關於 design system architecture ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

In 2017, FUJIFILM launched the first medium format camera - GFX50S, and finally launched GFX50S II today after 4 years waiting. Although the second generation is used along the same 50MP Sensor, it is replaced by the GFX100S body design. The T125 is replaced with a new battery W235, and the power is multiplied; also used the same X-Processor 4 like GFX100S too, so that made the system is integrated; With the new design of GFX100S 5-axis 6 stops IBIS, equipped with specific lenses, the stabilisation can go up to 6.5 stops.

Once I was a user of the GFX50S, I was introduced to the X-Photographer team when GFX series was launched, . The impression of this machine is particularly profound. In the past week of using the prototype GFX50Sii, i have a little experiences would like to share.

The picture quality of this machine is absolutely unquestionable, although there is no 100S BSI Sensor focusing system that fast, but it is clearly improved with the first generation 50S focus system, especially in low light environment. The eye's focus sensitivity is also more than whole GFX50 series, there is no high speed and slow continuous shooting but 3shots pre second, and the picture is as detailed with the GFX50S.

The Dynamic Range of GFX50S II only have 12stops (GFX100S 14stops), RAW file is only 14-bit (GFX100S Up to 16-bit), but it is actually very sufficient for general users. Since 50S II has an IBIS system, the Pixel Shift function is retained, and can merge up to 200MP image, which is suitable for products, landscapes, and architecture photograph.

Due to the previous generation of sensor, the filming system can only reach 1080p 30fps, there is no 4K shooting. If you want to do video with this camera, you should consider it.

The price will be cheaper than GFX50R when it first released, I believe it will become the most attractive "entry" medium format camera in the market!

JPG file editied with Capture One Pro 21
Lighting by Profoto B10 LED with OCF Gel kit

Fujifilm UK & Ireland Fujifilm Global Fujifilm X Series US FUJIFILM Hong Kong Fujifilm X Singapore FUJIFILM Malaysia Fujifilm Philippines Fujifilm Danmark FUJIFILM X WORLD

🔥 “ชอบเรียนวิชา Database ชอบเขียนภาษา SQL ทำอาชีพอะไรได้บ้างคะพี่ ?”
.
มีน้อง ๆ หลายคนถามคำถามเหล่านี้เข้ามา หลังจากโพสต์ที่แล้วแอดได้รวบรวมอาชีพของเด็ก IT ที่ไม่ได้มีแค่โปรแกรมเมอร์...ซึ่งมันก็ยังมีอีกสายอาชีพของเด็ก IT ที่เป็น Database Lover เอาเป็นว่าน้อง ๆ คนไหนที่ตอนเรียนชอบวิชา Database ชอบเขียน SQL มาดูสายอาชีพที่เหมาะกับความชอบของเรากันดีกว่า…
.
มีอาชีพอะไร ? แต่ละอาชีพทำอะไรบ้าง ? หากพร้อมแล้วไปดูกันเลย !!
.
🌟 Database Administrator
.
ผู้ดูแลระบบฐานข้อมูล มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบฐานข้อมูลทั้งหมดภายในองค์กร ด้วยการพัฒนา ออกแบบ และใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพ และดูแลความปลอดภัยของการจัดเก็บข้อมูลนั่นเอง คือดูทั้งกระบวนการตั้งแต่ติดตั้ง สร้าง มอนิเตอร์ รวมไปถึงถ้ามีปัญหาก็ต้องเข้าแก้ไขได้ทัน ! ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีความต้องการสูง และเงินดีมาก 💵
.
⚙️ ส่วนสกิลสำคัญที่ต้องมี ได้แก่ Database Design, กระบวนการ ETL, ภาษา SQL, Database Security และต้องรู้จักวิธีใช้งานฐานข้อมูลเบื้องต้นอย่างเช่น Oracle, MySQL, และ Microsoft SQL Server (อันนี้ก็แล้วแต่บริษัทนะว่าเขาใช้ฐานข้อมูลของอะไร)
.
🌟 Database Developer
.
เป็นอาชีพที่ต้องออกแบบ พัฒนาโปรแกรม ปรับแต่งฐานข้อมูล และเสนอแนวทางในการเลือกใช้ฐานข้อมูลให้ตรงตามความต้องการขององค์กร มีหน้าที่ตั้งแต่ออกแบบฐานข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหา รวมไปถึงรักษาความสมบูรณ์ของข้อมูลนั่นเอง
.
⚙️ ส่วนทักษะสำคัญที่ต้องมี ได้แก่ Database Design, ภาษา SQL ขั้นสูง, การใช้งานฐานข้อมูล ( Oracle, MySQL, และ Microsoft SQL Server อย่างใดอย่างหนึ่ง), รู้จักโครงสร้างของข้อมูล, และการติดตั้งหรือกำหนดค่าต่าง ๆ ในฐานข้อมูล
.
🌟 SQL Developer
.
อาชีพที่เหมาะกับน้อง ๆ ที่ชอบเขียน SQL เป็นชีวิตจิตใจ ❤️ เพราะเขาต้องใช้ภาษานี้ในการสร้างและจัดการข้อมูลในฐานข้อมูลนั่นเอง อาจจะไม่ต้องไปดูแลฐานข้อมูลทั้งระบบเหมือน DBA แต่จะเน้นไปที่กระบวนการพัฒนาฐานข้อมูล ใช้หลักการ CRUD (Create, Read, Update, และ Delete) เพื่อจัดการกับข้อมูล และรวมไปถึงการเชื่อมต่อฐานข้อมูลกับภายนอก เช่น Web หรือ Application ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ Job Description ของบริษัทนั้น ๆ ด้วยนะ
.
⚙️ ทักษะสำคัญที่คนอยากทำงานสายนี้ต้องมี ได้แก่ ภาษา SQL ขั้นสูง, วิธีใช้งานฐานข้อมูล, Data Modelling, และ Database Design เป็นต้น
.
🌟 ETL Developer
.
เป็นอาชีพที่ใช้กระบวนการ ETL (Extract Transform Load) มาเพื่อจัดการกับข้อมูลไม่ว่าจะเป็นการดึงข้อมูล ตรวจสอบคุณภาพ จัดสรรข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบเดียวกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ง่ายต่อการใช้งาน เพื่อนำข้อมูลนั้นไปตัดสินใจทางธุรกิจ หรือนำไปวิเคราะห์ต่อได้ง่าย ซึ่งอาชีพนี้อาจจะไม่ได้เน้นที่การดูแลจัดการ Database โดยตรง แต่จะเน้นการจัดการกับข้อมูลมากกว่า ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องมีทักษะการเขียนโปรแกรม เช่น ภาษา Python เพื่อใช้จัดการกระบวนการ ETL นั่นเอง
.
⚙️ ทักษะสำคัญที่ต้องมี ได้แก่ การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น เช่น Python, Java, และ C# เป็นต้น, เชี่ยวชาญกระบวนการ ETL, System Architecture, Data Management
.
🌟 Data Analyst
.
แปลตรง ๆ ก็คือ “นักวิเคราะห์ข้อมูล” มีหน้าที่นำข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยการใช้เครื่องมือและสูตรทางสถิติ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่นำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ หรือจัดทำกลยุทธ์ทางธุรกิจ อาจจะเป็นอาชีพที่ต้องใช้ประสบการณ์ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผสมกับความรู้ทางด้านสถิติและธุรกิจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มาแรง และมีความต้องการมากในปัจจุบัน
.
⚙️ ทักษะสำคัญที่ต้องมี ได้แก่ พื้นฐานทางคณิตศาสตร์และสถิติ, เครื่องมือในการทำงาน เช่น Power BI และ Excel, ภาษาโปรแกรมมิ่งเบื้องต้น เช่น R และ Python, และการใช้งาน Database ภาษา SQL เบื้องต้นเพื่อใช้ดึงข้อมูล รวมไปถึงการทำ Data Visualization นั่นเอง
.
🌟 Data Scientist
.
“นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล” อีกหนึ่งอาชีพที่กำลังมาแรงในยุคนี้ แถมค่าตัวแรงมาก ๆ 🔥 เพราะจำเป็นต้องใช้ทักษะขั้นสูงเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลอย่าง Big Data รวมไปถึงจัดทำงานใหญ่ ๆ อย่าง Machine Learning เพื่อนำข้อมูลที่เป็นผลลัพธ์มาช่วยวางแผนทางธุรกิจ และเข้าใจกลุ่มผู้บริโภค เพื่อนำกลยุทธ์มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคนั่นเอง
.
⚙️ ต้องใช้สกิลและประสบการณ์ขั้นสูงทางคณิตศาสตร์และสถิติ, ความรู้ทางด้านธุรกิจ, Computer Science ในเรื่องของการเขียนโปรแกรม, อัลกอริทึม, และ Data Structure และต้องรู้จักวิธีการใช้งานฐานข้อมูล ทั้ง NoSQL และ SQL เพื่อจัดเก็บและดึงข้อมูลมาใช้งานนั่นเอง
.
และทั้งหมดนี้คืออาชีพของสาย Database ที่แอดได้รวบรวมมาให้ อาจจะมีสายงานอื่น ๆ นอกจากนี้อีกนะ
.
น้อง ๆ หรือเพื่อน ๆ คนไหนอยากทำอาชีพอะไรกันบ้าง ? หรือพี่ ๆ คนไหนที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับสายงานพวกนี้ มีอะไรอยากจะแชร์ สามารถมาพูดคุยกันได้ในคอมเมนต์ด้านล่างได้เลยน้าาาา 🥰
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน

［ASML Recruiting］ IC Design Engineer

The job is located in Hsinchu/Tainan that could work on the advanced analog and mixed signal ASIC for next generation electron detection channel for the leading edge e-beam inspection and metrology systems with work life balance.

The following are the Job Descriptions for this opportunity
• Develop the functional blocks of high-speed Analog-to-Digital Converter (ADC) and/or Phase-Locked Loop (PLL) in ASIC for the detection channel of electron beam inspection tools, including:
• Define the design specifications of the Read-Out Integrated Chip (ROIC) or chipset based on product roadmap and System Performance Specifications (SPS) defined by system engineer.
• Develop new circuit architecture and technical solutions for next generation ASICs in detection channel, including feasibility study, schematic design, pre-layout simulation, layout design, and post-layout simulation.
• Cooperate with Printed Circuit Board (PCB) designer to design Evaluation Board (EVB) and with test engineer to test and characterize the ASICs.
• Create Element Design Specifications (EDS) and Test Performance Specifications (TPS) based on detail ASIC design and chip test/verification.
• Cooperate with IC design partner to develop the ASICs for detection channel of of electron beam inspection tools, including:
• Review the detail schematic and layout design, TPS, and test results from our partner during the ASIC industrialization phase.
• Together with the engineering team from the partners, identify design solutions to achieve the specifications of the module/function. Review the design details and simulation results from our partner.
• Support module level and sub-system level integration
• Generate and / or review related IP documents

Provide with more information about the position: D&E - IC Design Engineer - Tainan/Hsinchu - Jobs | ASML
https://www.asml.com/en/careers/find-your-job/2/4/9/de-ic-design-engineer-tainanhsinchu-req24973

English Subtitle Available now !!
...
Design Fun:D อีพีนี้ ... พาไปคุยกับสถาปนิกจาก ‘ตื่น ดีไซน์ สตูดิโอ’ ผู้ออกแบบร้านเกี๊ยวหนองบัว ร้านบะหมี่เก่าแก่กว่า 50 ปีของจังหวัดตราด
งานรีโนเวทร้านอาหารที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น เป็นเรื่องที่ยากท้าทาย และมีความละเอียดอ่อน
สถาปนิกไม่ได้มีหน้าที่ในการออกแบบอาคารให้สวยงาม ฟังก์ชั่นได้ สภาพแวดล้อมดีเท่านั้น
แต่ยังหมายรวมถึงการ Rebranding ภาพลักษณ์ของร้านใหม่ โดยคงเอกลักษณ์และตัวตนเดิมที่อยู่กับร้านมาอย่างยาวนานไว้ด้วย
ลองมาฟังแนวคิดและดูงานออกแบบของตื่นสตูดิโอกันว่า เค้าทำยังไงกับการ 'ปลุกตำนานเกี๊ยวหนองบัว' ขึ้นมาในจังหวัดตราดอีกครั้ง...

ขอขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ : NapLab จุฬาฯ
และขอขอบคุณ
OWNERS : คุณโอ๊ต เพียงหทัย พรรณมณีลักษณ์ และคุณชัช ชัชวาล ทองมโนกูร
ARCHITECT & INTERIOR DESIGN : #ตื่นDESIGNSTUDIO with จิรพล จันทรัตน์ (ซัน) , อรวี เมธาวี (โรส), บุษกร ธนโชติวรพงศ์ (Milk)
BRANDING & CI DESIGN : อ.โอภาส ลิมปิอังคนันต์
LIGHTING DESIGN : Light Is
STRUCTURAL ENGINEER : อนุชิต สีคะปัสสะ
SYSTEM ENGINEER : ดุษฎี ชนะภัย
CONSRUCTION : จิรเดช แสนสวัสดิ์ (พี่เดช)
PHOTO by อรรคพล ธนารักษ์ Ark Tui

ติดต่อ ตื่นสตูดิโอ : https://www.facebook.com/AwakenStu/
email : admin@awakenstu.com

Facebook : http://www.facebook.com/gapthanavate
Instagram : http://www.instagram.com/gapthanavate
Subscribe : http://bit.ly/Youtube_Gapthanavate
ติดต่องานช่อง Gapthanavate : gaptect@gmail.com

#Designfund #gapthanavate #ตื่นสตูดิโอ #awakendesignstudio #เกี๊ยวหนองบัว #ตราด #renovate #รีโนเวทร้านอาหาร #architecture

ชมตัวจริงในงาน ขับทดสอบ All-New Toyota Corolla Cross 2020-2021 โตโยต้า โคโรลล่า ครอส Thailand Test Drive Event

All-New Corolla CROSS …A NEW JOURNEY has 5 unique selling points
1. Design
- A New Outstanding Journey – A New Journey … Reflecting state-of-the-art design
The exterior design uniquely stands out with its stylish and sporty feel yet unveils the sense of luxury in combination with toughness. The car comes with a power moonroof, roof rack, LED headlights and taillights, as well as 18-inch alloy wheels.
- A New Satisfying Journey – A New Journey … Offering ample space for all your needs
The design in the interior represents a seamless work of art with the new Terra Rossa red shade as the interior color, along with the addition of 7-inch Multi Information Display (MID).
2. Performance
- A New Energetic Journey – A New Journey … Showcasing the ultimate powertrain
The 1.8-inch hybrid engine with the most innovative 4th generation hybrid system has been completely developed so that the battery offers greater performance, endurance, and fuel efficiency, while preserving the exciting driving pleasure and superior power of acceleration. For the hybrid engine, the average fuel consumption is only 23.3 kilometer per liter, with the carbon dioxide emission of 98 grams per kilometer. On the other hand, for the gasoline engine, the average fuel consumption is 15.4 kilometer per liter, with the carbon dioxide emission of 150 grams per kilometer.
- A New Confident Journey – A New Journey … Having everything under control in all journeys
With Toyota New Global Architecture (TNGA) and the newly developed torsion beam, the suspension has been largely enhanced for better grip and smooth ride, while improving the balance while driving straight and cornering. All these features substantially help provide drivers with greater agility, confidence, and visibility.
3. Comfort
- A New Convenient Journey – A New Journey … Bringing sheer convenience to all your trips
The All-New Corolla CROSS offers a large luggage space with a maximum capacity of up to 487 liters. Besides, the cabin is distinguished by large doors that make it easy to get in and out, as well as the ample headroom that makes the occupants feel fresh and comfortable. The car also comes with Power Back Door with Activated Kick Sensor that allows greater convenience. Moreover, there are Power Adjustable Driver Seat, Dual-Zone Automatic Climate Control, Rear Seats can be reclined up to 6 degrees, Rear Seat Armrest with Cup Holders, along with Air Vents and USB Outlets for rear passengers.
4. Safety
- A New Protected Journey – A New Journey … Presenting superlative safety standard
The safety features and environmental performance of the All-New Corolla CROSS have been advanced based on the remarkable DNA of Corolla series to ensure driving confidence in all journeys with the world renowned Toyota Safety Sense, for example Pre-Collision System, Lane Departure Alert with Steering Assist, Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist, Automatic High Beam, as well as Panoramic View Monitor, Blind Spot Monitor, Rear CROSS Traffic Alert, and 7 SRS Airbags
5. Connection
- A New Connected Journey – A New Journey … Connecting all lifestyles for sheer confidence, safety, and worry-free experience
With the 9-inch touchscreen compatible with Apple CarPlay together with T-Connect, the vehicle offers flawless connection between itself and the driver, making the journey a moment of happiness and peace of mind, while ensuring that car maintenance will never be a difficult task.

เปิดตัว All-New 2020 Toyota Corolla Altis Sedan (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ซีดาน) เวอร์ชั่นอเมริกา เฉพาะชาวอเมริกัน

CARMEL-BY-THE-SEA, Calif. (Nov. 15, 2018) -- With more than 46 million Toyota Corollas sold globally since its introduction in 1966, it would be difficult to find a driver who did not recognize the name. Everyone, it seems, has a Corolla story. Many, though are going to be doing double takes when they see the re-imagined and reconfigured 2020 Toyota Corolla sedan. And that’s exactly the point.

The 12th-generation Toyota Corolla made its arrival in two chapters: the all-new Corolla hatchback arrived earlier this year, and now comes the current best-selling Corolla body style, the sedan. Both are based on the Toyota New Global Architecture (TNGA), which is far more than a new body structure, bringing together new approaches to engineering, design, assembly, and materials.

TNGA transforms both Corolla styles into drivers’ delights while also bolstering the model’s renowned value and reliability. Both draw from the same DNA and share powertrains. It’s no surprise, then, that the 2020 Corolla sedan dramatically elevates this model’s focus on comfort and refinement while also infusing it with the Corolla hatchback’s feisty personality.

The Corolla sedan’s bold new look is a perfect reflection of the bumper-to-bumper, wheels-to-roof transformation that has taken place. The TNGA platform means an available engine that produces more power than its predecessor yet delivers better fuel efficiency. TNGA imbues the Corolla sedan with greater agility, yet also with its smoothest, quietest ride. TNGA also means an elevated feeling of quality in every surface, switch and control the driver sees and touches. And, critically, TNGA delivers on Toyota’s commitment to driver and passenger safety with the Toyota Safety Sense 2.0 suite of active safety systems – standard on every Corolla sedan model.

Design Transformation
Toyota shook up the midsize sedan ranks with the new-generation Camry, and now the compact sedan segment is in for a jolt with the 2020 Corolla sedan. From every angle, the new Corolla sedan looks lower and leaner, tauter and tighter. Powerful fender flares and generously curved fender top surfaces accent its sculpted, athletic core.

The design team called its working concept “shooting robust,” because they were shooting for a robust, confidence-inspiring stance. Yet, they had to maintain ample space for practical, real-world use. That’s why people buy sedans, after all.

The 2020 Corolla sedan rides on a 106.3-inch wheelbase, like its predecessor, yet any commonality ends there. Corolla sedan’s dynamic performance and stance benefit greatly from wider front (+0.47 in.) and rear (+0.87 in.) track dimensions. The front overhang was shortened by 1.3 in., and the rear overhang extended by more than half an inch. Height was reduced 0.8 in., and the hood lowered 1.4 in. for better forward visibility, made possible by mounting the engine lower. Those changes, plus many others, reduce the center of gravity by 0.39 in. That’s just one part of the transformation that has turned the Corolla sedan into a highly nimble, engaging machine to drive.

The bold front fascia details vary by model grade, with the SE and XSE putting on the sportiest face, including a body-color chin spoiler and aero stabilizing fins to emphasize the wide stance. The slim, J-shaped Bi-Beam LED headlamps wrap deeply into the front fenders and give the Corolla sedan a steely stare and a distinct nighttime signature. The sporty SE and XSE grades use triple J-shaped clearance lamps with LED light guides along with LED turn signals, creating a unique design signature.

The available Adaptive Front-lighting System (AFS) provides a wider field of light and steers the low beam in the direction of the turn, based on steering angle and vehicle speed.

The rear leaves a distinct lighting impression as well, with narrow combination lamps that wrap deeply into the fenders. All 2020 Corolla sedan models use LEDs, the type and style varying by model grade. The sporty grades feature smoked outer light lenses.

What better way to showcase the Corolla sedan’s dramatic new sheet metal than with a dramatic new color? The new hue is a highly iridescent Celestite Grey Metallic. The rest of the palette includes Blizzard Pearl, Super White, Classic Silver Metallic, Black Sand Pearl, Barcelona Red, Blue Crush Metallic and Blueprint.