"หนังมันว่างเปล่าเหมือนทะเลทรายที่เป็นโลเคชัน..." -แมค 2020
(บทความโดย มิค)
ตั้งแต่วันที่เห็นประกาศการสร้างหนังเรื่องนี้ พร้อมกับชื่อของ Paul W. S. Anderson ก็รู้แล้วว่าวันนี้จะต้องมาถึง ทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าหนังที่กำกับโดยผกก. คนนี้จะเป็นยังไง ซึ่งผมก็ไม่ว่า ที่ Capcom จะเลือก ผกก คนนี้อีกครั้งเพราะรายได้ที่ได้จากหนัง Resident Evil นั้นไม่ใช่น้อยๆเลยทีเดียว
แต่ความจริงก็คือ ทุกคนไม่ได้แห่ไปดู Resident Evil เพียงเพราะว่ามีชื่อของ Paul W. S. Anderson อยู่บนปก แต่ทุกคนไปดูเพราะว่ามันเป็นหนัง Resident Evil ต่างหาก (จริงๆผมว่าสามภาคแรกก็สนุกดีนะแต่หลังจากนั้นเริ่มเละ) สำหรับ Monster Hunter ก็ไม่ต่างกัน สำหรับแฟนๆมอนฮันแล้ว แค่คิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นมอนส์เตอร์ที่ชอบในจอเงินแบบเต็มตาอลังการก็ทำให้อยากดูแล้ว แล้วจากชื่อของ ผกก ทุกคนก็รู้กันอยู่แล้วว่ากำลังจะได้ดูหนัง เกรดบี ดูสนุก ปิดสมอง CGสวยดี เนื้อเรื่องคืออะไร ซึ่งสำหรับหนังของ ผกก.คนนี้นั้น ทุกคนก็คง "ก็รู้กันๆอยู่" ... เอาจริงๆหนังของ ผกก.คนนี้ ถ้าไม่มี IP หนุนหลัง จะมีคนไปดูไหมนะ?
วันที่ผมได้ไปดูหนังเรื่องนี้พร้อมพี่แมคก็เตรียมใจไว้แล้ว ปรับลดความคาดหวังให้น้อยที่สุด เปิดสมองพร้อมรับแล้ว มาเรยคร้าบ... แต่! ด้วยความที่ผมเองเป็นแฟนเกมมอนฮันมานานตั้งแต่ภาคแรก บวกกับชอบอ่านเนื้อเรื่อง+ทำคลิปของจักรวาลมอนฮันอีก จะให้ปิดสมองร้อยเปอร์เซ็นก็คงไม่ได้ เพราะงั้น! รีวิวนี้จะมาจากมุมมองของแฟนบอยเกมมอนฮัน ความรู้สึกวันนั้นเหมือนตอนสมัยเรียน เวลาอาจารย์ประกาศคะแนนสอบอะ คือไม่อยากดูเพราะตัวเองอาจจะตกก็ได้ แต่ก็อยากดูเพราะในใจก็ลุ้นเหมือนกันว่ามันอาจจะออกมาดีก็ได้....(ก็เป็นแฟนมอนฮันอะนะ ก็อยากให้หนังมันได้ดี) แต่ตอนที่เห็นโลโก้ MH จากภาค World ในโรงหนังนี่ขนลุกเลยนะเหมือนตอนที่เห็นโลโก้ของ Blizzard ในโรงตอนไปดู Warcraft
หนังเปิดตัวด้วยความเร็วสูงมากแบบว่า "ขึ้นมาสิยะนังบ้านนอก! เราจะไป Isekai กัน!" แล้วก็ฟ้าววววว อยู่โลกมอนฮันละ คือก็ดีแหละคนดูเขาอยากดูมอนไวๆอยู่ละ แต่การ Edit แม่ง ซิ่งมากกกก (ตอนแรกก็นึกว่าเพราะตัดซีนที่โดนแบนที่จีนออกไปรึเปล่า แต่ไม่ใช่) ตัวละครนึงยังพูดไม่จบก็ตัดไปหน้าอีกคนแล้วก็อีกคน เหมือนเวลาเล่นเกมแล้วกด skip บทพูดตัวละครรัวๆ ที่อยากบ่นก่อนเลยคือฉากสโลว์โมชันของหนังที่ใช้บ่อยจนปวดหัว เหมือนกับว่า ผกก ทำเป็นอยู่แบบเดียวและภูมิใจกับการสโลว์นี้มาก จะใช้ให้เยอะที่สุดเท่าที่ใช้ได้ ถ้าเห็นรถฮัมวี่ในฉากเมื่อไหร่รู้ไว้เลยว่าฉากสโลว์กำลังมา
บทตอนแรกก็ไม่มีอะไรหรอก ตัวละครทุกคนจะพยายามบิวด์ให้คนดูเชื่อว่า มิลล่า โจโววิช เป็นทหารแบบโคตรเก่งซุปเปอร์แบดแอส "โอจีซัส ทำไมเธอโหดขนาดนี้" หรือ "ไม่ต้องกลัว หัวหน้าจะพาเรากลับบ้านได้แน่นอน" จนทำเอาสงสัยว่าที่ชมเยอะเพราะเป็นเมีย ผกก. ใช่ไหม ส่วนตัวนางเอกมิลล่าโจโววิช ก็แสดงเป็น... เออ.. เป็นมิลล่าโจโววิชที่อยู่ในทะเลทราย... ทหารผ่านศึกสุด Dark ไม่พูดมาก แต่หลังจากโดน Isekai ได้ไม่นาน เดียบอสก็มาบุก อันนี้ตอนที่เดียบอสโผล่ออกมาครั้งแรกแล้วก็คำรามแบบเสียงสะเทือนโรง ผมนี่สตั๋นเหมือนโดนเองในเกมเลย ยิ่งใหญ่มาก เป็นฉากที่ถ้ามีใครถามว่าดูหนังเรื่องนี้คุ้มสุดตอนไหนคือฉากนี้ และนี่ก็คือจุดพีคของหนัง................เพราะหลังจากนี้ทุกๆอย่างกำลังจะดิ่งลงด้วยความเร่งระดับคงที่
ฉากไปเจอแมงมุม(Nerscylla) ตรงนี้อยู่ดีๆก็มีฉากชวนแหวะ คือเข้ามาดูมอนฮัน ไม่ได้คิดว่าจะได้มาดูหนังเอเลี่ยน ฉากนี้ทำให้รู้สึกเหมือนว่าจริงๆแล้ว ผกก อยากทำหนัง Resident Evil ต่อมากกว่าแค่ Capcom ไม่ให้แล้ว เลยมาทำในมอนฮันก็ได้ แต่ขอใส่ฉากแหวะหน่อย (หรืออาจะอยากทำ Event Horizon ต่อ... ซึ่งถ้าทำก็ดูนะ)
ข้ามฉากไปต่อ (ข้ามเยอะๆจะได้ไม่สปอยมาก) มิลล่าโจโววิช vs. พี่จา สู้กันนานมาก ฉากบู๊ก็ระดับพี่จาเล่นท่ายากได้หมด สิ่งที่ไม่เชื่อคือ มิลล่าโจโววิช ยังไม่ตายหลังจากโดนพี่จาอัดหนักมาก กระเด็นชนหินชนกำแพง แต่ก็ไม่ได้รับดาเมจใดๆ
เอ็ะ พิมพ์ไปพิมพ์มาไม่ใช่รีวิวละเหมือนมาสปอยหนัง บอกตรงๆพิมพ์ด้วยความโกรธที่หนังเรื่องนี้มาทำชื่อเสียให้มอนฮัน ไม่ใช่ตรงเนื้อเรื่องนะตรงนี้ไม่ขัด หมายถึง บท pacing ตัวละคร ทุกอย่างยกเว้น CG เละหมด โดยเฉพาะครึ่ง ชม. สุดท้ายของหนัง
คือมันก็จะมีหนังบางเรื่องที่แย่มากๆจนมันข้ามไปเขตหนังดีซะงั้น แนว So bad it's good แต่สำหรับเรื่องนี้มันมีแต่ Bad อย่างเดียวน่ะสิ โกรธที่สุดคือคนที่ไม่เคยเล่นมอนฮันมาก่อนพอมาดูเรื่องนี้อาจจะคิดว่า อ๋อ มอนฮันมันเป็นแบบนี้นี่เอง...
จริงๆยังมีให้พูดอีกเยอะ พอละ คนทำหนังยังไม่แคร์แล้วเราจะแคร์ทำไม ตอนแรกว่าจะทำวีดีโอรีวิวด้วย แต่คิดไปคิดมาไม่อยากยุ่งกับหนังเรื่องนี้ละ คิดซะว่ามันไม่มีจริง เหมือนกับ Pacific Rim Uprising ละกัน
สรุป
1 คะแนนให้เดียบอส
1 คะแนนให้พี่จา
2/10
(ตัดจบรีวิววแบบงงๆ เหมือนกับที่หนังตัดจบเอง😏)
[สปอย] ใครที่จะเข้าไปดูมอน Gore Magala ที่เห็นอยู่ในโปสเตอร์โปรโมตละก็ ต้องขอโทษด้วย โผล่มาปุ็ปเครดิตจบมาปัป เขาเอาไว้หลอกคุณเข้าไปดู ดูจบนึกว่าดู Fan Film เอาตรงๆเคยดู Fan Film ที่ทำได้ดีกว่านี้อีก แล้วเนื้อเรื่องเละขนาดนี้ ยังกล้าทำ Post Credit มา Tease ภาคต่อไปอีก
ส่วนพวกตัวละคร npc อื่นก็โผล่มาตายโง่ๆหมด ก็เหมือนกับฉากแมวทำกับข้าวอะ เอามาเป็นแฟนเซอวิสเฉยๆ หมดประโยชน์ก็ตายซะเถอะ (มึงจะทำงี้กับ Serious Handler ของกุงี้ไม่ได้ - แมค 2020)
