【新零售 ∙ 邁向omni-channel銷售,按此:https://bit.ly/2FuRaJu】新冠肺炎衝擊全球零售業,但同一時間加速零售業整合實體業務與網上業務,向omni-channel銷售進發。Omni-channel銷售提倡整合線上線下(O2O),塑造不同管道之間的無間斷購物體驗。亞洲零售業增長潛力無限,omni-channel銷售因此擁有龐大的發展空間。今屆的亞洲零售論壇暨博覽會(Retail Asia Conference & Expo)是2020年唯一零售商貿展,帶來一系列串連電商、實體賣場和倉儲物流的零售科技,而大會的焦點活動亞洲零售論壇及亞洲配送論壇亦邀請了普華永道、香港貨品編碼協會、周大福珠寶和Carousell香港分公司等本地及亞洲商界代表,分析本地及亞洲零售業及供應鏈的最新狀況,交流行內轉型至新零售的例子。
博覽會同場亦會舉行Build4Asia,展出亞洲建築、電氣工程和防火保安的科技,參加者可趁機會研究完善實體店的環境,真正結合線上線下,全面實踐omni-channel銷售。
由即日起至2020年10月30日,業內人士可按此 https://bit.ly/2FuRaJu 作網上預先登記,即可獲亞洲零售論壇暨博覽會及Build4Asia的免費 3 天展覽會入場證,省卻在現場排隊辦理入場證的時間,優先預覽展覽會及論壇之最新動態,以及參與免費商貿配對服務!
活動:亞洲零售論壇暨博覽會(Retail Asia Conference & Expo)(同場舉辦Build4Asia)
主辦機構:Informa Markets
日期及時間:2020年11月11至13日,上午10時30分至下午6時30分(11及12日),上午10時30分至下午5時(13日)
地點:香港會議展覽中心展覽廳1C
*只限業內人士進場
#亞洲零售論壇暨博覽會 #retailasiaconferenceexpo #newretail #omnichannel #全渠道 #digitaltransformation #數碼轉型 #build4asia #hkcec #informamarkets #race2020 #b4a2020
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「omni-channel retail」的推薦目錄:
- 關於omni-channel retail 在 BusinessFocus Facebook 的最佳解答
- 關於omni-channel retail 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於omni-channel retail 在 Mao-Investor Facebook 的最佳貼文
- 關於omni-channel retail 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳解答
- 關於omni-channel retail 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
- 關於omni-channel retail 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
- 關於omni-channel retail 在 #45 - Omni-channel retailing is here to stay - YouTube 的評價
omni-channel retail 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
ธุรกิจเครือเซ็นทรัลเป็นอย่างไรในช่วง COVID-19
“ไวรัสครั้งนี้เป็นศัตรูของทุกธุรกิจ ไม่ว่าบริษัทคุณจะใหญ่แค่ไหนก็เจ๊งได้” เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาลงทุนแมนมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณ ญนน์ โภคทรัพย์ CEO ของ Central Retail Corporation หรือ CRC
CRC เพิ่งจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย
ระดมทุนไปได้กว่า 70,000 ล้านบาทซึ่งถือเป็นบริษัทที่ระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้มากสุดในประเทศไทย
แต่หลังจากนั้นไม่นาน สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19
ก็ได้เปลี่ยนโลกของธุรกิจค้าปลีกไปเกือบทั้งใบ
และ CRC ก็อยู่ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เช่นกัน..
แล้วตอนนี้ สถานการณ์ของ CRC เป็นอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
CRC ประกอบไปด้วย
1. ธุรกิจกลุ่ม Food เช่น ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท
2. ธุรกิจกลุ่ม Non-Food เช่น ห้างเซ็นทรัล ห้างโรบินสัน ซูเปอร์สปอร์ต เพาเวอร์บาย ไทวัสดุ
จากตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจกลุ่ม Food เพียงกลุ่มเดียวที่ยังพอดำเนินกิจการได้
ในขณะที่ รายได้จากธุรกิจ Non-Food รายได้จะหายไปอย่างมีนัยสำคัญ
จากภาพรวมดังกล่าว คุณญนน์ระบุว่าปัจจุบันธุรกิจ Non-Food สามารถเปิดดำเนินการได้ไม่ถึง 10%
ตีเป็นตัวเลขกลมๆ ได้ว่า
หากสภาวะปกติธุรกิจกลุ่มนี้รายได้ 100 บาท
ยอดขายกลุ่มนี้ก็น่าจะเหลือเพียง 10 บาท ลดตามสัดส่วนสาขาที่เปิดดำเนินการได้
แต่เอาเข้าจริง ธุรกิจกลุ่มนี้สามารถทำรายได้ 30 บาท หรือ ยอดขายต่อสาขาที่ดำเนินการเพิ่มเป็น 3 เท่า
เคล็ดลับของเรื่องนี้ เป็นเพราะ ลูกค้าสั่งซื้อออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาช่องทาง Omni Channel ของทางบริษัทในปีที่ผ่านมา
และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ Product Mix ที่เปลี่ยนไป
จากเดิมที่ในกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต
สินค้าประเภท “ของสด” มีสัดส่วนไม่ถึง 5% ของยอดขาย
ในตอนนี้ ของสด โตขึ้นเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของทั้งหมด
อีกตัวอย่างที่เกิดขึ้นก็คือ ผู้หญิงทำงานที่อยู่บ้านมากขึ้น หันมาสนใจในการทำอาหาร สินค้าประเภท Ready to Cook ก็เติบโตขึ้น มาแทน Ready to Eat และแบรนด์ไทยก็ได้รับความนิยมมากขึ้นไม่แพ้แบรนด์ต่างประเทศ
แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมัน Painful, Expensive แต่ในขณะเดียวกันก็ Very Cheap
Painful คือ เหตุการณ์นี้สร้างความเจ็บปวดให้แก่ทุกคน
Expensive คือ เหตุการณ์นี้มีความเสียหายมหาศาล
แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถทดลองธุรกิจใหม่ๆ ได้ด้วยต้นทุนถูกมาก (Very Cheap) เพราะผู้บริโภคพร้อมที่จะเข้าร่วมการทดลองในเหตุการณ์นี้
นอกจากธุรกิจในประเทศแล้ว
ผลกระทบถัดมาก็คือ ธุรกิจที่ต่างประเทศ
CRC ทำธุรกิจอยู่ใน 3 ประเทศหลักๆ แบ่งตามโครงสร้างรายได้
ประเทศไทย 74%
ประเทศเวียดนาม 18%
และประเทศอิตาลี 7%
จะเห็นได้ว่าประเทศอิตาลีเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดมากที่สุดในโลก
นั่นทำให้รายได้ห้างค้าปลีกของ CRC ที่อิตาลีในช่วงนี้จะหายไป อย่างไรก็ตาม CRC ยังสามารถเจรจาขอลดค่าเช่าได้ และเรื่องค่าใช้จ่ายพนักงาน จะมีหน่วยงานรัฐบาลคอยสนับสนุน
คำถามต่อไปก็คือ
อะไรที่ CRC คิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญสุดในช่วงนี้?
คำตอบก็คือ การบริหารกระแสเงินสด และสภาพคล่อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ “Next Normal” ที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไร
หากเราบริหารสภาพคล่องได้ไม่ดี
ไม่ว่าธุรกิจเราจะเล็ก จะใหญ่ขนาดไหน
เราก็มีโอกาสล้มละลายได้เท่าๆ กันทั้งหมด
สำหรับบริษัท CRC ที่เพิ่งได้รับเงินระดมทุน 70,000 ล้านบาท แต่เดิมบริษัทมีจุดประสงค์นำเงินที่ได้ไปขยายกิจการ และชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบัน 18,536 - 29,665 ล้านบาท
จากเหตุการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น
ทำให้บริษัทต้องวางแผนการขยายกิจการใหม่
ในขณะที่การชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันยังเป็นไปตามแผนเดิม
นอกเหนือจากผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตัวธุรกิจแล้ว
คุณญนน์ยังได้ให้ความเห็นว่าโรคระบาดรอบนี้
จะเร่งให้เราเข้าสู่โลกดิจิทัลเร็วขึ้นแบบทวีคูณ
สิ่งที่ตามมาก็คือ พฤติกรรมบางอย่างของเราอาจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งคุณญนน์ ใช้คำว่า Next Normal
ยกตัวอย่างเช่น เรากำลังเข้าสู่สังคม Touchless หรือหลีกเลี่ยงที่จะจับต้องสิ่งของมากขึ้น
นั่นเท่ากับว่าบางธุรกิจที่เดิมทีอาศัยการจับต้องสิ่งของ
อาจจะต้องปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ
หรือ ยุคถัดไปของ Sharing Economy จะเป็นอย่างไร เราอาจต้องมาคิดใหม่กับเรื่องนี้ เพราะปัจจุบันหลายคนไม่อยากแชร์ ไม่อยากใช้ของคนอื่น และไม่อยากเอาของตัวเองให้คนอื่นใช้
หรือ โมเดล Subscription ที่น่าจะมีบทบาทมากขึ้น ในอนาคตเราอาจมีธุรกิจ ดิจิทัลปิ่นโต คือเราไม่ต้องมานั่งเลือกเมนูอาหาร กดสั่งครั้งต่อครั้ง แค่สมัครสมาชิก แล้วอาหารจะเสิร์ฟถึงบ้านเราทุกวันโดยอัตโนมัติ
หากใครปรับตัวได้ทันก็อาจจะกลับมาได้
หากใครปรับตัวไม่ทันก็อาจจะกลับมาได้ยาก
หรือแม้แต่บางธุรกิจที่กลับมาได้
ทุกอย่างก็อาจจะไม่ได้กลับมาเป็นอย่างที่เคย
ทั้งหมดนี้จึงเป็นอีกความท้าทายสำหรับทุกธุรกิจ
ที่กำลังจะเกิดขึ้นทันที หลังจากวิกฤติโรคระบาด
สิ่งที่ควรทำในวิกฤติรอบนี้ก็คือ “การมองไปยังอนาคต”
ไม่ต้องถามว่าตอนนี้เสียหายมากแค่ไหน
คำถามนี้ ทุกคนก็รู้คำตอบอยู่แล้วว่ามันเสียหายกันหมด ไม่ต้องไปกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
สิ่งสำคัญคือตอนนี้จะรอดไปได้อย่างไร บริหารเงินสดให้ดี
เตรียมพร้อมกับสิ่งที่จะเกิดในอนาคต
และเราต้องมีหลักยึด
ซึ่งการมี “Purpose” ขององค์กรสำคัญมาก
เราต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า
องค์กรของเรา มีอยู่บนโลกนี้ เพื่ออะไร..
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
omni-channel retail 在 Mao-Investor Facebook 的最佳貼文
Central Retail สตรองอย่างไรในยุค E-Commerce
ครั้งก่อน พี่เม่าเล่าธุรกิจโดยรวมของเซ็นทรัล รีเทล - CRC หุ้น IPO ค้าปลีกที่มีมูลค่าเสนอขายสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกไปแล้ว (อ่านได้ในลิงก์ https://www.facebook.com/maoinvestor/posts/2835211053205301)
แต่นักลงทุนหลายคนมีคำถามอยู่ในใจแหละว่า “อนาคตของธุรกิจค้าปลีก” จะยังสดใสเหมือนผลประกอบการในอดีตหรือไม่ ? เพราะตอนนี้มีผู้เล่น E-Commerce หน้าใหม่มาแรงหลายเจ้ามาแย่งมาร์เก็ตแชร์
วันนี้เลยขอเจาะลึกกลยุทธ์ของ CRC ในการทำธุรกิจในโลกออนไลน์โดยเฉพาะ
ต้องเล่าก่อนว่า CRC วางกลยุทธ์การทำธุรกิจในโลก New Retail แตกต่างจากผู้เล่นรายอื่น เพราะไม่ใช่แค่สร้าง Online Platform อย่างเดียว แต่ CRC สร้างมาตรฐานการช้อปปิ้งใหม่ที่ E-Commerce อื่นๆ เลียนแบบไม่ได้ คือการเป็น Omni-Channel Platform ที่ผสานการช้อปปิ้งของออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สมบูรณ์แบบ พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการแบบรู้ใจเหมือนมานั่งอยู่ใต้โซฟาที่บ้าน ผ่านการวิเคราะห์จากฐานข้อมูลสมาชิก Loyalty Program ที่มีมากกว่า 28.8 ล้านรายทั่วโลก
Omni-Channel Platform หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยเก็ทว่าการเชื่อมโยงออนไลน์-ออฟไลน์มันคืออะไร ยกตัวอย่างง่ายๆ จากประสบการณ์จริงของพี่เม่าเอง มีวันนึงไปเดินเซ็นทรัล เข้าร้าน Supersportsเจอรองเท้ากีฬาสวยถูกใจ เข้าไปลูบๆ คลำๆ แต่ยังลังเล พอกลับมาบ้าน นอนคิด ๆ ดูแล้ว ถ้าไม่ได้ใส่คงนอนตายตาไม่หลับ จึงไปกดสั่งซื้อทางเว็บ Supersports มั่นใจว่าเค้าขายของแท้ ไม่ต้องอ่านรีวิวร้านค้าหรือกลัวโดนโกงใดๆ วันต่อมารองเท้ามาส่งที่บ้าน ซึ่งถึงจะสั่งเบอร์ของเรา แต่ด้วยทรงรองเท้า พอใส่แล้วพบว่าหลวมไป เสาร์นั้นจึงนำไปส่งคืนที่เซ็นทรัลสาขาใกล้บ้าน แล้วซื้อเบอร์ใหม่มาแทน นอนตายตาหลับละทีนี้ ซึ่งประสบการณ์นี้จะหาจาก E-Commerce อื่นไม่ได้ เพราะคุณจะไม่ได้เห็นของจริงก่อน หรือถ้าสั่งออนไลน์แล้วพบว่าใส่ไม่ได้ ก็ต้องถ่อไปไปรษณีย์เพื่อส่งคืน หรือบางเจ้าอาจไม่รับคืนด้วยซ้ำ แต่สำหรับ CRC ทุกอย่างเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ มีบริการหลังการขาย ทำให้มั่นใจในการช้อปปิ้งมากขึ้นว่าเราจะได้ของที่เหมาะกับเราจริง ๆ ไม่ต้องกลัวเสียตังค์เปล่า
สรุปคือ Omni-Channel Platform ของ CRC คืออาวุธสำคัญที่จะทำให้สามารถครองใจลูกค้าได้ในยุคที่ผู้คนมองหาประสบการณ์ช้อปปิ้งที่เหนือกว่าใน 3 ด้าน ได้แก่
1. Convenience ความสะดวกสบายที่สามารถซื้อสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลาทั่วโลก
2. Quality of Choice การเข้าถึงตัวเลือกสินค้าที่มากกว่าและมั่นใจได้ในคุณภาพของแท้ และ
3. Superior Omni-Channel Service ด้วยบริการหลากหลายเชื่อมโยงทั้งหน้าร้านและออนไลน์ อาทิ Click & Collect, Click & Delivery, Reserve & Collect (บริการรับจองสินค้าทางออนไลน์และสามารถมาดูสินค้าที่หน้าร้านได้ภายในเวลาอันสั้น โดยสามารถรับสินค้าหรือสั่งให้ไปส่งสินค้าไปยังที่ที่ต้องการ), Chat & Shop, e-Ordering และ Express Delivery (บริการส่งของด่วนภายใน 1-2 ชั่วโมง) หรือแม้กระทั่งบริการหลังการขายแบบไร้กังวล
และที่ผ่านมา CRC ก็ทำได้ดีทีเดียวบนแพลตฟอร์มช้อปปิ้งแห่งอนาคตนี้ โดยยอดขายผ่าน Omni-Channel ของกลุ่มแฟชั่น กลุ่มฮาร์ดไลน์ และกลุ่มฟู้ดในประเทศไทยสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 95 ร้อยละ 70 และร้อยละ 45 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 ที่สำคัญคือเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถทำเงินได้จากทุกที่ ทุกเวลา
สำหรับนักลงทุนที่ยังกังวลกับอนาคตของ CRC ในยุคออนไลน์ อ่านจบแล้วก็อย่าเพิ่งเชื่อทั้งหมด อยากให้ลองไปใช้ Omni-Channel Platform ดูก่อน ว่าได้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากการช้อปปิ้งออนไลน์ที่อื่นจริงมั้ย แล้วมาติดตามการเปิดการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรกของ CRC ได้วันพรุ่งนี้ 20 กุมภาพันธ์ 2563 กัน 😊
omni-channel retail 在 #45 - Omni-channel retailing is here to stay - YouTube 的推薦與評價
The majority of brands still don't make omnichannel retailing a priority. Why?1) There is a lack of understanding in terms of what it ... ... <看更多>