ทำไม สหรัฐอเมริกา จึงเป็นประเทศแห่ง อุตสาหกรรมไอที ? ตอนที่ 2 /โดย ลงทุนแมน
“ซิลิคอนแวลลีย์ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นวิธีคิด”
คำกล่าวของ Reid Hoffman ผู้ก่อตั้ง LinkedIn แพลตฟอร์มเครือข่ายธุรกิจในการหางานและผู้ร่วมงาน ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตซิลิคอนแวลลีย์
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ในแง่สถานที่ ซิลิคอนแวลลีย์ คือ พื้นที่หุบเขาราว ๆ 1,500 ตารางกิโลเมตร บริเวณรอบอ่าวซานฟรานซิสโก ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา
ซิลิคอนแวลลีย์ประกอบไปด้วยเมืองน้อยใหญ่ ที่ล้วนเป็นสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของเหล่าบริษัทไอทีชั้นนำระดับโลก โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากคำว่า “ซิลิคอนชิป” ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญที่เป็นหน่วยความจำของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ส่วนในแง่วิธีคิด มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดปลูกฝังการศึกษาด้านอิเล็กทรอนิกส์ให้งอกงาม ไปพร้อม ๆ กับการพัฒนากระบวนการผลิตนักศึกษาให้เป็นนักธุรกิจ
จนนำมาสู่การก่อตั้งบริษัทไอทีระดับโลกแห่งแรกในซิลิคอนแวลลีย์ คือ Hewlett Packard (HP)
หลังจากนั้น หุบเขาแห่งนี้ก็เบ่งบานไปด้วยบริษัทไอที ดึงดูดนักประดิษฐ์และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีจากทั่วโลก ให้เข้ามาสานฝันให้กลายเป็นความจริง
และเมื่อมี “วิธีคิด” ช่วยส่องสว่าง นวัตกรรมทุกอย่างก็จะมีหนทางไป..
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ตอน ทำไม สหรัฐอเมริกา จึงเป็นประเทศแห่ง อุตสาหกรรมไอที ? ตอนที่ 2
ด้วยอาณาบริเวณกว้างใหญ่รอบอ่าวซานฟรานซิสโก ต้นน้ำแห่งนวัตกรรมของซิลิคอนแวลลีย์จึงไม่ได้มีแค่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเท่านั้น
แต่เหนือขึ้นมาราว 50 กิโลเมตร ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกอีกแห่งหนึ่ง นั่นคือ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์กลีย์
มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และสร้างนักประดิษฐ์ วิศวกร ไปจนถึงผู้ประกอบการชั้นยอดมากมาย มาประดับวงการไอที
หนึ่งในนั้นคือ Fred Moore ผู้ก่อตั้งสมาคมคอมพิวเตอร์โฮมบรูว์ สมาคมที่เป็นสถานที่นัดพบของผู้คลั่งไคล้ในโลกของเทคโนโลยี เป็นที่แลกเปลี่ยนทางความคิด
โดยความปรารถนาสูงสุดของผู้คนในสมาคมนี้ คือการสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลขึ้นมาเอง
ในช่วงปี 1975 ที่มีการก่อตั้งสมาคมแห่งนี้
ความสำเร็จของการประดิษฐ์ “ไมโครโพรเซสเซอร์” ที่ย่อส่วนแผงวงจรรวมจำนวนมากเข้ามาอยู่ด้วยกันในชิปขนาดเล็ก
ทำให้ขนาดของเครื่องคอมพิวเตอร์จากที่มีขนาดใหญ่โตเท่าห้อง มีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ ราคาก็ถูกลงเรื่อย ๆ และด้วยหน่วยความจำที่มากขึ้น ความสามารถในการทำงานจึงสูงขึ้นและรวดเร็วขึ้นเป็นทวีคูณ
Steve Wozniak นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ได้ชักชวนเพื่อนสมัยมัธยมที่ชื่อ Steve Jobs ให้มาเข้าร่วมสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งนี้..
Steve Wozniak เป็นผู้คลั่งไคล้ในวิศวกรรมและมีความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้น เคยทำงานให้กับ Hewlett Packard
ส่วน Steve Jobs เป็นผู้มีหัวการค้า มีนิสัยกล้าคิดกล้าทำ เขาเคยทำงานให้กับบริษัทสร้างวิดีโอเกมชื่อ Atari และเคยทำงานในช่วงฤดูร้อนให้กับ Hewlett Packard ด้วยเช่นกัน
Wozniak ได้นำความรู้และประสบการณ์มาทดลองออกแบบคอมพิวเตอร์ด้วยแนวทางของตัวเอง โดยใช้ชิปเท่าที่จะหาได้ มาประกอบกับคีย์บอร์ด QWERTY และมีจอโทรทัศน์เป็นเครื่องแสดงผลในช่วงแรกเริ่ม
และเมื่อออกมาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Jobs ก็เป็นผู้เสนอความคิดให้ลองนำสิ่งประดิษฐ์นี้ออกวางขายในเวลาต่อมา
ผลงานการประดิษฐ์ชิ้นนั้นของ Wozniak ถือเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นแรก ๆ ของโลก เครื่องคอมพิวเตอร์นี้ถูกตั้งชื่อต่อมาว่า “Apple I”
สิ่งสำคัญไม่แพ้การสนับสนุนจากสถาบันการศึกษาก็คือ “เสรีภาพทางความคิด”
ซิลิคอนแวลลีย์ มีสมาคมมากมายที่เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนทางความคิด นำเสนอไอเดีย จึงกลายเป็นวัฒนธรรมที่หล่อหลอมให้คนรุ่นใหม่กล้าคิดกล้าทำ และเติบโตไปบนหนทางสร้างสรรค์ที่ตัวเองตั้งใจ
คอมพิวเตอร์ของ Wozniak ก็ถูกนำเสนอแก่สายตาสมาชิกในสมาคมโฮมบรูว์ในช่วงปลายปี 1975 ซึ่งหนึ่งในผู้เข้ามาร่วมชม คือ เจ้าของร้าน The Byte Shop ร้านขายของเบ็ดเตล็ดและอุปกรณ์ไอที
ที่เกิดความประทับใจกับคอมพิวเตอร์ชิ้นนี้มาก จึงได้สั่งซื้อคอมพิวเตอร์นี้ถึง 50 เครื่อง
แล้วก้าวแรกของบริษัท Apple ก็เริ่มต้นขึ้นในเมืองคูเปอร์ติโน ทางตอนใต้ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในอีก 1 ปีถัดมา..
ใครจะไปเชื่อว่า จากบริษัทเล็ก ๆ ที่มีผู้ก่อตั้งเป็นผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยี 2 คน
ในปี 1980 หลังการก่อตั้งเพียง 4 ปี บริษัทสามารถเติบโตจนเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นในฐานะบริษัทมหาชนได้สำเร็จ และได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ในตอนนี้..
เมื่อมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแล้ว อีกหนึ่งก้าวสำคัญของซิลิคอนแวลลีย์ ก็เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970s
นั่นก็คือ จุดเริ่มต้นของ “อินเทอร์เน็ต”
เมื่อบริษัทไอที ชื่อ Xerox ได้จัดตั้งศูนย์วิจัยในเมืองพาโล อัลโต ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ชื่อว่า Xerox Palo Alto Research Center หรือ Xerox PARC
Xerox PARC ได้เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีเชื่อมต่อ จากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง ในยุคแรกที่มีชื่อว่า ระบบอีเทอร์เน็ต (Ethernet)
อีเทอร์เน็ต ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1973 โดยเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับเครื่องพิมพ์ ผ่านเครือข่ายบริเวณระยะใกล้ หรือเครือข่าย LAN (Local Area Network)
ต่อมาในปี 1978 Vint Cerf ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้ร่วมมือกับ Bob Kahn พัฒนาโพรโทคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol)
ซึ่งโพรโทคอลที่ว่านี้ คือชุดของขั้นตอนและกฎระเบียบ ทำให้ภายในชุดกฎระเบียบเดียวกัน ทั้ง 2 เครื่องจะสามารถเข้าใจระบบของกันและกัน และสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้
โดยเฉพาะเลข Internet Protocol (IP) ที่เป็นการปูรากฐานให้กับโลกของอินเทอร์เน็ต
อุปกรณ์ทุกชนิดที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตจะต้องมีเลขนี้ เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ บนระบบเครือข่ายรู้จักกัน โดย IP จะระบุว่า เครือข่ายต่าง ๆ ควรเชื่อมโยงกันอย่างไร
เมื่อโลกอินเทอร์เน็ตถูกปูรากฐาน ต่อมาในยุค 1980s ก็เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการพัฒนาคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลให้ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น
Doug Engelbart นักวิจัยจากสถาบันวิจัยสแตนฟอร์ด ได้มาทำงานให้ PARC และได้พัฒนาระบบส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ หรือ Graphic User Interface (GUI)
จากคอมพิวเตอร์รุ่นแรก ๆ ที่ใช้งานยากและต้องใช้งานผ่านตัวอักษร
ระบบ GUI ได้เข้ามาช่วยเปลี่ยนการใช้งานให้ง่ายขึ้นผ่านทางสัญลักษณ์หรือภาพ เช่น ไอคอน หน้าต่างการใช้งาน เมนู ปุ่มเลือก รวมถึงการพัฒนา “ตัวชี้ตำแหน่ง X-Y” ซึ่งต่อมาก็คือ “เมาส์”
ทั้งระบบ GUI และเมาส์นี่เอง ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ Steve Jobs นำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาและเกิดเป็น “Macintosh” ในปี 1984 ซึ่งถือเป็น เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องแรก ๆ ที่มีการออกแบบอย่างเข้าใจผู้ใช้งาน
ในเวลานี้ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
ครัวเรือนชาวอเมริกันที่ครอบครองคอมพิวเตอร์เพิ่มจากร้อยละ 5 ในช่วงต้นทศวรรษ 1980s
มาเป็นร้อยละ 20 ในปี 1989
โลกอินเทอร์เน็ตถูกเชื่อมโยงเข้ากับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และเปิดทางให้เกิดการพัฒนา World Wide Web ในช่วงปี 1989 ซึ่งมีจุดเริ่มต้นเมื่อ นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัย CERN ในสวิตเซอร์แลนด์ ต้องการส่งข้อมูลให้กับเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก
World Wide Web, WWW คือ ระบบการเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต จากแหล่งข้อมูลหนึ่ง ไปยังแหล่งข้อมูลที่อยู่ห่างไกลทั่วโลก ให้มีความง่ายต่อการใช้งานมากที่สุด
โดยผ่านซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า “เบราว์เซอร์”
แล้ว “สาธารณชน” ในยุค 1990s ก็เข้าถึงโลกอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรก!
สหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศที่มีผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตสัดส่วนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ในปี 1996 มีชาวอเมริกันเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสูงถึงร้อยละ 16
ในขณะที่หลายประเทศในยุโรปตะวันตกยังเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไม่ถึงร้อยละ 5
การเกิดขึ้นของ World Wide Web ทำให้ย่านซิลิคอนแวลลีย์เริ่มคึกคักไปด้วยบริษัทที่มีโมเดลทำรายได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ที่ถูกมองว่าเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคต ขึ้นมามากมาย
และสิ่งสำคัญที่สุด ที่มีมาตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทไอทีในยุค 1950s คือ ธุรกิจเงินร่วมลงทุน หรือ Venture Capital ดึงดูดให้บริษัทสตาร์ตอัปมากมาย หลั่งไหลเข้ามาใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบเหล่านี้
นักศึกษาปริญญาเอกสาขาคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด 2 คน
คือ Larry Page และ Sergey Brin ได้ร่วมกันพัฒนาโปรแกรมสำหรับใช้ค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตในรูปแบบของ Search Engine
โดยใช้การทำงานของ Robot ที่ชื่อว่า Spider ซึ่งเป็นตัวสำรวจข้อมูล เมื่อพบข้อมูลที่ต้องการก็จะส่งข้อมูลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต้นทาง
ปี 1998 ทั้ง 2 คน ได้ตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “Google” ในเมืองเมนโลพาร์ก และ IPO เข้าสู่ตลาดหุ้นในอีก 5 ปีถัดมา
แล้วก็ไม่ต่างอะไรกับบริษัท Apple เพราะอีก 20 ปีต่อมา บริษัท Google ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Alphabet ก็ได้กลายมาเป็น บริษัทที่มีมูลค่าเป็นอันดับ 5 ของโลก..
แม้ความรุ่งเรืองจากการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ต จะพาซิลิคอนแวลลีย์เข้าสู่การเติบโตที่รวดเร็วเกินไปจนเกิดวิกฤติฟองสบู่ดอตคอมในช่วงก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 จนสร้างความเสียหายหลายบริษัทและนักลงทุนในตลาดหุ้นจำนวนมาก
แต่อย่างไรก็ตาม วิกฤติครั้งนั้น ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการพัฒนาของเทคโนโลยี ณ หุบเขาแห่งนี้ได้
หลังจากวิกฤติไม่นาน ก็มีการพัฒนาระบบ IPv6 ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลน IP ช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น นอกเหนือจากเครื่องคอมพิวเตอร์
ซึ่งปูทางมาถึงการเกิดขึ้นของ “สมาร์ตโฟน” โทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถในการใช้งานมัลติมีเดีย และเชื่อมต่อเข้ากับโลกอินเทอร์เน็ตอย่างไร้รอยต่อ ด้วยระบบ IPv6
หนึ่งในสมาร์ตโฟนที่โดดเด่นที่สุดก็คือ iPhone จากบริษัท Apple ที่เปิดตัวในปี 2007
เช่นเดียวกับ Google ที่ได้เข้าซื้อบริษัท Android และเปิดตัวโทรศัพท์แอนดรอยด์ในปี 2008
และทั้งสองก็แข่งขันกันพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเอง
เมื่อผู้คนเริ่มใช้สมาร์ตโฟนมากขึ้น นำมาสู่การเกิดขึ้นของ “Application” ซอฟต์แวร์ที่ใช้เพื่อช่วยการทำงานต่าง ๆ ของผู้ใช้งาน
โดยแอปพลิเคชัน จะมีส่วนที่ติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface) หรือ UI เพื่อเป็นตัวกลางในการใช้งานให้ราบรื่น
และด้วยความที่ซิลิคอนแวลลีย์เต็มไปด้วย Venture Capital ที่คอยให้เงินทุนสนับสนุนไอเดียล้ำ ๆ
หุบเขาแห่งนี้ จึงยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดบริษัทใหม่มากมาย โดยเฉพาะบริษัทที่จะมาสร้างสรรค์เครือข่ายสังคมออนไลน์..
ปี 2003 LinkedIn เกิดแพลตฟอร์มเครือข่ายธุรกิจในการหางานและผู้ร่วมงาน
ก่อตั้งโดย Reid Garrett Hoffman วิศวกรที่เคยทำงานให้กับ Apple
ปี 2004 เกิด Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานหลายพันล้านคนทั่วโลก
ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการคิดค้นวิธีการเชื่อมผู้คนในรูปแบบใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ของ Mark Zuckerberg พร้อมกับเพื่อนอีก 4 คน
ปี 2006 หลังออกจากมหาวิทยาลัย Jack Dorsey พร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน
ได้ก่อตั้งเครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภท Microblog ที่แสดงข้อความสั้น ๆ ความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษร
โดยคิดค้นชื่อที่มาจากคำว่า Tweet ซึ่งแปลว่าเสียงนกร้อง Logo ของบริษัทจึงเป็นรูปนก และบริษัทนี้มีชื่อว่า Twitter
ปี 2009 เกิด WhatsApp แอปพลิเคชันในการติดต่อสื่อสารด้วยข้อความ ก่อตั้งโดย Jan Koum โปรแกรมเมอร์ที่เห็นประโยชน์จากการเกิดขึ้นของสมาร์ตโฟน
บริษัททั้งหมดล้วนมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในซิลิคอนแวลลีย์
หุบเขาแห่งเทคโนโลยีแห่งนี้ยังคงดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้เข้าไปเติมเต็มความฝัน เพื่อสร้างสรรค์อุปกรณ์ไอทีที่ไฮเทคขึ้นเรื่อย ๆ
และเปลี่ยนแปลงมาสู่โลกของเครือข่ายอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและเชื่อมต่อกันและกัน หรือเรียกว่า “Internet of Things” ที่จะเข้ามามีบทบาทในทุกย่างก้าวของชีวิต
ความสำเร็จของอุตสาหกรรมไอทีที่ทำให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นมหาอำนาจของโลก ล้วนมีที่มาจากหลายปัจจัย
ทั้งระบบการศึกษาที่เข้มแข็ง ที่สร้างองค์ความรู้และช่วยวางรากฐานสู่โลกธุรกิจ
วัฒนธรรมแห่งเสรีภาพ ที่สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่กล้าคิดกล้าทำเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
แหล่งเงินทุน ที่เข้าถึงง่ายและมีหลากหลายรูปแบบ
และเครือข่ายผู้คิดค้นนวัตกรรมที่เติมเต็มความฝันต่อยอดกันไปไม่รู้จบ
หากถามว่า อิทธิพลทางเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาจะคงอยู่อีกนานแค่ไหน ?
เมื่อไรที่มนุษย์จะหยุดฝัน เมื่อนั้นอาจเป็นคำตอบ..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-มิเชลล์ ควินน์, เมื่อซิลิคอนแวลลีย์เติบใหญ่ นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2562
-https://www.parc.com/about-parc/parc-history/
-https://www.internetsociety.org/wp-content/uploads/2017/09/ISOC-History-of-the-Internet_1997.pdf
-https://searchnetworking.techtarget.com/definition/TCP-IP
-https://www.lifewire.com/transmission-control-protocol-and-internet-protocol-816255
-https://tradingeconomics.com/united-states/personal-computers-per-100-people-wb-data.html
-https://www.businessinsider.com.au/highest-valued-public-companies-apple-aramco-biggest-market-cap-2020-1
-https://www.forbes.com/profile/reid-hoffman/#5f276ca61849
-http://startitup.in.th/the-rags-to-rich-jan-koum-whatsapp-co-founder-startup-story/
-https://www.set.or.th/set/enterprise/html.do?name=vc
同時也有4部Youtube影片,追蹤數超過22萬的網紅BorntoDev,也在其Youtube影片中提到,หนึ่งในศาสตร์ที่เป็นความรู้ยุคใหม่ อัพเงินเดือนได้หลักหมื่น หลักแสน กับความรู้ด้าน User Experience หรือ การออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้งาน หลายครั้งเราเค...
「application user interface」的推薦目錄:
- 關於application user interface 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於application user interface 在 國立臺灣大學 National Taiwan University Facebook 的最佳解答
- 關於application user interface 在 โปรแกรมเมอร์ไทย Thai programmer Facebook 的最佳貼文
- 關於application user interface 在 BorntoDev Youtube 的精選貼文
- 關於application user interface 在 BorntoDev Youtube 的精選貼文
- 關於application user interface 在 serpentza Youtube 的最讚貼文
application user interface 在 國立臺灣大學 National Taiwan University Facebook 的最佳解答
【臺大新版招生網站上線了】
New NTU Admissions Website
.
為整合外國及本地學生招生及入學資訊,臺大招生網站推陳出新,以響應式網頁設計新穎友善的使用者介面,除公告最新入學申請結果及資訊,也連結學系介紹及各項招生訊息,讓外國學生及本地學生能在同一網站下經由電腦、平板、手機等不同裝置,輕鬆查詢到適合自己的入學資訊,歡迎大家多加利用。
.
110學年度本地學生個人申請第二階段即將開始,博士班招生也已開始受理報名。另外,第二學期入學之國際學位生碩士與博士班招生亦將於今年8月開始報名,其中碩士班為首度開放第二學期入學申請,有興趣就讀本校的外國學生可提早準備。
.
新版招生網站入口: http://admissions.ntu.edu.tw
.
.
In efforts to integrate the admissions information of prospective international and local students, NTU is proud to present our new admissions website. Implementing responsive web design and providing a user-friendly interface, international and local students can easily look up admissions informationand application methods on their different devices, and make the most informed decisions in their applications.
.
For local students, the second phase of the 2021 individual applications is just around the corner, whereas applications for the 2021 Doctoral programs are currently open. For international students, the 2022 February entry Doctoral & Master’s programs will be open for application later this year in August. This is also the first time Master’s programs are available for the February intake. International students interested in these programs are encouraged to prepare early and take note of the application timeline.
.
New Admissions Website:http://admissions.ntu.edu.tw
application user interface 在 โปรแกรมเมอร์ไทย Thai programmer Facebook 的最佳貼文
ถ้าใครคิดว่าโปรแกรมเมอร์ทุกคน
จะเขียนโปรแกรมได้ครอบจักรวาลทุกหมวดหมู่
ท่านคิดผิดถนัด
เพราะพวกเขาจะถนัดและชำนาญแตกต่างกันออกไป
.
ถ้าจะเปรียบเปรยคงไม่ต่างกับสายอาชีพแพทย์
ที่แยกย่อยออกเป็นเฉพาะทาง
เช่น อายุรแพทย์, สูตินรีแพทย์, ศัลยแพทย์, จักษุแพทย์, จิตแพทย์, รังสีแพทย์, และกุมารแพทย์ เป็นต้น
.
ดังนั้นงานของโปรแกรมเมอร์
ก็สามารถซอยแยกย่อยออกมาเป็นถนนหนทางได้หลายสาย
พร้อมทั้งภาษาเขียนโปรแกรมก็นิยมต่างกันด้วย
โดยในมุมของผู้เขียนขอแบ่งสายงานประมาณนี้
(อาจตกหล่นไปบ้าง หรือผิดพลาดไปก็ขออภัย)
.
1. เดสก์ท็อปแอปพลิเคชัน (Desktop Application)
โปรแกรมเมอร์สายนี้ พวกเขาจะพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทำงานอยู่บนคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ หรือไม่ก็โน้ตบุ๊กเป็นหลัก ซึ่งเป็นสายงานยุคดั้งเดิมตั้งแต่โลกนี้เริ่มมีคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นมา
.
▶ ภาษาที่นิยมเช่น: C++, Java, Python, VB.NET, C#
.
2. โมบายล์แอปพลิเคชัน (Mobile Application)
เรียกว่าเป็นสายเกิดใหม่ เพราะตั้งแต่อุปกรณ์ เช่น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต ไอแพด และอื่นๆ บูมขึ้นมา มันเหมือนมีตลาดเกิดใหม่ จึงต้องการโปรแกรมเมอร์ที่จะมาพัฒนาซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์พวกนี้
.
▶ ภาษาที่นิยม Java, Kotlin, Objective-C, Swift
.
3. เว็บแอปพลิเคชัน (Web Application)
โปรแกรมเมอร์สายนี้จะพัฒนาเว็บไซต์ และเป็นสายที่ยังคงความนิยมไม่เสื่อมคลาย โดยข้อดีของเว็บไซต์ก็คือ ไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรทั้งสิ้น ขอให้มีอินเทอร์เน็ตเข้าถึง ก็ใช้งานเว็บได้แล้ว
.
ซึ่งงานพัฒนาเว็บไซต์ในองค์กรที่มีความซับซ้อนทางธุรกรรมเป็นอย่างสูง (Enterprise System) มักแบ่งงานออกเป็นสองส่วน ได้แก่
.
3.1) Front-end มักเรียกกันสั้นๆ ว่า หน้าบ้าน เป็นส่วนติดต่อผู้ใช้ (User interface) ไม่ว่าจะเป็น หน้าเว็บเพจ เนื้อหาต่างๆ รูปภาพ ลิงก์ เป็นต้น จะเป็นส่วนที่ผู้ใช้มองเห็นและใช้งานเว็บไซต์
▶ ภาษาที่นิยม HTML, CSS, JavaScript
.
3.2) Back-end มักเรียกกันสั้นๆ ว่า หลังบ้าน เป็นระบบจัดการเว็บไซต์เบื้องหลัง เช่น จัดการฐานข้อมูล เป็นต้น
▶ ภาษาที่นิยมเช่น PHP, ASP.NET, J2EE, Node.js, Rails
.
4. ซอฟต์แวร์สมองกลฝังตัว (Embedded System Software)
งานสายนี้เป็นการเขียนโปรแกรมบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น หุ่นยนต์ ระบบตู้เย็นอัจฉริยะ ระบบรถยนต์อัจฉริยะ เป็นต้น
.
▶ ภาษาที่นิยมเช่น C, C++, Python
.
5. พัฒนาเกม (Game Development)
โปรแกรมเมอร์จะมีหน้าที่สร้างเกม ซึ่งงานสายนี้ไม่ได้มีแค่การเขียนโปรแกรมอย่างเดียว เพราะการพัฒนาเกมจะมีงานส่วนอื่นอีก เช่น การวางพล็อตเรื่อง ดนตรี และการออกแบบตัวละครในเกม เป็นต้น
.
▶ ภาษาที่นิยมเช่น C++, C#, Java, HTML/CSS,/JavaScript
.
6. ใช้ความรู้วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ขั้นสูง
โปรแกรมเมอร์สายนี้จะพัฒนาซอฟต์แวร์ขั้นสูง เช่น ซอฟต์แวร์ระบบ และเครื่องมือสำหรับเขียนโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ หรืองานที่นิยมอย่างมากในยุคนี้ได้แก่ Data science (วิทยาการข้อมูล), Machine learning (การเรียนรู้เชิงลึก), AI (ปัญญาประดิษฐ์) ก็จัดอยู่ในสายนี้ด้วย
.
▶ ภาษาที่นิยมเช่น Python, R, Matlab
.
นอกจากนี้ก็ยังมีสายยิบย่อย เช่น
- Hybrid Application
▶ ภาษาที่นิยมเช่น HTML/CSS/JavaScript, C#, Lua, Dart
- สายงานอุตสาหกรรม งานพวก Measurement and Control Systems
▶ ภาษาที่นิยมเช่น LabVIEW
- ถ้าใช้งาน Database
▶ ภาษาที่นิยม SQL และตอนนี้ก็มีเทคโนโลยี NoSQL กำลังเป็นที่นิยม
.
.
ดังนั้นเราต้องรู้ว่าอยากไปทำงานสายใด
แล้วเลือกภาษาที่จะใช้เขียนให้ถูกต้อง
.
แต่กระนั้นก็ไม่เพียงพอ
การทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์
ไม่ได้มีแค่เขียนโปรแกรม
.
📗 ที่มา https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTcyNTQ4MyI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjEzMTQxMiI7fQ
.
.
.
.
.
.
ก่อนจากกันไปอยากจะแนะนำ
หนังสือ “โปรแกรมเมอร์ก็รวยได้ ด้วยเส้นทางเอาท์ซอร์สสายดำ”
เล่มนี้จะเล่าเรื่องราวของเอาท์ซอร์ส (Outsource) 🔥
ในสายงานซอฟต์แวร์เป็นหลัก
หนึ่งในเส้นทางโปรแกรมเมอร์จะสามารถอัพเดตเงินเดือน
ให้เกินครึ่งแสนในระยะเวลาอันสั้น
.
โดยจำหน่ายเป็นเล่มกระดาษจริง และอีบุ๊กส์
สำหรับตัวอย่างหนังสือ 👇
PDF: https://drive.google.com/file/d/1tAnMozeYd63dcbBGTQmT_ZrpSaamZS3e/edit
หรือดูจาก youtube: https://youtu.be/Ljf9iJhLcIs
.
รายละเอียดอ่านเพิ่มเติมได้ที่่ 👇
https://www.patanasongsivilai.com/blog/sale_book_rich_with_outsource/
.
✍ เขียนโดย โปรแกรมเมอร์ไทย thai programmer
เราจะผ่านโควิด-19 ไปกันนะทุกคคนนน
application user interface 在 BorntoDev Youtube 的精選貼文
หนึ่งในศาสตร์ที่เป็นความรู้ยุคใหม่ อัพเงินเดือนได้หลักหมื่น หลักแสน กับความรู้ด้าน User Experience หรือ การออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้งาน หลายครั้งเราเคยสงสัยไหมว่าทำไม หรือ อะไรที่ทำให้เราติดแอป หรือ เว็บ เกม หนังเรื่องนั้นมาก ๆ
.
เพราะหลายครั้งเบื้องหลังของความหลงไหลของเรา อาจถูกใครบางคนกำหนดไว้แล้วก็ได้ ดังนั้นเรามาดูความเข้าใจเบื้องต้นของ User Experience Design เรื่องราวการออกแบบ ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม กันเลย
.
สำหรับใครสนใจลงทะเบียน สั่งซื้อหลักสูตรการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ สามารถเข้าดูได้ที่นี่เลยครับ : https://www.borntodev.com/complete-ux-ui-design/
.
?BorntoDev Channel คือ ช่องยูทูปที่เน้นสาระด้านเทคโนโลยี ไปพร้อมกับความสนุกสนาน และ รอยยิ้มเข้าไว้ด้วยกันทั้งในรูปแบบบทเรียน และ vlog
เพื่อการเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ด้านการพัฒนาโปรแกรม และ เทคโนโลยีแบบเดิม ๆ ที่เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มให้เข้าถึง เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยพัฒนาเน้นไปที่รูปแบบการนำเสนอใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรกับทุกคน
โดยมีผู้ดำเนินรายการหลัก 2 คนคือ
"เปรม BorntoDev" ผู้ชื่นชอบ และ หลงไหลด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รวมถึงการพัฒนาโปรแกรมเป็นชีวิตจิตใจ มีความสุขมากที่ได้ถ่ายทอด และ แลกเปลี่ยนความรู้ เพราะทำให้นึกถึงสมัยยังเป็นเด็กที่เริ่มต้นเขียนโปรแกรมแล้วได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีในโลก Internet ที่ไม่เคยเห็นหน้าตากันมาก่อน แต่กลับยินดีแบ่งปันให้กัน
"ไกด์ BorntoDev" ชายผู้ที่บอกว่าเป็นพี่น้องกับคนข้างบนหรือเปล่า คำตอบคือไม่ใช่ แต่เขาสนใจด้านเทคโนโลยี การพัฒนาแอปพลิเคชัน ชอบความสนุก จัดกิจกรรม และ ที่ไม่พลาดคือการซื้อเกมมาดองแล้วไม่ได้เล่น เห็นหน้านิ่ง ๆ แบบนี้ดองเกมใน Steam เป็นแสน ๆ นะบอกเลย
▲ กิจกรรมใน Channel BorntoDev เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานของ บริษัท บอร์นทูเดฟ จำกัด ที่เปิดรับ Partners ที่สนใจร่วมเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยเป็นสังคมด้านวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น หากคุณสนใจสนับสนุน และ ก้าวไปพร้อมกัน สามารถติดต่อร่วมงานได้แล้ววันนี้
▲ ติดต่อโฆษณา สนับสนุน และ ร่วมงานได้ที่: borntodevth@gmail.com
application user interface 在 BorntoDev Youtube 的精選貼文
รู้ไหมว่าการออกแบบแอปสักตัวนึงไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่เป็นการใส่ใจในรายละเอียดเพื่อคำนึงถึงความรู้สึกของผู้ใช้งานให้สูงที่สุด ถ้าหากเราอยากลองมาทำแบบทดสอบว่า "ทักษะของเราอยู่ในระดับไหน" หละก็ มาเล่นกันได้เลย !
https://cantunsee.space/
▲ ติดตามช่องของเราได้ที่ : http://bit.ly/borntoDevSubScribe
▲ Facebook : https://www.facebook.com/borntodev
▲ Website : http://www.borntodev.com
?BorntoDev Channel คือ ช่องยูทูปที่เน้นสาระด้านเทคโนโลยี ไปพร้อมกับความสนุกสนาน และ รอยยิ้มเข้าไว้ด้วยกันทั้งในรูปแบบบทเรียน และ vlog
เพื่อการเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ด้านการพัฒนาโปรแกรม และ เทคโนโลยีแบบเดิม ๆ ที่เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มให้เข้าถึง เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยพัฒนาเน้นไปที่รูปแบบการนำเสนอใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรกับทุกคน
โดยมีผู้ดำเนินรายการหลัก 2 คนคือ
"เปรม BorntoDev" ผู้ชื่นชอบ และ หลงไหลด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รวมถึงการพัฒนาโปรแกรมเป็นชีวิตจิตใจ มีความสุขมากที่ได้ถ่ายทอด และ แลกเปลี่ยนความรู้ เพราะทำให้นึกถึงสมัยยังเป็นเด็กที่เริ่มต้นเขียนโปรแกรมแล้วได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีในโลก Internet ที่ไม่เคยเห็นหน้าตากันมาก่อน แต่กลับยินดีแบ่งปันให้กัน
"ไกด์ BorntoDev" ชายผู้ที่บอกว่าเป็นพี่น้องกับคนข้างบนหรือเปล่า คำตอบคือไม่ใช่ แต่เขาสนใจด้านเทคโนโลยี การพัฒนาแอปพลิเคชัน ชอบความสนุก จัดกิจกรรม และ ที่ไม่พลาดคือการซื้อเกมมาดองแล้วไม่ได้เล่น เห็นหน้านิ่ง ๆ แบบนี้ดองเกมใน Steam เป็นแสน ๆ นะบอกเลย
▲ กิจกรรมใน Channel BorntoDev เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานของ บริษัท บอร์นทูเดฟ จำกัด ที่เปิดรับ Partners ที่สนใจร่วมเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยเป็นสังคมด้านวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น หากคุณสนใจสนับสนุน และ ก้าวไปพร้อมกัน สามารถติดต่อร่วมงานได้แล้ววันนี้
▲ ติดต่อโฆษณา สนับสนุน และ ร่วมงานได้ที่: borntodevth@gmail.com
application user interface 在 serpentza Youtube 的最讚貼文
Everyone loves China's innovative bike sharing schemes... Well they used to! People still love to ride them, but new companies are flooding the market and the amount of these bikes around the city are insane! They're becoming a problem and are being neglected, left in strange places, vandalised and you won't believe the footage I have of them in this video! Come and see how bike sharing has gone overboard in China!
Mobike (Chinese Simplified: 摩拜单车, Mo-bai bicycle), founded and owned by Beijing Mobike Technology Co., Ltd. (Chinese Simplified: 北京摩拜科技有限公司), is a fully station-less bicycle-sharing system headquartered in Beijing, China. It is the world's largest bicycle operator, and in December 2016, made Shanghai the world's largest bike-share city.
In January 2017, Mobike raised $215 million in Series D funding led by Tencent and Warburg Pincus.
Access to Mobike bicycles is achieved using the purpose-built Mobike application, which requires a pre-paid 299 yuan fee to prevent deliberate damage of Mobike property. Each user is required to register using their mobile number alongside his/her national identification number (Passport identification and verification is also available for non-Chinese citizens). The software automatically disallows users under the age of 14 to use the app, through the identification number.
To use a bicycle, a user presses the black button near the bottom labeled "扫码开锁" (Scan code to unlock), which brings up a QR-code scanning interface, which requires the user to place the QR-code of a bicycle into the scanning area, after which the software will produce a low-toned beep to indicate a success in scanning the code. After a successful scan a progress bar will appear on the screen, indicating the "Progression of unlocking". With a successful unlock, the electronic lock on the bike will produce three short beeps followed by the characteristic "Tuck" sound generated by the lock opening. In the app, the progress bar fills to 100%, and the notice "开锁成功" (Unlock successful) appears for a short period before getting replaced by the rental timing interface. This interface also records the distance traveled, time spent, energy the user spent using the vehicles (in kCals), and an orange banner indicating the number of the bike and the estimated cost of using the bike. The first three stats shown on the interface will be added to the total value on the user page, while the cost will be deducted from the user's account. If several seconds elapse after the bar fills to 98% without starting the trip in the APP, an error will be reported to the user asking them to try again or change to another bicycle.
Availability in deployed cities is high, but reduces as the distance from the city center increases. Many Mobike bicycles can be found at entrances to metro stations. It is currently deployed in dozens of Chinese cities, which includes but are not limited to Beijing, Shanghai, Guangzhou, Shenzhen, Chengdu, Ningbo, Xiamen, Foshan, Zhuhai, Changsha, Hefei, Shantou, Haikou, Deyang, Nanning, Xi'an and Wuhan.
⚫ Watch Conquering Southern China (my documentary) and see China like no one outside of China has ever seen it before: https://vimeo.com/ondemand/conqueringsouthernchina
⚫ Support me on Patreon: http://www.patreon.com/serpentza
Join me on Facebook: http://www.facebook.com/winstoninchina
Twitter: @serpentza
Instagram: serpent_za
My other channel: https://www.youtube.com/c/advchina
Music used: Tourach - Fly By Night