องศา
Curved : 1800R
ลำโพง : Harman / Kardon 8w x 2
ราคา : 42,xxx บาท