“Bildungsroman”
In literary criticism, a Bildungsroman (German pronunciation: [ˈbɪldʊŋs.ʁoˌmaːn]; "Bildung", meaning "education", and "Roman", meaning "novel"; English: "novel of formation, education, culture"; "coming-of-age story") is a literary genre that focuses on the psychological and moral growth of the protagonist from youth to adulthood (coming of age), in which character change is important.
E.g. “great expectations” “catcher in the rye” “Norwegian Wood” “Aladdin” “Harry Potter” “#獅子山上”
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「coming-of-age novel」的推薦目錄:
- 關於coming-of-age novel 在 Alex Lam 林德信 Facebook 的最讚貼文
- 關於coming-of-age novel 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳貼文
- 關於coming-of-age novel 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳貼文
- 關於coming-of-age novel 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的精選貼文
- 關於coming-of-age novel 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
- 關於coming-of-age novel 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
- 關於coming-of-age novel 在 54 YA/MG Coming of Age Novels ideas - Pinterest 的評價
coming-of-age novel 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳貼文
A Monster Calls (2016)
เซอร์ไพรส์มาก แม้จะรู้อยู่แล้วว่าหนังแนวนี้ยังไงก็ต้องใช้อสูรกายเป็นสัญลักษณ์เปรียบเทียบแทนอะไรสักอย่าง แต่ไม่คิดว่าจะเล่าได้รุนแรงแทงใจดำถึงขนาดนี้ มันกลายเป็น coming of age ที่สะเทือนใจในความซับซ้อนของมนุษย์ ซึ่งหนังสามารถทำให้เราเชื่อความเป็นสีเทาของมนุษย์ที่ไม่ได้มีแค่ขาวกับดำเพียงด้านใดด้านหนึ่ง อสูรกายในเรื่องจึงเป็นความหมายของการเยียวยาเพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น บางครั้งความจริงเป็นสิ่งที่จะยากทำใจและหลายครั้งเราก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยความในใจออกมา
.
'คอเนอร์' (Lewis MacDougall) เด็กชายวัย 12 ปีกำลังเผชิญความยากลำบากครั้งใหญ่ในชีวิต เขาเป็นเด็กล่องหนที่ไม่มีเพื่อนในโรงเรียนสนใจแถมยังถูกรังแกอยู่บ่อย ๆ ขณะเดียวกัน 'แม่ของเขา' (Felicity Jones) ก็ป่วยเป็นโรคระยะสุดท้ายแต่เขาเชื่อว่าการใช้เคมีบำบัดจะช่วยรักษาอาการป่วยของแม่ได้ในที่สุด ซึ่งจะทำให้เขาไม่ต้องย้ายไปอยู่กับ 'ยาย' (Sigourney Weaver) ที่เข้มงวด จนวันหนึ่ง 'อสูรกาย' (พากย์เสียงโดย Liam Neeson) ได้ปรากฎตัวขึ้นมาเล่านิทานสามเรื่องเพื่อแก้ไขปัญหาชีวิตที่ไม่มีความสุขของคอเนอร์
.
หนังเป็น coming of age ที่เนื้อหาค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่สูงมาก นิทานทั้งสามเรื่องนี่บอกเล่าความซับซ้อนของมนุษย์ได้ดีทีเดียว มันทำให้เราเห็นชัดเจนว่ามนุษย์มีทั้งขาวและดำอยู่ในคนเดียวกัน ซึ่งอสูรกายก็ใช้นิทานดังกล่าวค่อย ๆ ขัดเกลาเด็กที่มองโลกเพียงด้านเดียวให้เริ่มเปิดใจมองเห็นอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเอาตามตรงแล้วเนื้อหานิทานมันถ่ายทอดความซับซ้อนของมนุษย์ได้ดีมาก ๆ อย่างเรื่องแรก 'เจ้าชายกับแม่มด' นี่ก็ทำให้เรามองโลกอย่างเข้าใจว่าคนเราเป็นสีเทา, เรื่องที่สอง 'หมอยา' ก็ทำให้เราคิดใหม่เกี่ยวกับความแน่วแน่ต่อสิ่งที่ศรัทธา และเรื่องที่สามก็ทำให้เราถอยออกมามองภาพกว้างว่าทำไมเด็กคนหนึ่งถึงถูกรังแก
.
**** อาจมีเปิดเผยเนื้อหา ****
จึงพอจะบอกได้อย่างหนึ่งว่าอสูรกายในหนังจริง ๆ แล้วก็คือตัวแทนที่มาเยียวยาปัญหาต่าง ๆ ที่กำลังรุมเร้าตัวคอเนอร์อยู่ ลองนึกภาพเด็กที่มีแม่เป็นที่พึ่งเดียวแต่แม่กลับอยู่ใกล้ความตายขนาดนั้น เด็กคงต้องอยู่ด้วยความกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น กังวลกับอนาคตที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้การแสดงออกต่าง ๆ เริ่มเบี่ยงเบนไปทางก้าวร้าวเพราะเขายังคงยึดติดกับความหวังของการแพทย์ว่าจะช่วยยื้อชีวิตแม่เอาไว้ได้
.
ท้ายที่สุดแล้วข้อตกลงของอสูรกายที่จะเล่านิทานสามเรื่องแล้วให้คอเนอร์เล่าเรื่องที่สี่ของตัวเองจึงสื่อถึงการ speaks the truth หรือพูดความจริงออกมาได้ชวนประทับใจในสิ่งที่หนังต้องการนำเสนอมาก ๆ เป็นฉากที่เซอร์ไพรส์เรา มันทำให้เราตกตะลึงกับเสียงตะโกนบอกความจริงดังก้องเพื่อจะให้เห็นความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ว่าแท้จริงแล้วคอเนอร์อยากให้แม่ตายไปสักทีเพื่อตัวเขาเองจะได้ไม่ต้องทรมานแบบนี้ ซึ่งไม่ใช่ความผิดอะไรเลยเหมือนกับเรื่องเล่าในนิทานเรื่องที่หนึ่งว่าทุกคนล้วนมีขาวและดำอยู่ในตัวที่ทำให้เป็นสีเทา
Director: J.A. Bayona (ผกก. The Orphanage)
novel: Patrick Ness (original idea by Siobhan Dowd)
screenplay: Patrick Ness
Genre: drama, fantasy
8/10
coming-of-age novel 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳貼文
Me and Orson Welles (2008)
ริชาร์ด ลิงค์เลเทอร์ทำหนัง coming of age เก่งจังแฮะ แล้วเขายังเก่งในการทำหนังแนวโหยหาอดีตอีกด้วย ชอบความเป็นหนังวัยรุ่นก้าวพ้นวัยที่ไม่ได้มาสอนกันโต้ง ๆ แต่เนื้อหามันสอดแทรกอยู่ในเนื้อเรื่องได้อย่างแนบเนียน แล้วพอมันมาอยู่ในหนังบอกเล่าเบื้องหลังละครเวทีที่ถอดบุคลิกของออร์สัน เวลส์ สุดยอดผู้กำกับฝีมือเก่งกาจแต่อหังการจึงยิ่งขับเคลื่อนความน่าสนใจของหนังให้ชวนติดตามเหลือเกิน เป็นงานเงียบ ๆ ของลิงค์เลเทอร์ที่อาจจะนับว่า underrated อยู่เหมือนกัน
.
หนังเล่าเรื่องของ 'ริชาร์ด' (Zac Efron) เด็กหนุ่มไฮสคูลที่บังเอิญมีโอกาสได้เข้าร่วมแสดงในคณะละครเวทีของ 'ออร์สัน เวลส์' (การแสดงหนังเรื่องแรกของ Christian McKay) โดยระหว่างเขาฝึกซ้อมจึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดสุดยอดผู้กำกับที่เก่งกาจแต่โอหัง พร้อมปลูกต้นรักกับ 'ซอนย่า' (Claire Danes) ผู้ช่วยโปรดักชั่นที่มีความทะเยอทะยานสูง
.
สิ่งที่ควรรู้คือหนังเรื่องนี้สร้างจากนิยายที่อ้างอิงบุคคลจริง นักแสดงสมทบอาจจะมีความคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง แต่ตัวเอกอย่างออร์สัน เวลส์คือรายละเอียดค่อนข้างเป๊ะ ทั้งอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้น ๆ ลง ๆ, ความหยิ่งยโส, ความหลงตัวเอง, ความทะเยอทะยานจะมีชื่อเสียง ซึ่งทำให้เขาไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนที่ร่วมงานด้วยสักเท่าไร แต่กระนั้นการทำงานกับเวลส์มันคือโอกาสทองของทุกคนที่จะใช้เป็นบันไดไต่เต้าไปสู่ความสำเร็จเช่นกัน
.
ด้วยเหตุนี้เราจึงค่อนข้างชอบที่หนังใช้ความเป็นละครเวทีออร์สัน เวลส์มาขับเคลื่อนความเป็นหนัง coming of age ของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีโอกาสเข้าใกล้จะประสบความสำเร็จในเส้นทางนักแสดงแต่กลับต้องล้มเหลวเพราะสนใจเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ มากกว่า ตัวเอกอย่างริชาร์ดแสดงออกถึงความเป็นเด็กที่โหยหาเรื่องโรแมนติกเพ้อฝันได้อย่างเด่นชัด ทำนองว่าฉันจะ fight for you ฉันไม่สนใจว่ากำลังงัดข้อกับใครรุ่นใหญ่แค่ไหน ผิดกลับบทของซอนย่า สาววัย 30 ปีผู้ช่วยโปรดักชั่นที่รู้ชัดว่าตัวเองต้องการอะไรและทำอย่างไรจึงจะไปถึงจุดนั้น ซึ่งมันเป็นการพาเด็กไฮสคูลคนหนึ่งไปสัมผัสความเจ็บปวดบนโลกความเป็นจริงที่ไม่มีสอนประสบการณ์แบบนี้ในโรงเรียนอย่างแน่นอน
.
และจะว่าไปแล้วในความร้ายของออร์สัน เวลส์ที่หนังถ่ายทอดออกมามันก็มีทีท่าให้ความเคารพอยู่เหมือนกัน เรามีความเห็นว่าการที่หนังเอาบุคลิกและความสามารถของเขามาเล่าอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ได้บิดเบือนอะไรมันคือการแสดงความเคารพอย่างหนึ่ง ตัวจริงของเวลส์ก็จัดเป็นผู้กำกับที่มีความเป็นศิลปินสูงมาก อย่างเช่นเวลาเขาทำหนังก็จะไม่ชอบให้สตูดิโอมายุ่มย่ามแก้ไขอะไรและมักจะขอสิทธิ์ในการเป็นคนตัดต่อขั้นสุดท้าย (เคยมีเคสที่เขากำกับ The Lady from Shanghai มาทั้งเรื่อง แต่ไม่ได้สิทธิ์ตัดต่อขั้นสุดท้ายรวมถึงไม่พอใจเพลงประกอบจึงขอไม่รับเครดิตเป็นผู้กำกับหนังทันที) ดังนั้นภาพเวลส์ที่เห็นในหนังจึงไม่ใช่การป้ายสีเขาแต่อย่างใด แต่คือการดึงความเป็นศิลปินมาขับเคลื่อนบทหนัง coming of age ของริชาร์ด(ตัวละครแต่ง) และใช้ความเป็นศิลปินยกย่องความสามารถของเขาไปในตัว
Director: Richard Linklater
novel: Robert Kaplow
screenplay: Holly Gent Palmo, Vincent Palmo Jr.
Genre: drama
7.5/10
coming-of-age novel 在 54 YA/MG Coming of Age Novels ideas - Pinterest 的推薦與評價
... Explore MrsReaderPants's board "YA/MG Coming of Age Novels", followed by 7241 people on Pinterest. See more ideas about novels, coming of age, ya books. ... <看更多>