เปิดประเด็นข้อเท็จจริง “จริงหรือไม่? อเมริกาและประเทศพันธมิตร ไม่อนุญาตให้คนจีนไปเรียนอีกต่อไป"
.
จริงๆมีคนถามมาตั้งแต่เมื่อวันก่อน และตอบไปในข้อความส่วนตัวแล้ว ถึงกรณีมีการโพสต์เนื้อหาบนโลกโซเชียลว่า "อเมริกา และหลายประเทศในยุโรปแบนนักศึกษาจีน" เลยอยากเขียนถึงเรื่องนี้สักหน่อย เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับทุกคนในพิจารณาข้อเท็จจริงครับ
.
1. อเมริกาไม่ได้ "ห้าม" หรือ "ไม่อนุญาต" นักศึกษาจีนเข้าไปเรียนที่อเมริกาอีกต่อไป เหมือนกับที่มีการเขียนโพสต์ออกมาและแชร์ไปเป็นจำนวนมากก่อนหน้านี้ ยังคงมีนักศึกษาจีนได้รับการตอบรับเพื่อเข้าเรียนในอเมริกา และเริ่มเดินทางไปยังอเมริกาแล้วโดยเฉพาะเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากอเมริกาผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดในการขอวีซ่าและเดินทางเข้าอเมริกา โดยอนุญาตให้นักเรียนจีนเดินทางเข้าอเมริกาได้ สำหรับโปรแกรมการศึกษาที่จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2021 เป็นต้นไป มีเงื่อนไข “เดินทางเข้าอเมริกาล่วงหน้า ไม่เกิน 30 วัน ของเวลาเปิดเทอม - เริ่มคอร์ส”
.
แต่ต้องยอมรับว่า "มีข้อจำกัดมากขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น จากวิกฤติโควิด ค่าตั๋วค่าเดินทางแพงขึ้น ตามข้อมูลจาก SCMP (South Morning China Post) สื่อเอกชนที่รายงานเรื่องจีน นำเสนอสกู๊ป "The high price Chinese students pay for university in the US during the Covid-19 pandemic" เผยแพร่ 21 สิงหาคม 2564 ระบุ "ค่าตั๋วเครื่องบินจากจีนเข้าอเมริกา ราคาสูงมากทีเดียว ตัวอย่างเช่น ตั๋วเที่ยวเดียวจากปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ ไปยังปลายทางมหานครนิวยอร์ก บอสตัน หรือเมืองใหญ่อีกหลายเมืองในอเมริกา ต้องจ่ายเงินสูงถึงราว 20,000 หยวน ( ประมาณ 1 แสนบาท)"
.
2. เรื่องของการเมือง มีผลกระทบจริงต่อการเรียนต่อในอเมริกาของนักเรียนนักศึกษาจีน แต่ยังสามารถไปได้อยู่ ไม่ใช่ ห้าม 100% ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น โดยในบทความของ SCMP (ที่อ้างอิงข้างบน) ยังระบุคำสัมภาษณ์นักศึกษาจีน
“ความสัมพันธ์ของสองประเทศยังคงมีปัญหา และกระแสชาตินิยมในจีนยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ การตัดสินใจเรียนต่อในอเมริกาไมใช่เรื่องง่ายเลย แต่หวังว่าจะคุ้มค่ากับเงินและอุปสรรคปัญหาต่างๆที่เจอ”
.
3. ตั้งแต่ช่วงสงครามการค้าจีนอเมริกาอย่างหนักเมื่อช่วงปี 2019 อเมริกาได้ประกาศแบนหลายสินค้าและบริษัทของจีน อย่างเช่น Huawei ซึ่งไม่เว้นแม้แต่สถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยในจีนที่โดนแบนไปทั้งหมด 6 แห่ง (รวมถึงมหาวิทยาลัยที่อ้ายจงเรียนจบมา) โดยล้วนเกี่ยวข้องกับสายเทคโนโลยีและวิศวกรรมของจีน มีชื่ออยู่ในบทความของสื่อจีน South China Morning Post เมื่อปี2015 ว่า เป็น TOP5 มหาวิทยาลัยจีนที่ทำโปรเจคลับและสำคัญสุดๆให้แก่จีน
.
ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าสถาบันที่มีอยู่ในรายชื่อแบนของอเมริกา ผมจึงสอบถามไปยังเพื่อนคนจีนที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัยแห่งนั้น โดยรับคำตอบว่า “เคยมีเหมือนกันที่อาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษาปัจจุบัน และศิษย์เก่า รู้สึกว่า “ขอวีซ่าเข้าอเมริกายากขึ้นจริง”
.
4. ปี 2020 อเมริกาประกาศ “แบนและยกเลิกวีซ่านักศึกษาแก่นักศึกษาจีน” อย่างน้อย 2 รอบ สืบเนื่องมาตั้งแต่ความขัดแย้งทางการค้าในสงครามการค้าสองประเทศ โดยเหตุผลที่ยกเลิกวีซ่า อเมริกายกเหตุผล “นักศึกษาจีนเหล่านี้ มีความเกี่ยวข้องกับทางการทหารจีน และขโมยข้อมูลสำคัญของทางอเมริกาไปให้แก่ทางจีน” คาดว่ามีนักศึกษาจีนได้รับผลกระทบอย่างน้อย 3,000 – 5,000 คน จากจำนวนนักศึกษาจีนทั้งหมดที่เรียนในอเมริกาช่วงปีการศึกษา 2019-2020 372,000 คน คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของนักศึกษาต่างชาติหลักล้านคนในอเมริกา (อ้างอิงตัวเลขจาก China Daily สื่อจีน)
.
มีนักศึกษาจีนบางคนที่โดนแบนให้สัมภาษณ์กับสื่อ อย่างเช่น นักศึกษาหนุ่มจีนนาม “Dennis Hu” ให้สัมภาษณ์ต่อ CNN ว่า “เดินทางกลับจากอเมริกาไปยังบ้านในประเทศจีน เพื่อฉลองตรุษจีน (ช่วงจีนเกิดระบาดโควิด) และจะกลับไปต่อวีซ่าอเมริกา เพื่อกลับไปทำปริญญาเอกทางด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ให้จบ แต่ปรากฏว่าเขาเป็น 1 ในนักศึกษาจีนนับพันคนที่โดนแบนวีซ่า ไม่ให้กลับไปศึกษาต่อในอเมริกา และแน่นอนว่า เขาก็เหมือนกับทุกคนที่โดนแบน ยืนยัน ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆหรือเป็นสายลับให้กับรัฐบาลจีน”
.
5. เรื่องราวของความขัดแย้งทางการค้าและการเมือง ส่งผลกระทบต่อการไปเรียนอเมริกาของคนจีนมาสักพักใหญ่ๆแล้ว แต่ไม่ได้เป็นการแบนแบบหว่านแห ทุกมหาวิทยาลัย ทุกคน
“เหตุผลหลักๆมาจากประเด็นความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ การเกรงกลัวว่าข้อมูลสำคัญจะหลุดรั่วไหลไปยังรัฐบาลจีนและกองทัพจีน ผ่านทางนักเรียนนักศึกษาและนักวิจัยจีน โดยเฉพาะทางสายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือเรียกรวมว่า STEM
.
บทความบนเว็บไซต์ Global Times สื่อกระบอกเสียงจีน ที่เผยแพร่เมื่อกรกฎาคมปีนี้ (2021) รายงานข้อมูล “ปัจจุบัน อเมริกาปฏิเสธวีซ่าแก่นักเรียนจีนที่ตั้งใจจะไปเรียนทางสาย STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์) มากกว่า 500 คน”
.
6. อีกหนึ่งบทความบนเว็บไซต์ Global Times เมื่อพฤษภาคม 2021 Global Times รายงานข้อมูลจาก Gewai Education บริษัทแนะแนวศึกษาต่ออเมริกา ซึ่งเผยข้อมูลการขอวีซ่าอเมริกาของนักเรียนจีนจำนวนหนึ่งโดนปฏิเสธ เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงอยู่ในหน่วยงานเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศจีน รวมถึง หน่วยงานปราบปรามคอรัปชั่นและตรวจคนเข้าเมือง
.
7. จากมาตรการของประเทศสหรัฐอเมริกา เข้มงวดเรื่องวีซ่าแก่นักเรียนนักศึกษาจีน รวมถึงนักวิจัยจีน ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคง เคยมีการนำเสนอข่าวออกมาโดยสื่อต่างประเทศเหมือนกันว่า ประเทศพันธมิตรของอเมริกาบางประเทศ มีการดำเนินนโยบายคล้ายๆกันนี้ อย่างเช่น ญี่ปุ่น ตามการรายงานข่าวของ The Straits Times
.
และ แคนาดา ก็เคยมีการเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยแคนาดา ระมัดระวังการทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยจีน เพราะข้อมูลอาจรั่วไหลไปถึงรัฐบาลจีน อย่างยิ่งทางการทหารจีน เป็นความวิตกกังวลและกลัวในประเด็นเดียวกันกับที่อเมริกาให้เหตุผลแบนวีซ่านักเรียนนักศึกษาและนักวิจัยจีน (ตามการรายงานของ CBC สื่อแคนาดา)
.
8. จีนตอบโต้นโยบายเข้มงวดแก่นักศึกษาจีนของอเมริกามาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2019 สงครามการค้าจีนอเมริกา รัฐบาลจีนออกประกาศเตือนประชาชนถึงการไปเรียนต่อและเที่ยวที่ประเทศสหรัฐอเมริกาให้ระมัดระวังในเรื่ิองของการขอวีซ่าที่มีข้อจำกัดมากขึ้น ให้ระยะเวลาอยู่ในอเมริกาลดน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะส่งผลโดยตรงต่อนักศึกษาจีนที่ต้องการไปเรียนต่อที่อเมริกา
.
9. ไม่ใช่อเมริกา “เพิ่มข้อจำกัดในการขอวีซ่าแก่ชาวจีน เพียงอย่างเดียว” ประเทศจีนเองก็เข้มงวดแก่ชาวอเมริกา อย่างเช่นเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2020 ทางการจีน ออกมาตรการ ‘เพิ่มข้อจำกัดในการออกวีซ่าแก่ชาวอเมริกัน ที่มีพฤติกรรมเชิงลบต่อเรื่องราวของจีนและฮ่องกง โดยในปี 2020 เป็นปีที่อเมริกายกเลิกวีซ่านักเรียนจีนหลักพันคน ตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญและสื่อต่างประเทศ อาทิ ABC News และ Wall Street Journal มองว่า “เบื้องลึกไม่ใช่ประเด็นความมั่นคงอย่างเดียว แต่เป็นการต่อต้านการออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่จีนนำไปใช้กับฮ่องกง”
.
10. การแก้ไขปัญหาสมองไหล-หัวกะทิ-ประชาชนผู้มีความสามารถไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ อย่างยิ่งในอเมริกา ให้กลับมายังประเทศจีน มีส่วนมาผลจากความขัดแย้งทางการเมืองและปัญหาทางการค้าจีนอเมริกา ทำให้คนจีนในอเมริกาเรียนจบ หรือทำงานในอเมริกาอยู่แล้ว ย้ายกลับจีนมากขึ้น แต่ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด เพราะจีนดำเนินนโยบายดึงดูดคนจีนเก่งๆให้กลับมาประเทศจีน ตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามการค้าจีนอเมริกาและการขัดแย้งทางการเมืองอย่างหนัก
.
จากประสบการณ์จริงของอ้ายจง สมัยไปทำวิจัยที่เมืองซีอานปี 2014 ตอนนั้นที่แลปดีลกับมหาวิทยาลัยในอเมริกาและยุโรปเยอะมากในด้านทำการวิจัย
.
ภายใต้การร่วมมือแต่ละครั้ง ทางแลปและมหาวิทยาลัยจะดีลโดยตรงส่วนตัวกับอาจารย์-ศาสตราจารย์จีนที่ทำงานในอเมริกา ให้มาเป็นอาจารย์และนักวิจัยในมหาวิทยาลัยจีน โดยดึงดูดด้วยผลตอบแทนและโอกาสก้าวหน้าทางอาชีพ เพื่อให้คนเก่งหัวกะทิเหล่านี้มั่นใจว่า “คุ้มค่าในการกลับไปยังประเทศบ้านเกิดเมืองนอน” (อ่านบทความเต็มที่ผมเคยเขียนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาสมองไหลของจีน ได้ที่ https://www.blockdit.com/posts/60785b284bbb3e0c2e04f976)
.
#สรุป อเมริกาและประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศพันธมิตรของอเมริกา มีข้อจำกัดในการให้วีซ่าแก่ประชาชนชาวจีนจริง ในการเข้าศึกษาต่อและทำวิจัย แต่ขอเน้นย้ำว่า “ไม่ใช่การจำกัด หรือแบนแบบ 100%“ และจากตัวเลขตามที่มีรายงานออกมาจากสื่อต่างประเทศและสื่อจีนเอง จำนวนนักศึกษาจีนที่ได้รับผลกระทบ เอาแค่ในประเทศอเมริกา เป็นจำนวน “หลักพัน” จากทั้งหมด 3 แสนกว่าคนที่ศึกษาในอเมริกา ดังนั้น ไม่ใช่สัดส่วน 80% ที่โดนแบนและไล่กลับจีนแบบที่มีการแชร์ก่อนหน้านี้
.
โดยเหตุผลหลักของการแบนและจำกัดวีซ่าแก่คนจีน มาจากเหตุผล “ความมั่นคงและข้อขัดแย้งทางการเมือง” เน้นหนักไปที่การเกรงกลัวข้อมูลสำคัญหลุดไปยังรัฐบาลและทางกองทัพจีน ซึ่งสาขาการเรียนและการวิจัยที่โดนจับตามองเป็นพิเศษ ได้แก่ สาขาสาย STEM - วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์
.
อ้ายจงอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวทั้งจีน อเมริกา และประเทศอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเนื้อหา โดยใช้เป็นแหล่งข่าวภาษาอังกฤษ เพื่อทุกคนที่สนใจสามารถอ่านและตรวจเช็คข้อมูลได้ครับ
-https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3145877/high-price-chinese-students-pay-university-us-during-covid-19)
- https://news.cgtn.com/news/2020-05-30/U-S-bans-some-Chinese-students-from-entering-its-borders-QUoMxQGh4Q/index.html
- https://www.bbc.com/news/world-us-canada-54097437
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-09-10/u-s-revoked-over-1-000-chinese-visas-over-national-security
- https://www.theguardian.com/world/2020/sep/10/us-cancels-1000-china-student-visas-claiming-ties-to-military
- https://www.globaltimes.cn/page/202104/1222300.shtml
- https://www.globaltimes.cn/page/202105/1223713.shtml
- https://www.globaltimes.cn/page/202107/1228072.shtml
- https://global.chinadaily.com.cn/a/202008/13/WS5f3491d4a31083481725ffd7.html
- http://www.chinadaily.com.cn/a/202107/07/WS60e4dde8a310efa1bd6601c7_2.html
- https://www.straitstimes.com/asia/east-asia/japan-to-tighten-checks-on-visa-applications-by-chinese-students-researchers-over
- https://www.cbc.ca/news/politics/china-canada-universities-research-waterloo-military-technology-1.5723846
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน #จีน #อเมริกา #เรียนต่ออเมริกา #แบนวีซ่า
同時也有1330部Youtube影片,追蹤數超過5,420的網紅kJ Ajumma,也在其Youtube影片中提到,[日韓字幕] 입원전에 아이에게 말해서는 안되는 것들! 入園前子供に言ってはいけないこと![#474] https://youtu.be/ZDxeYi4Zdz0 [日韓字幕]0歳児教育 0세 교육환경 0 baby education [#461] https://youtu.be/NS0...
japan education 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
เมื่อญี่ปุ่น กำลังเต็มไปด้วย คนไม่ทำงาน /โดย ลงทุนแมน
คนที่ไม่ทำงานทำการอะไรเลย จะถูกเรียกว่า “ชาวนีต” หรือ NEET หรือที่คนญี่ปุ่นจะนิยมเรียกว่า “นีตโตะ”
NEET มาจากคำภาษาอังกฤษว่า Not in Education, Employment or Training ซึ่งก็คือ บุคคลที่ไม่ได้อยู่ในสถานะเรียน ทำงาน หรือฝึกงานใด ๆ
แล้วญี่ปุ่น กำลังมี ชาวนีต มากขนาดไหน
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ชาวนีตส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นจะมีอายุอยู่ที่ราว 18-34 ปี ซึ่งจัดอยู่ในวัยนักศึกษา และวัยเริ่มทำงาน แต่คนเหล่านี้กลับเลือกที่จะเก็บตัวอยู่แต่บ้าน เล่นเกม หรือไม่ก็นั่ง ๆ นอน ๆ ไปวัน ๆ
บางคนก็ถึงขนาดหลอกลวงคนที่บ้าน หรือหลอกเพื่อนฝูงว่ามีหน้าที่การงานที่ดี ออกจากบ้านแต่เช้าแล้วกลับค่ำ ๆ ทุกวัน
แต่ความจริงไม่ได้ไปทำงาน กลับไปนั่งอยู่ร้านเกม หรือร้านปาจิงโกะ ใช้ชีวิตให้หมดไปหนึ่งวัน
ชาวนีตเหล่านี้อาศัยอยู่บ้านกับพ่อแม่ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็มาจากเงินจากพ่อแม่ ครอบครัวไหนที่มีฐานะดี ลูกที่เป็นนีตก็มีเงินพอจะออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน
แต่บางครอบครัวพ่อแม่เกษียณแล้วได้รับบำนาญไม่มาก หรือพ่อแม่ทำงานแต่มีเงินใช้ไม่พอ พ่อแม่ก็อาจจะต้องหางานเพิ่มเพื่อเลี้ยงดูลูกนีต
สาเหตุของการเป็นชาวนีตมีได้หลากหลาย
ทั้งจาก การเบื่อชีวิตการทำงานที่หนักหนาและเคร่งเครียดของสังคมญี่ปุ่น, ความรู้สึกสิ้นหวังในชีวิตวัยเรียน จากการถูกบุลลีในชั้นเรียน
ทำให้หลายคนเลือกที่จะปลีกตัวออกจากสังคมมาตั้งแต่นั้น
รวมถึงการเลี้ยงดูของบางครอบครัวที่ตามใจลูกมากจนเกินไป จนทำให้ลูกไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพชีวิตในสังคมได้
ชาวนีตที่เก็บตัวอยู่ที่บ้านและไม่ออกไปไหนนาน ๆ เข้า มีแนวโน้มสูงที่จะกลายเป็น “ฮิคิโคโมริ” หรือบุคคลที่ไม่ออกจากบ้าน ไม่ออกไปพบปะกับใครเลยนอกจากคนในครอบครัว เป็นเวลานานกว่า 6 เดือน
จำนวนชาวนีตในญี่ปุ่นไม่สามารถระบุได้แน่ชัด เพราะส่วนใหญ่มักไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นนีต
แต่ก็ถูกคาดการณ์ว่าอาจมีไม่ต่ำกว่า 650,000 คน
ส่วนองค์กร OECD มีการคาดการณ์ว่า อาจมีชาวนีตอยู่มากกว่า 1,000,000 คนทั่วประเทศญี่ปุ่น
นอกจากชาวนีตแล้ว ในสังคมญี่ปุ่นยังมีคนอยู่อีกกลุ่มหนึ่ง ที่ถูกเรียกว่า “ฟรีเตอร์ (Freeter)” หรือที่คนญี่ปุ่นนิยมเรียกว่า ฟรีตะ..
Freeter มาจากภาษาอังกฤษว่า Free รวมกับภาษาเยอรมัน Arbeiter ซึ่งแปลว่า คนทำงาน
เมื่อรวมกันจึงแปลว่า คนที่รับงานเป็นจ๊อบ ๆ
แต่งานสำหรับชาวฟรีเตอร์ ส่วนมากมักเป็นงานที่ต่ำกว่าวุฒิ และได้รับค่าแรงต่ำ เช่น งานในร้านสะดวกซื้อ งานแจกสินค้าทดลอง หรืองานในร้านอาหาร
สาเหตุที่ทำให้ต้องมาเป็นชาวฟรีเตอร์ ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากการหลีกหนีชีวิตการทำงานประจำที่เคร่งเครียดและทำงานหนัก จึงลาออกมาทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แทน และมักเปลี่ยนงานไปเรื่อย ๆ บางคนก็เฝ้ารองานในฝันที่ตัวเองอยากทำ จนไม่ยอมทำงานประจำอื่น ๆ เลย
ชาวฟรีเตอร์บางส่วนก็ยังคงอาศัยอยู่บ้านกับพ่อแม่ แต่ก็มีไม่น้อยที่แยกไปหาห้องเช่าถูก ๆ เพราะยังพอมีรายได้อยู่บ้าง บางคนก็นิยมการย้ายที่พักไปเรื่อย ๆ ตามงานที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
จำนวนของชาวฟรีเตอร์ในญี่ปุ่นก็ประมาณได้ยากเช่นกัน เพราะไม่ค่อยมีใครยอมรับว่าเป็นฟรีเตอร์ แต่ประมาณกันว่าในญี่ปุ่นปัจจุบันมีฟรีเตอร์อยู่ราว 10 ล้านคน
หากลองรวมจำนวนของทั้งชาวนีตและชาวฟรีเตอร์ก็จะพบว่า
จำนวนนี้มีอยู่สูงถึงเกือบ 11 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 8% ของประชากรญี่ปุ่น
และคิดเป็นสัดส่วนถึง 15% ของวัยแรงงานในประเทศญี่ปุ่น
สภาพสังคมที่เต็มไปด้วยชาวนีตและฟรีเตอร์ ทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจหลายอย่าง
ทั้งการทำให้ผู้ประกอบการหาแรงงานได้ยากยิ่งขึ้น ในภาวะขาดแคลนแรงงานที่รุนแรงขึ้น
กิจการหลายแห่งก็อาจต้องปิดตัวลง หรือย้ายไปลงทุนยังต่างประเทศ
มูลค่าผลิตภัณฑ์ทางเศรษฐกิจของประเทศก็ลดต่ำลงเรื่อย ๆ
ในปี 1995 GDP ของประเทศญี่ปุ่น อยู่ที่ 5.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 178 ล้านล้านบาท
ซึ่งเคยมากกว่า GDP ของทุกประเทศในทวีปเอเชียที่เหลือรวมกัน
เวลาผ่านไปเกือบ 30 ปี GDP ของญี่ปุ่นในปี 2020 อยู่ที่ 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
แทบไม่แตกต่างจาก GDP ปี 1995
เรียกได้ว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลยตลอดเวลาเกือบ 30 ปี จนคนทั้งโลกรู้จักกันในชื่อ “3 ทศวรรษที่หายไป” ของญี่ปุ่น
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดทศวรรษที่หายไป มาจากจำนวนประชากรที่ลดลง และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ญี่ปุ่นมีคนสูงอายุมากกว่า 65 ปี คิดเป็นสัดส่วนถึง 28.4% ของประชากรทั้งหมด ในปี 2020
แต่สังคมญี่ปุ่นยังมีปัญหาที่ซุกซ่อนอยู่มากกว่านั้น ก็เพราะมีคนในวัยทำงานจำนวนไม่น้อย ที่เป็นชาวนีต
เมื่อไม่มีแรงงานประจำ รัฐบาลก็มีแนวโน้มเก็บภาษีมาใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ ได้ลดลง โดยเฉพาะการเลี้ยงดูผู้สูงอายุของญี่ปุ่นที่นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
การเป็นภาระของครอบครัวในการเลี้ยงดู ชาวนีตหลายคนมีอายุถึงวัยเลข 4 แล้ว แต่ยังคงพึ่งพาเงินจากพ่อแม่ บางคนพ่อแม่ก็เข้าสู่วัยเกษียณแล้ว เมื่อรายได้ไม่พอก็อาจเลือกก่อปัญหาอาชญากรรม จนกลายเป็นภาระให้สังคมต่อ
ชาวนีตและฟรีเตอร์ส่วนมากมักอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัว และไม่คิดที่จะมีด้วย อัตราเกิดของญี่ปุ่นที่ตกต่ำอยู่แล้ว ก็ยิ่งมีแนวโน้มจะลดต่ำลงไปอีก
รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้คนรุ่นใหม่กลายเป็นชาวนีตและฟรีเตอร์ มาตั้งแต่ปี 2004
ทั้งการจัดโปรแกรม “Job Education” ลงไปในหลักสูตรของโรงเรียน เพื่อให้เด็ก ๆ เข้าใจโลกของการทำงานหลังเรียนจบ และมีความคิดที่ดีต่อการทำงานในอนาคต
การเพิ่มความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับภาคธุรกิจให้มากขึ้น เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสฝึกงาน และเรียนรู้ชีวิตการทำงานให้มากที่สุด รวมถึงการจัดค่ายเยาวชน ให้เยาวชนได้พบปะกับบุคคลอื่น เพื่อสร้างทักษะทางสังคมที่ดี
แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มปัญหานี้ก็ยังคงไม่คลี่คลายมากนัก เพราะค่านิยมการทำงานแบบญี่ปุ่น ที่ทุ่มเทให้กับองค์กร และการทำงานหนักยังคงมีอยู่มากในสังคมการทำงาน ซึ่งก็ยิ่งผลักดันให้คนรุ่นใหม่เลือกที่จะเป็นชาวนีตและชาวฟรีเตอร์กันมากขึ้น
รัฐบาลญี่ปุ่นจึงต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งการขยายอายุเกษียณไปจนถึง 65 ปี เพื่อให้มีวัยแรงงานมากเพียงพอที่จะเสียภาษี
การเปิดรับแรงงานต่างชาติมากขึ้น เพื่อมาทดแทนแรงงานที่ขาดหายไป ทั้งแรงงานที่สูงวัย และแรงงานที่ไม่ยอมทำงาน
ก็เป็นที่น่าคิดว่า สังคมญี่ปุ่นในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป
โดยเฉพาะในปี 2050 หรืออีก 30 ปีข้างหน้า
ที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีผู้สูงอายุ ที่อายุมากกว่า 65 ปี คิดเป็นสัดส่วนถึง 37.6% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
ซึ่งดูเหมือนว่า “ทศวรรษที่หายไปของญี่ปุ่น” จะยังคงไม่กลับคืนมาง่าย ๆ..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.statista.com/statistics/263578/gross-domestic-product-gdp-of-japan/
-https://jpninfo.com/11831
-http://yabai.com/p/2715
-https://www.oecd.org/newsroom/japan-should-do-more-to-help-young-people-take-part-in-the-labour-market.htm
-https://www.populationpyramid.net/japan/2020/
japan education 在 Facebook 的最讚貼文
I’m so honoured to have my work exhibited on the online event hosted by @unescobangkok on the theme #TogetherForPeace 🕊💗
https://bangkok.unesco.org/content/together-peace-silent-manga-exhibition-and-special-event
🌟The online repository of this exhibition displays 15 of 274 entries submitted by artists from 117 countries in the SILENT MANGA AUDITION® (SMA) Round 13, under the theme Together for Peace. The contest was organized by Tokyo-based Coamix with UNESCO Asia and Pacific Regional Bureau for Education.
https://bangkok.unesco.org/content/together-peace-silent-manga-exhibition
🌟On Friday 14 May, a special event will be organized online via Zoom. This will start with a screening of ‘SKY SKY’, a short film directed by the Thai director Nonzee Nimibutr. It is part of ‘Angel Sign’ – a dialogue-free film of interconnected stories based on five silent manga.
🌟The event will also include a panel discussion ‘Manga for a Cause’ which will feature cartoonist Sa-ard, manga storyboard writer Aruntiwa, and visual communications design lecturer Chanisa Changadvech from Silpakorn University, moderated by web-comic artist Vicmon. Lucky participants will have a chance to win prizes including Silent Manga Catalogues.
___
Date and time: Friday 14 May 2021 from 3 pm to 5.20 pm
Format: Online via Zoom
To register: http://bit.ly/SMA0514ZoomR
Note: Due to the ongoing COVID-19 situation, a physical SMA exhibition will be organized at the Bangkok Art and Culture Centre (BACC) later this year (TBA). This first SMA exhibition in Asia outside Japan will be organized by UNESCO, with The Japan Foundation, Bangkok, and BACC. The art and manga school KP Learning Space will conduct live illustration sessions on weekends.
#silentmangaaudition #unesco #thailand
japan education 在 kJ Ajumma Youtube 的最讚貼文
[日韓字幕] 입원전에 아이에게 말해서는 안되는 것들! 入園前子供に言ってはいけないこと![#474]
https://youtu.be/ZDxeYi4Zdz0
[日韓字幕]0歳児教育 0세 교육환경 0 baby education [#461]
https://youtu.be/NS0iaaWCSvk
[日韓字幕]0歳児教育#2 0세 교육환경#2 0 baby education #2 [#462]
https://youtu.be/GkJnMdmKaJU
[日韓字幕]外国語が話せるようになるためにやること!외국어를 말하고 싶으면 이렇게 공부하세요! [#471]
https://youtu.be/GZGJyb9GaWY
[日韓字幕] 외국어 공부하는 사람이 꼭 봐야할 영상! 外国語を勉強している人は見てください! [#429]
https://youtu.be/p47wZ7kETqc
[日韓字幕]아기 책육아 赤ちゃん読み聞かせ方法 [#459]
https://youtu.be/1li0QJdtVDc
[日韓字幕 아기귀염주의] 한일가족의 아침 ある日の朝[#390]
https://youtu.be/Zswi-ug9XOY
일주일에 한 편 많을 때는 2편정도 동영상 올라갑니다
一週間に動画1本アップしています。2本アップする時もあります。
twitter: https://twitter.com/kj_ajumma
facebook: Hyunju Jeong
instagram: https://www.instagram.com/kj_ajumma/
Email : brahma12299@yahoo.co.jp
japan education 在 kJ Ajumma Youtube 的最佳貼文
어린이집 들어가기 전에 해두면 좋은 것들, 아이에게 절대 말해서는 안 될 것들에 대해 말씀 드릴게요!
入園前にやっておくといいこと&子供に言ってはいけない言葉についてお話しします。
[日韓字幕]0歳児教育 0세 교육환경 0 baby education [#461]
https://youtu.be/NS0iaaWCSvk
[日韓字幕]0歳児教育#2 0세 교육환경#2 0 baby education #2 [#462]
https://youtu.be/GkJnMdmKaJU
[日韓字幕]外国語が話せるようになるためにやること!외국어를 말하고 싶으면 이렇게 공부하세요! [#471]
https://youtu.be/GZGJyb9GaWY
[日韓字幕] 외국어 공부하는 사람이 꼭 봐야할 영상! 外国語を勉強している人は見てください! [#429]
https://youtu.be/p47wZ7kETqc
일주일에 한 편 많을 때는 2편정도 동영상 올라갑니다
一週間に動画1本アップしています。2本アップする時もあります。
twitter: https://twitter.com/kj_ajumma
facebook: Hyunju Jeong
instagram: https://www.instagram.com/kj_ajumma/
Email : brahma12299@yahoo.co.jp
japan education 在 kJ Ajumma Youtube 的最佳貼文
[日韓字幕]外国語が話せるようになるためにやること!외국어를 말하고 싶으면 이렇게 공부하세요! [#471]
https://youtu.be/GZGJyb9GaWY
[日韓字幕] 외국어 공부하는 사람이 꼭 봐야할 영상! 外国語を勉強している人は見てください! [#429]
https://youtu.be/p47wZ7kETqc
[日韓字幕]2021年夏休み近況トーク 여름방학 근황토크[#469]
https://youtu.be/1KVru7WDcqs
[日韓字幕]2021夏休みVLOG 2021년 여름방학 VLOG Terrible Twos Vlog [#470]
https://youtu.be/3uYQtPNy5Iw
[日韓字幕 아기귀염주의] 한일가족의 아침 ある日の朝[#390]
https://youtu.be/Zswi-ug9XOY
일주일에 한 편 많을 때는 2편정도 동영상 올라갑니다
一週間に動画1本アップしています。2本アップする時もあります。
twitter: https://twitter.com/kj_ajumma
facebook: Hyunju Jeong
instagram: https://www.instagram.com/kj_ajumma/
Email : brahma12299@yahoo.co.jp