ประวัติของ Genn Greymane รีเจ้นใหม่ล่าสุดของ The Witchwood #อ่านเพลินๆเลยทีเดียว
สวัสดีครับ ในงาน Blizzcon มีตัวที่ถูกดูดเข้ามาใน Nexus อีก 3 ตัว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ กษัตริย์แห่งเมือง “Gilneas” นามว่า “Genn Greymane” นั่นเองครับ
Genn Greymane นั้นเป็นกษัตริย์แห่งเมือง “Gilneas” ซึ่งในสมัยเด็ก เขาถูกพ่อของเขาสอนมาว่า การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นนั้นเป็นความอ่อนแอ และจะทำอะไรควรจะทำด้วยตัวเอง ซึ่งถึงแม้ว่า Greymane จะยอมรับคำสอนของพ่อเขา แต่เมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาก็ปกครองให้เมืองของเขานั้นสงบสุขและเป็นหนึ่งในจุดสูญกลางของอุตสาหกรรมในบรรดาอาณาจักรของมนุษย์ได้
ในช่วงก่อน “Second War” นั้น Greymane ถูกเชิญไปประชุมกลุ่มผู้นำของเหล่ามนุษย์ที่จัดขึ้นที่ “Lorderon” โดยกษัตริย์ “Terena Menethil II” โดยเนื้อหานั้นเกี่ยวกับการล่มสลายของเมือง “Stormwind” และการมาของ “The Horde” จากคำกล่าวของ “Anduin Lothar” ผู้ที่ได้อพยกผู้รอดชีวิตมาลี้ภัยที่ Stormwind ทางผู้นำของเมืองต่างๆนั้นเห็นด้วยกับการร่วมจัดตั้ง “Alliance of Lorderon” แต่ Greymane กลับไม่เห็นด้วย และบอกว่า กะแค่กองทัพป่าเถื่อนอย่าง The Horde นี่แค่กองทัพของ Gilneas ก็เหลือแหล่แล้ว แต่ก็ไม่อาจสู้เสียงข้างมากของผู้นำคนอื่นๆได้
Greymane กลับมาปรึกษากับเหล่าขุนนางของเขา “Darius Crowley” และ “Vincent Godfrey” เกี่ยวกับทางเลือกนี้ Crowley นั้นเสนอว่าควรจะส่งกองทัพเข้าร่วมสู้ศึกนี้เพื่อเสริมสัมพันธ์กับเหล่าเมืองพี่เมืองน้อง แต่ Greymane กลับบอกว่า มันเป็นความคิดที่ซื่อเกินไป ส่วน Godfrey ก็บอกว่าเราควรที่จะร่วม แต่ไม่ควรจะส่งทัพหลวงไปช่วย ควรจะช่วยเพี่ยงแค่ส่งกองหนุนกับจัดสรรเสบียงให้ก็พอ
เมื่อการประชุมครั้งที่ 2 เริ่มขึ้น Greymane ก็ประกาศว่า เขาจะยอมเข้าร่วมกับ Alliance of Lorderon แต่จะช่วยเพียงแค่จัดหาเสบียงและยุทโธปกรณ์เท่านั้น นั่นทำให้ Gilneas แทบจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับสงคราม Second War เลยแม้แต่น้อย
หลังจากสงครามสงบลง Greymane ก็ไม่พอใจกับการเรียกเก็บภาษีที่มากขึ้น จากการก่อสร้างค่ายกักกัน Orc หลายๆแห่งและการก่อสร้าง “Nethergarde Keep” Greymane จึงได้ปรึกษากับ Godfrey เกี่ยวกับการที่เขาจะทำการแยกตัวออกจาก Alliance of Lorderon และสร้างกำแพงเพื่อตัดขาด Gilneas จากโลกภายนอก ซึ่ง Godfrey ก็เห็นด้วย แต่เมื่อดูแผนที่ เขาเห็นว่าดินแดนที่ Crowley ครอบครองนั้นมีภูเขาสูงชันอยู่ ซึ่งมันสามารถเป็นปราการธรรมชาติได้ Godfrey จึงได้เสนอให้ทำการสร้างกำแพงตัดผ่านดินแดนของ Crowley และหวังว่า Crowley จะเข้าใจการกระทำของเขา
แต่ทว่า Crowley นั้นไม่พอใจอย่างมากในการตัดสินใจของ Greymane และได้รวบรวมผู้คนที่ภัคดีต่อเขามาก่อตั้งเป็น “Northgate Rebellion” นั่นทำให้เมืองนั้นถูกแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ซึ่งนั่นทำให้เกิดสงครามกลางเมือง Gilneas และเพื่อทำให้ Greymane หัวเสียยิ่งเข้าไปอีก Crowley ได้ส่งทหารของเมืองไปช่วยเหลือ “Jaina Proudmoore” ในช่วง “Third War” ทาง Greymane นั้นก็เสียใจที่คนที่เขาคิดว่าเป็นเพื่อนกลับมาลุกต่อต้านเขา แต่เขาก็ไม่ได้โทษพวก Crowley และในภายหลัง กองกำลังของ Greymane สามารถจับตัว Crowley ได้ และได้จับคนของเขาเข้าคุก
ในระหว่าง Third War หลังจากกลุ่มกบฏของ Crowley นั้นพ่ายแพ้และการก่อสร้าง “Greymane Wall” เสร็จสมบูรณ์ “The Scourge” ที่ได้ทำการอาละวาดในดินแดนนี้ได้เริ่มมารุกรานเมือง Gilneas เพื่อที่จะจัดการกับปัญหานี้โดยที่ไม่ต้องให้ผู้คนของเขาต้องกลัว หรือกองทัพของเขาต้องกลายเป็นผีดิบ Greymane ได้ปรึกษากับนักเวทย์แห่ง “Kirin Tor” นามว่า “Archmage Arugal” เพื่อหาวิธีรับมือ ซึ่ง Arugal ได้แนะนำถึงวิธีในการอัญเชิญ “Worgan” สิ่งมีชีวิตอันดุร้ายจากมิติอื่น แต่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่ได้แค่ไล่ขยี้ The Scourge รอบๆตัวเมือง แต่ยังได้เข้าโจมตีเหล่าผู้คนและทหารประจำหมู่บ้านรอบนอกกำแพงของ Gilneas และที่แย่ไปกว่านั้นคือ เหยื่อที่รอดชีวิตกลับติดคำสาปที่ทำให้ตัวเองเปลี่ยนเป็น Worgen ไปด้วย และคำสาปก็ค่อยๆแพร่เข้ามาหลังกำแพง ทำให้ผู้คนเริ่มกังวลและกลัวขะต้องสาปไปด้วย
เพื่อจัดการกับปัญหานี้อย่างลับๆ Greymane, Godfrey และเหล่าขุนนางคนอื่นๆจะจัดตั้งกลุ่มล่า Worgen ในทุกๆคืนพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งมันก็เป็นไปด้วยดี จนกระทั่งในการล่าครั้งหนึ่ง Greymane ไล่ล่า Worgen ตัวหนึ่งจนเขาถลำลึกเข้าไปในป่าคนเดียว นั่นทำให้เขาถูกพวก Worgen หลายตัวเข้าซุ่มโจมตี ซึ่ง Greymane สามารถสู้และรอดมาได้ แต่เขาก็ถูกกัดเข้าที่หัวไหล่ ทำให้เขารู้ตัวว่า ตัวเองติดคำสาป Worgen ไปแล้ว แต่เขาจะให้ขุนนางคนอื่นรู้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาถูกฆ่าแน่ โชคดีที่เสื้อนอกของเขานั้นไม่เป็นอะไร เขาจึงได้พยายามซับเลือดที่ใหล่และใส่เสื้อคลุมของเขาเพื่อปกปิดแผลไม่ให้ขุนนางรู้ ซึ่งนั่นก็ได้ผล
เวลาผ่านไป Greymane ก็ต้องมาเจอกับปัญหา 2 อย่าง ทางนอกกำแพงนั้น “The Forsaken” พยายามบุกตีเมืองเพื่อยึดครองดินแดนนี้เป็นเขตของตน ส่วนในกำแพง ข่าวลือเกี่ยวกับการอาละวาดของอดีตผู้สนับสนุน Crowley, การที่เสบียงอาหารจำนวนหนึ่งหายไปอย่างไร้ร่องรอย และปัญหาของพวก Worgen นั้นเข้ามาถาโถมใส่ Greymane ซึ่ง Greymane ก็ได้ทำการเพิ่มการป้องกันและทหารรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นเพื่อปกป้องประชาชน ซึ่งนั่นทำให้ประชาชนเริ่มรู้สึกกลัวที่จะออกจากบ้านของตน ทางด้านขุนนาง โดยเฉพาะ Godfrey นั้นก็เริ่มสงสัยว่า ทำไมหมู่นี้ Greymane ไม่ออกไปล่ากับพวกเขาเลย และถามเขาว่า ความกล้าและฝีมือของเขาถดถอยลงไปแล้วหรือ แต่จริงๆแล้ว Greymane นั้นคิดว่าการที่พวกเขาออกไปล่า Worgen นั้นอาจจะทำให้ประชาชนรู้สึกประหม่าได้
หลังจากนั้น Greymane ได้ไปรู้จักกับ “Belysra” Night Elves หญิงที่เป็นสมาชิกของ “Priestess of the Moon” ซึ่งได้บอกเขาถึงต้นกำเนิดของพวก Worgen ว่าจริงๆแล้ว Worgen คือบรรดา Driud ที่พยายามควบคุมร่างหมาป่า แต่ล้มเหลว และถูกผนึกอยู่ใน “Emerald Dream” ตั้งแต่สมัยสงคราม “War of the Satyr” เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนแล้ว และเธอสามารถใช้พิธีกรรมของเธอช่วยให้ Greymane และคนอื่นๆที่ติดคำสาปนี้สามารถควบคุมร่าง Worgen ได้ แต่ถ้าผู้ใดมีความคิดที่รู้สึกผิดหรือเสียใจอย่างรุนแรง ผู้นั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นร่างมนุษย์ได้ Greymane จึงได้ใช้เวลาว่างของเขาซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์ของเขา และใช้พิธีกรรมของ Belysra เพื่อทำให้เขาค่อยๆควบคุมร่าง Worgen ได้ และเขายังได้ปรึกษาและร่วมมือกับ “Krennan Aranasa” นักเล่นแร่แปรธาตุประจำราชสำนักของ Gilneas เพื่อผสานการเล่นแร่แปรธาตุ, การปรุงยา และพิธีกรรมของ Druid เพื่อสร้างยาที่ทำให้สามารถควบคุมร่าง Worgen ได้
เหล่าผู้คนที่ติดคำสาป Worgen นั้นเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนพวกเขาไล่โจมตีเข้ามาใจกลางเมือง Gilneas ทำให้ Greymane ตัดสินใจที่จะปลดปล่อย Crowley ออกจากคุก และให้การอภัยโทษและขอร้องให้พวกเขาร่วมกันจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นในเมือง ซึ่ง Crowley ก็ตกลง และพาทหารของ Greymane และผู้ติดตามของตนไปยังคลังเก็บอาวุธลับที่ได้ซ่อนไว้ตั้งแต่สมัยสงครามกลางเมือง
หลังจากนั้น เมื่อ Greymane รู้ว่าเมืองนั้นทนไม่ไหวแล้ว เขาจึงได้สั่งให้ประชาชนอพยกออกจากเมือง ซึ่ง Crowley กับคนของเขาก็ตัดสินใจที่จะอยู่เพื่อถ่วงเวลาให้ Greymane นำประชาชนหนีไปยัง “Duskhaven” ที่ที่ลูกสาวของ Crowley ชื่อว่า “Lorna” นั้นอยู่ ซึ่ง Greymane ก็ทำตาม แต่เมื่อไปถึงที่เมืองนั้น Lorna ที่ได้ข่าวว่าพ่อของตนถูกปล่อยตัว แต่ยอมอยู่เพื่อกันให้ Greymane นำคนของเขาหนีมาก็โมโห และเอาปืนจ่อหน้า Greymane แต่ว่า “Liam” ลูกชายของ Greymane ก็พยายามเข้ามาห้าม ซึ่งหลังจากนั้น Lorna ก็ปลีกตัวออกไปใช้ชีวิตอย่างสันโดษ
ในช่วง “Cataclysm” แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้ทำให้กำแพงของ Gilneas นั้นแตกออก เหล่า Forsaken จึงถือโอกาสบุกเข้าตัวเมือง ส่วนทางด้าน Greymane นั้นได้ร่วมมือกับ Krennan เพื่อทดลองยาต้านคำสาปที่ทำให้สามารถควบคุมร่าง Worgen ได้ แต่ Godfrey ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ และบอกว่าพวก Worgen นั้นเป็นแค่สัตว์และควรจะถูกสังหารให้หมด แต่ Greymane นั้นไม่รับฟัง และได้ช่วยหนึ่งใน Worgen ที่กำลังจะดดนประหารให้สามารถควบคุมสติของตนได้ และเมื่อ Forsaken เริ่มโจมตีเมือง Duskhaven Greymane ก็ได้สั่งให้ฉีดยาใส่ Worgen ให้ได้มากที่สุดและนำพวกเขาเข้าปกป้องเมือง
หลังจากที่เสียเมือง Gilneas และ “The Shattering” ทำให้เมือง Duskhaven นั้นจมลงใต้ทะเล Greymane ก็ได้นำประชาชนของเขาลี้ภัยไปยัง “Stormglen” หลังจากนั้นเขาและ Godfrey ได้เดินทางไปยัง “Tal’doren” ที่พักของเหล่า Worgen ที่ได้เข้าพิธีของ Night Elves ซึ่งที่นั่น เขาได้พบกับ Crowley และคนของเขาที่กลายเป็น Worgen ซึ่ง Greymane นั้นอยากขอร้องให้ Crowley มาร่วมกับเขาเพื่อทวงคืนเมืองของพวกเขามาจากพวก Forsaken แต่ Crowley ไม่อยากร่วมมือกับ Greymane และ Godfrey โดยเฉพาะความคิดของ Godfrey ที่เห็น Worgen เป็นแค่สัตว์ แต่ Greymane แสดงให้เห็นว่า เขามาคุยครั้งนี้ในฐานะผู้เท่าเทียม และ Greymane ก็ได้แปลงร่างเป็นร่าง Worgen ต่อหน้าทุกคน นั่นทำให้ Crowley ตกลงเข้าร่วมกับ Greymane และได้ไปขอความร่วมมือจากเหล่า Night Elves รอบๆ Gilneas เพื่อมาเสริมกำลัง
Godfrey ที่ได้เห็นร่างจริงของ Greymane นั้นรับไม่ได้กับการที่กษัตริย์ของตนเป็นสัตว์ป่า เขาและคนของเขาจึงได้ลักพาตัว Greymane เพื่อส่งมอบให้ Forsaken แต่ Krennen สามารถสังหารคนสนิดของ Godfrey และช่วยเหลือ Greymane ออกมาได้ แต่ Godfrey ที่จนมุมก็ได้บอกว่า เขายอมตายดีกว่าที่จะให้สัตว์ป่ามาเป็นราชาเขา และก็ฆ่าตัวตายไป
Greymane ได้ไปบอกความลับของร่าง Worgen ให้กับลูกเขา ซึ่งลูกเขาก็เข้าใจพ่อของตน และ Greymane ตัดสินใจที่จะให้ผู้คนของเขาได้รู้แล้วว่าเขาก็ติดเชื้อเหมือนกับประชาชนคนอื่นๆ และมันมีทางที่จะช่วยให้คุมสติได้ เหล่าประชาชนจึงกลับมาเชื่อใจและเข้าร่วมกับเขาในศึกโต้กลับใส่พวก Forsaken
ในศึก “Battle of Gilneas City” Greymane ได้นำคนของเขาเข้าโจมตีกองกำลัง Forsaken และเขาได้เข้าปะทะกับ “Sylvanas Windrunner” ผู้นำของ Forsaken แต่ในระหว่างการต่อสู้ Liam ลูกชายของเขาก็ถูก Sylvanas สังหารเพราะเข้ามารับลูกธนูอาบยาพิษแทนพ่อของเขา หลังจากนั้น Greymane, Crowley และ Lorna ก็ได้ฝังศพของ Liam ที่ “Alderic’s Repose” และเมื่อได้ข่าวว่า Sylvanas กำลังจะใช้เชื้อร้ายเข้าโจมตีเมือง Greymane ก็ได้สั่งให้ผู้คนอพยกออกจากเมืองโดยด่วน ซึ่งหลังจากนั้น Crowley และทหารบางส่วนก็ได้ทำการจัดตั้ง “Gilneas Liberation Front” ขึ้นเพื่อพยายามที่จะยึดเมืองคืนจาก Forsaken
เหล่า Night Elves ได้ช่วยเหลือประชาชนของ Gilneas ในการหาเรือเพื่อเดินทางไปยัง “Darnassus” เมืองหลวงของ Night Elves ซึ่งระหว่างทาง Greymane ได้ช่วยชีวิตภรรยาและลูกสาวเขาไว้ด้วยพลังของร่าง Worgen และหลังจากฟังคำแนะนำของเหล่า Night Elves Greymane ก็ได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับ Alliance อีกครั้ง ซึ่งเมื่อเรืออพยกของเขาไปถึง Darnassus “Tyranda Whisperwind” และ “Malfurion Stormrage” ผู้นำของเหล่า Night Elves ได้ตกลงที่จะให้ประชาชนของ Gilneas พักอยู่ในเมือง
หลังจากนั้น กองกำลังของ Crowley ก็ได้ส่งข่าวมาว่า พวกเขาสามารถยึดคืนแผ่นดินหลักมาได้ส่วนหนึ่ง แต่ Geymane เห็นว่าการบุกเข้าเขต “Silverpine Forest” นั้นล้มเหลว และพื้นที่ชายฝั่งยังไม่สงบ เขาจึงยังไม่ตัดสินใจพาคนของเขากลับไปยึดเมืองคืน
เมื่อ Gilneas ได้กลับไปเป็นส่วนหนึ่งของ Alliance แล้ว Greymane ก็ถูกเชิญไปงานเลี้ยงต้อนรับที่ถูกจัดโดยเหล่าตัวแทนของเผ่าต่างๆใน Alliance ซึ่ง Greymane ก็ยอมรับว่า การปลีกตัวออกของเขาในอดีตนั้นเป็นเรื่องผิดพลาดและไม่ควรทำ และเข้าขอบคุณที่ Alliance ได้ให้โอกาสที่สองสำหรับเมืองของเขา ซึ่งงานเลี้ยงนั้นเป็นไปด้วยดี จนกระทั่ง “Varian Wrynn” กษัตริย์แห่ง Stormwind และผู้นำแห่ง Alliance ได้มาถึง ซึ่ง Varian ได้ดูถูกเมือง Gilneas ว่าเป็นพวกขี้ขลาด, อ่อนแอและน่าสมเพช แต่ Greymane นั้นคุมสติของตัวเองแล้วก็บอกว่า คนของเขานั้นเปลี่ยนไปจากอดีตแล้ว และตอนนี้พร้อมที่จะสนับสนุน Alliance อย่างเต็มที่ แต่ Varian ยังไม่พอใจที่ Gilneas ละทิ้ง Alliance ในสมัย Third War และปฏิเสทที่จะมีส่วนร่วมใดๆกับ Gilneas
ถึงแม้ว่า Varian จะทำตัวแบบนี้ แต่ Greymane ก็สังเกตเห็นบางอย่างอยู่ในเงาของ Varian ซึ่งจริงๆแล้ว ในเงาของ Varian มีเงาของหมาป่าตัวใหญ่ซ้อนทับอยู่ ซึ่งหมาป่าตัวนั้นก็คือ “Goldrinn” เทพหมาป่าที่เสียชีวิตไปในสมัย “War of The Ancient” และเป็นต้นกำเนิดของร่างหมาป่าที่พวก Druid ไม่สามารถควบคุมได้และกลายเป็น Worgen นั่นเอง Greymane จึงยังคงมีความหวังที่ว่า Varian จะยอมรับพวกเขา เขาแค่ต้องหาวิธีให้ Varian ควบคุมโทสะในกายของเขาให้ได้ซะก่อน
ระหว่างการพบปะกัน Greymane ได้ทำการสาธิตพลานุภาพของทหาร Worgen แห่งเมือง Gilneas ให้เหล่าผู้นำต่างๆได้เห็น ซึ่งผู้นำของ Alliance ต่างๆก็เห็นด้วยว่า พลังและความสามารถของ Worgen นั้นมีประโยชน์กับฝั่ง Alliance อย่างมาก และเห็นด้วยกับการที่ Gilneas จะเข้าร่วมกับ Alliance อีกครั้ง แต่ในตอนนั้นเอง Varian ได้ประกาศว่า เขาไม่อาจให้อภัยหรือหลงลืมเหตุการณ์ที่ Gilneas ทิ้ง Alliance ให้ดิ้นรนด้วยตนเองในสมัย Third War และเขาจะไม่ยอมให้ Alliance มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Gilneas ไม่ว่าในทางไหนก็ตาม นี่นับว่าแทบจะทำลายความหวังทั้งหมดที่ Gilneas จะเข้าร่วมกับ Alliance เลย ซึ่ง Greymane ก็ออกจากการประชุมนั้นด้วยความผิดหวังและโมโหในตัวของ Varian
หลังจากนั้น Malfurion ได้จัดให้ Greymane และ Varian ไปล่าหมูป่าด้วยกัน ซึ่ง Varian พยายามที่จะดูถูกและเยาะเย้ย Greymane ด้วยการพิสูจน์ว่าเขานั้นเป็นนักล่าที่เก่งกว่า แต่ในระหว่างการล่านั้น ผู้ติดตามของ Greymane ถูกโจมตีด้วยหมีขนาดยักษ์ ซึ่ง Greymane และ Varian ได้ร่วมมือกันเพื่อสังหารหมียักษ์ตัวนั้น ซึ่งเมื่อจัดการสำเร็จ Greymane และผู้ติดตามของเขาก็พยายามที่จะขอบคุณและให้เกียรติในการล่า แต่ Varian ไม่รอดูและเดินออกจากป่าไป
หลังจากที่ Varian ได้ทำการมองดูและทบทวนการกระทำของตนเอง+การเตือนสติอย่างแรงจากลูกของเขา “Anduin Wrynn” Varian ก็ได้มุ่งหน้ามาหา Greymane เพื่อขอให้เขาแนะนำวิธีในการสงบโทสะในกายของตน Greymane จึงได้พาเขาไปยัง “The Howling Oak” ที่ที่เขาได้แสดงให้ Varian เห็นถึงพิธีกรรมของพวก Night Elves Druid ในการสงบโทสะของสัตว์ป่า แต่ Greymane ก็เตือนว่า ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถผ่านพิธีกรรมนี้ได้ บางคนนั้นคลุ้มคลั่งและถูกความบ้าคลั่งของหมาป่าเข้าครอบงำจนพวกเขาจำเป็นต้องจัดการลง แต่ Varian ก็ยังยืนยันที่จะเข้ารับพิธีนี้อยู่ดี
ระหว่างพิธี Greymane ได้สอน Varian ให้ระลึกถึงสิ่งที่เขาเคยกระทำลงไป สิ่งที่เขาได้เลือกทำ และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น และหลังจากที่ Varian ผ่านพิธีกรรมและสามารถควบคุมโทสะของตนได้ Greymane และคนของเขาก็ได้ยินเสียงหอนของ Goldrinn และสามารถสัมผัสได้ว่าพลังของ Goldrinn นั้นสถิตอยู่ในตัวของ Varian และ Varian ได้ประกาศให้ Greymane นั้นรวบรวมเหล่า Worgen ของเขาเพื่อมาร่วมกับ Alliance ในการต่อสู้กับ “Garrosh Hellscream”
ในตอนนั้นเอง Garrosh ได้นำทหาร “Kor’kron” ของเขาเข้ามาบุกเขตป่า “Ashenvale” ของพวก Night Elves ซึ่ง Varian และ Greymane ได้รวบรวมบรรดากองทัพมนุษย์และ Worgen เพื่อเข้าสู้กับกองทัพของ Garrosh ที่ได้ทำการบังคับให้ “Magnataur” สัตว์ร้ายขนาดมหึมาจากดินแดน “Northrend” มารบให้ The Horde ซึ่ง Greymane ได้นำ Worgen ของเขาเข้าโค่นล้มสัตว์ร้ายตัวนี้ และด้วยการมาของ Varian และกองกำลัง Worgen ทำให้ศึกนี้ Alliance เป็นฝ่ายชนะและ Garrosh จำต้องล่าถอยออกไป
หลังจากที่ชนะศึกครั้งนั้น Varian ได้ทำการเรียกประชุมเหล่าผู้นำของ Alliance ครั้งที่สอง เพื่อประกาศว่า Alliance จะยอมรับ Gilneas เข้ามาเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ และด้วยความร่วมมือของเหล่า Worgen นั้น จะทำให้ Alliance สามารถฝ่าฟันภัยต่างๆที่ Garrosh และ “Deathwing” ได้ก่อขึ้น หลังจากนั้น Greymane ก็ได้เดินทางไป Stormwind ในฐานะที่ปรึกษาของ Varian
ในนิยาย “Warcrime” Greymane นั้นได้เข้าร่วมในการพิพากษา Garrosh ซึ่งเขาได้เลือกที่จะใช้ร่าง Worgen เพื่อให้ The Horde ได้รู้ว่า ฝั่ง Alliance ก็รู้จักความป่าเถื่อนและดุร้ายเช่นเดียวกัน
ในภาค Legion นั้น Greymane ได้ร่วมในศึกที่ "Broken Shore" เคียงข้าง Varian และเหล่านักผจญภัยของฝั่ง Alliance โดยที่พวกเขาบุกไปด้านหน้า ส่วนกองกำลังของ The Horde ที่นำโดย "Vol'jin" และSylvanas จะมุ่งหน้าขึ้นไปบนหน้าผา เพื่อคุ้มกันให้จากทางด้านบน
แต่ทว่า กองกำลังของ The Horde ถูกตลบหลัง และ Vol'jin ก็ถูกแทงจนบาดเจ็บสาหัส ทำให้ Sylvanas จำเป็นต้องล่าถอย ซึ่ง Greymane นั้นคิดว่า The Horde ทรยศพวกเขา จึงจำต้องล่าถอย
https://www.youtube.com/watch?v=HerNdsh_H-g
แต่ทว่า ยานบินของพวกเขาถูก "Fel Reaver" จับเอาไว้ Varian ที่รู้ว่า ต้องหยุดเจ้านี่ให้ได้ จึงได้ฝากจดหมายให้ Greymane ไปมอบให้กับ Anduin และกระโจนลงไปจัดการกับ Fel Reaver แต่ตัวของเขาก็ถูก "Gul'dan" สังหาร โดยที่ Greymane นั้นมองดูอยู่บนเรือ และโห่ร้องคำรามออกมาอย่างโศกเศร้า
เมื่อกลับมาที่ Stormwind นั้น Greymane ได้ฝากจดหมายให้กับเราเพื่อไปมอบให้กับ Anduin เพราะเขามิอาจสู้หน้า Anduin ได้ ณ ตอนนี้ ซึ่งถึงแม้ผู้นำของฝั่ง Alliance หลายคนจะรู้ว่า ควรจะจัดการกับ "Burning Legion" ก่อน แต่ Greymane เป็นหนึ่งในไม่กี่คน ที่มีความแค้นเป็นส่วนตัวกับ Sylvanas และต้องการที่จะล้างแค้น
หลังจากนั้นไม่นาน Greymane และกลุ่ม "SI:7" ได้รวมตัวกันบนยานบินที่กำลังจะมุ่งหน้าไปยัง "Stormheim" โดยมีภารกิจหลักในการสนับสนุนนักผจญภัย(ผู้เล่น)ในการจัดการกับบททดสอบของดินแดนแห่งนี้
แต่ภารกิจแบบไม่เป็นทางการก็คือ พวกเขาได้พบว่า Sylvanas นำกองกำลังจำนวนหนึ่งมาที่ดินแดนนี้เพื่อค้นหาอะไรซักอย่าง ซึ่งงพวกเขาได้รับคำสั่งให้ตอบโต้ถ้าเกิดจำเป็น แต่พวกเขาตั้งใจจะเปิดฉากโจมตีกองกำลังของ Sylvanas ก่อน
จากศึกครั้งนั้น ทั้งกองเรือของ Sylvanas และยานบินของ Greymane ก็ล่มลง ณ ดินแดนนี้ทั้งคู่ แต่ Greymane ได้ไปตั้งฐานที่มั่น ณ "Greywatch" เพื่อเตรียมพร้อมในการจัดการกับกองกำลังของ Sylvanas
Greymane ได้พบว่า Sylvanas พยายามที่จะเข้าไปในวิหารของ "Eyir" ที่เหล่า "Shieldmaiden" แห่งดินแดนนี้บูชา ซึ่ง Eyir มีพลังในการเปลี่ยนวิญญาณคนตายให้กลายเป็น "Val'kyr" ซึ่ง Sylvanas ต้องการที่จะชิงพลังนี้มา แต่ Greymane ได้เข้าไปขัดขวาง ซึ่งถึงแม้เขาจะถูกลูกธนูอาบยาพิษยิงเข้าใส่ แต่เขาก็ขัดขวางแผนการของเธอได้
https://www.youtube.com/watch?v=eQ2m03Rgj5A
Greymane ได้พักฟื้นจากอาการบาดเจ็บอยู่ซักพัก จนกระทั่งถึงเหตุการณ์ที่ "Army of Legionfall" ได้ทำการบุก "Broken Shore" อีกครั้ง ซึ่งเราได้พบกับเข็มทิศที่ Anduin มอบให้ Varian ก่อนไปทำศึก ซึ่งเราได้นำมันไปมอบให้กับ Anduin
หลังจากนั้น Greymane ได้เรียกตัวเราไปพบ เพราะเข็มทิศนั้นทำให้ Anduin นั้นเอาแต่ขลุกตัวอยู่ในโบสถ์ในเมือง ซึ่งเราก็ได้ไปหาเขา และติดตามเขาไปในการค้นหาคำตอบของ Anduin
หลังจากนั้น Greymane ได้ไปยัง Broken Shore ณ จุดที่ Varian เสียชีวิตลง และในตอนนั้นเอง Anduin ได้ไปที่นั่นพอดี ซึ่งเขาได้พบกับดาบของพ่อของเขา และเข้าใจแล้วว่า พวกเขาสู้ไปเพื่ออะไร และเขาต้องทำในสิ่งที่กษัตริย์ต้องทำ นั่นทำให้เขาได้ความมั่นใจกลับคืนมา
https://www.youtube.com/watch?v=THSowKTA61Q
หลังจากที่จบศึกกับ Burning Legion แล้ว Anduin ก้ได้มาประกาศชัยชนะ ณ เมือง Stormwind โดยมี Greymane คอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ แต่ ณ ตอนนั้นเอง "Spymaster Mathias Shaw" ได้เข้ามาหา และแจ้งข่าวเกี่ยวกับการขุดแร่ประหลาดที่เหล่า Goblin กำลังทำ ณ "Silithus" ซึ่ง Greymane และ Anduin ก็เห็นด้วยว่าควรจะไปตรวจสอบ
https://www.youtube.com/watch?v=OD1c_4BTrpU
นอกจากนั้น ในศึกที่ Alliance บุกยึดเมือง Lorderon คืนมาจากเหล่า Undead นั้น Greymane ก็ได้ร่วมสู้รบอยู่เคียงข้าง Anduin อีกด้วย และดูเหมือนว่า เขาน่าจะมีบทบาทสำคัญในภาค "Battle for Azeroth" ที่กำลังจะมาถึงด้วยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=jSJr3dXZfcg
「jaina proudmoore」的推薦目錄:
jaina proudmoore 在 Mikot Facebook 的精選貼文
The costume are finished (finally)
衣服終於做完啦!
Surprised!
I will be attending Blizzard's press conference today,
as Jaina Proudmoore!!
呼呼呼~今天將cos Jaina 參加暴風雪記者會喔!
And it's not Janna!
猜Janna的快去面壁!
Just kidding XD
a model will wear this Jaina costume I made
開個玩笑
Jaina的衣服是做給別人穿的XD
Let's play guess how long dose it take to make this costume
有人想猜猜這套花了多久做完嗎?